รักปานจะกลืนกิน คงอธิบายเป็นภาษา 5G ได้ว่า ไอ้ต้าวคลั่งรัก และสำหรับแฟนคลับน้ำดี การที่เรารักและสนับสนุนศิลปินก็คือการติดตามผลงานบันเทิง ติดตามข่าวสาร ไปดูคอนเสิร์ต ไปแฟนมีตฯ ต่างๆ นานา ศิลปินก็คงดีใจไม่น้อยที่มีด้อมคอยซัปพอร์ตอยู่เสมอ
แต่หากอาการคลั่งรัก ปะทุจนรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว คุกคาม และล่วงละเมิดศิลปินไปจนถึงก้าวข้ามเส้นแบ่งทางกฎหมาย นั่นไม่ใช่ แฟนคลับน้ำดี…แต่มันคือ แฟนคลับสายมืด ที่ในวงการเคป๊อปเรียกว่า ซาแซง อย่างกรณีล่าสุด ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี ที่โดนพิษซาแซงเข้าอย่างจัง จนถึงขนาดโพสต์ตัดพ้อผ่านทาง X หรือทวิตเตอร์
ไบร์ทกับวันหยุดที่ไม่เคยได้หยุด
เรื่องมีอยู่ว่า ในวันหยุดหนุ่มไบร์ทพาคุณแม่ไปพักผ่อนเป็นการส่วนตัว หลังจากเดินทางไปถึงก็พบว่ามีกลุ่มแฟนคลับสตอล์กเกอร์ปล่อยรายชื่อและที่อยู่โรงแรมที่มาพัก ถึงขนาดย้ายหนีก็แล้ว ก็ยังนั่งแท็กซี่ตามไปยืนออหน้าโรงแรมเป็นจำนวนมาก
ไบร์ทจึงออกมาโพสต์ผ่านทาง X หรือทวิตเตอร์ ขอความกรุณาไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก แต่หากเป็นตามงาน ตามอีเวนต์ ก็สามารถมาร่วมจอยทักทายกันได้เต็มที่
ซึ่งไม่ใช่แค่กรณีของหนุ่มไบร์ทเท่านั้น…ยังมีเหล่าไอดอล และเซเลบฯ มากมาย ที่ล้วนแล้วแต่เจอพิษคลั่งรักของซาแซง ตั้งแต่การ (เกือบโดน) ลักพาตัวของ EXO ป้ายบิลบอร์ดนัดเดต เจนนี่ BLACKPINK ไปจนถึงการใช้เลือดประจำเดือนเขียนจดหมายส่งให้แทคยอน 2PM (ยี้!) แล้วมาดูกันว่าบรรดาซาแซงไปสุด (ในทางที่ไม่ดี) แค่ไหน ชนิดที่ว่าแฟนคลับน้ำดีอย่างเราจินตนาการไม่ถึงทีเดียว
วางแผนลักพาตัวและการคุกคามวง EXO
ในการรวมตัวของ EXO ในช่วงปีแรกๆ หลังจากหนุ่มๆ เสร็จพันธกิจตามปกติ และกำลังเดินลงมาจากอาคารเพื่อขึ้นรถตู้ แต่แล้วผู้จัดการก็สังเกตเห็นบางสิ่งผิดปกติจึงชะลอการขึ้นรถ ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด! เพราะรถตู้คันนี้ดันเหมือนกับของ EXO เป๊ะๆ และเป็นรถที่แฟนคลับซาแซงเช่ามา แถมตั้งใจจอดบริเวณเดียวกันอีกด้วย
ความน่าสงสารของศิลปินยังไม่หมดเท่านี้ ขณะที่หนุ่มๆ EXO เข้าห้องน้ำก็พบว่า มีกลุ่มแฟนคลับซาแซงในห้องน้ำชาย โดยที่ทั้งหมดนี้เป็นผู้หญิงที่ตัดผมสั้นเกรียนและใส่ชุดผู้ชาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเหล่าสมาชิกในวงก็ผลัดกันเฝ้าหน้าห้องน้ำเวลาทำกิจเสมอ (สงสารมากค่ะ)
อีกกรณีหนึ่งเกิดขึ้นกับ ซูโฮ EXO หลายครั้งที่ศิลปินจะต้องเดินทางไปทำงานและพักที่โรงแรมต่างประเทศ ก็ไม่วายเจอแฟนซาแซง (ฉบับโกอินเตอร์) ที่แอบบุกเข้าไปติดตั้งกล้องภายในห้องฟิตเนสของโรงแรม (นี่แฟนคลับหรือสายลับ?) โชคดีที่ซูโฮสังเกตเห็นก่อนจึงรีบเอามือปิดหน้า แล้วแจ้งผู้จัดการทันที
เหตุการณ์ก่อจลาจลของซาแซง BTS ไปจนถึง BLACKPINK
ไม่แปลกที่แฟนคลับหลายคนออกไปต้อนรับศิลปินที่สนามบิน และหากเป็นซาแซงแล้ว พฤติกรรมเหล่านั้นจะก้าวร้าวกลายมาเป็นการก่อจลาจลย่อมๆ เช่นในกรณีของ BTS ครั้งที่ไปแสดงคอนเสิร์ตที่อินโดนีเซีย แฟนคลับซาแซงหลายคนเข้าประชิดศิลปิน และถึงเนื้อต้องตัวแบบไม่ทันระวัง มิหนำซ้ำ จองกุก โกลเดนมักเน่ ที่ดูเหมือนจะถูกคลั่งเป็นพิเศษ ก็โดนซาแซงวิ่งตามและคว้าข้าวของอย่างน่าตกใจ แม้ว่าจะมีแฟนคลับน้ำดีตะโกนบอกซาแซงให้หยุดพฤติกรรมทำร้ายศิลปินเดี๋ยวนี้…แต่ก็มิได้นำพา
ส่วน วี BTS นั้นดูเหมือนจะมีวิธีการจัดการซาแซงแบบถึงพริกถึงขิง เมื่อเขาถูกหญิงสาวยื่นโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปแบบประชิดจนแทบจะโดนใบหน้าอยู่แล้ว วีจึงตัดสินใจเลียนแบบพฤติกรรมโดยหยิบมือถือมาถ่ายหน้าแฟนคลับ (เหรอ?) รายนี้กลับบ้าง เล่นเอาซาแซงคนนี้รีบก้มหน้างุดวิ่งหนีแบบไปไม่เป็นเลยทีเดียว
และในส่วนของ 4 สาว BLACKPINK นั้นเกิดที่สนามบินขณะที่พวกเธอไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งแฟนๆ หลายร้อยคนต่างกรูกันมาต้อนรับจนเบียดเสียดเกินกว่าที่ทีมรักษาความปลอดภัยจะจัดการได้ จากนั้นเหล่าซาแซงจึงเริ่มปีนรถตู้และรถตำรวจเพื่อดู 4 สาวแบบชัดเจนมากขึ้น ซึ่งความคลั่งไคล้ครั้งนี้ทำให้การจราจรในละแวกนั้นติดขัดไปหมด ไม่ใช่แค่ 4 สาว BLACKPINK เท่านั้นที่เคลื่อนตัวไม่ได้ แต่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็ด้วย!
เจนนี่กับป้ายบิลบอร์ดบอกรัก
ครั้งหนึ่ง คริสเตียน อัลเบิร์ต กาซา นักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ควักเงินกว่า 1.5 ล้านเปโซ หรือประมาณ 29,800 ดอลลาร์ เพื่อขึ้นข้อความบนป้ายโฆษณาที่ห่างจากอาคารสำนักงานใหญ่ YG ในกรุงโซลไม่กี่กิโลเมตร โดยข้อความระบุเป็นภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษโดยมีใจความว่า “คิม เจนนี่ รูบี้ เจน คุณคือคนที่ผมตกหลุมรักที่สุด ผมขอพาคุณไปดินเนอร์และทำให้ผมเป็นคนที่มีความสุขที่สุดได้ไหม” หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป บรรดาบลิงก์ทั่วโลกต่างจวกเละ พร้อมปลุกกระแสแฮชแท็ก #protectjennie และ #leavejenniealone ขึ้นมา
จดหมายเลือด
ข่าวซาแซงที่กลายเป็น Talk of The Town ต้องย้อนกลับไปในปี 2009 เมื่อ แทคยอน 2PM ได้รับจดหมายจากแฟนคลับ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องปกติทั่วไปถ้าจดหมายนั้นไม่ได้มาจากเลือด!
โดยซาแซงสาวผู้นี้ส่งจดหมายที่เขียนด้วยเลือดประจำเดือน ระบุข้อความเป็นภาษาเกาหลีมีใจความว่า “ฉันขอยกจดหมายที่เขียนด้วยประจำเดือนของฉันนี้ให้กับแทคยอน โอเค แทคยอน คุณอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีฉัน ฉันโรยเส้นขนตรงนั้นของฉันมาให้ด้วย”
เรียกได้ว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นไวรัลไปชั่วข้ามคืน และเพื่อเป็นการยืนยันว่าซาแซงรายนี้ใช้เลือด (จากประจำเดือน) จริงไม่ได้จัดฉาก เธอถึงขั้นโพสต์ภาพผ้าอนามัยใช้แล้วโชว์สู่สาธารณะ และเมื่อแฟนคลับตามสืบจนรู้ตัวตน ซาแซงรายนี้ก็โดนสาปหนักแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลยทีเดียว
การรับมืออย่างชาญฉลาดของจัสติน บีเบอร์
ไม่ใช่แค่ฝั่งเคป๊อปเท่านั้น แต่ฝากฝั่งอเมริกาก็เป็นเรื่องเป็นราว เมื่อ จัสติน บีเบอร์ ก้าวลงจากรถ เพื่อกลับเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัว แต่เขากลับถูกแฟนคลับกลุ่มหนึ่งตามติดและขอให้มาถ่ายรูป ทันใดนั้นนักร้องหนุ่มก็เดินไปหาแฟนคลับกลุ่มนี้ และกล่าวปฏิเสธอย่างสุภาพว่า “ผมได้ยินคุณแล้วครับ ผมได้ยินแล้ว แต่นี่คือบ้านของผม คุณรู้ใช่ไหม? นี่คือที่ที่ผมอยู่…และผมไม่ชอบใจเลยที่พวกคุณมาที่นี่ นึกออกไหมเวลากลับถึงบ้านตอนดึกๆ และอยากพักผ่อนน่ะ นี่คือพื้นที่ของผมที่จะพักผ่อน ผมจะขอบคุณมากถ้าพวกคุณกลับไป”
หลังจากถูกปฏิเสธ แฟนคลับรายนี้ก็ดันพยายามขอกอดไปอีกหนึ่งกรุบ (เอ้า!) ชาวเน็ตทั้งหลายต่างชื่นชมในวิธีการรับมืออย่างสุภาพของจัสติน และแสดงความเห็นอกเห็นใจกันยกใหญ่
ดารา เซเลบฯ ศิลปิน ต่างก็เป็นมนุษย์ ทุกคนมีพื้นที่คอมฟอร์ตของตัวเอง ดังนั้นเราในฐานะแฟนคลับน้ำดีที่นอกจากชื่นชมในผลงานต่างๆ แล้ว การเคารพในสิทธิดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
ลิปส์จึงขอยกประโยคของ ARMY (ชื่อแฟนด้อมวง BTS) ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @Isabella-bf4et ซึ่งโพสต์ภายใต้คลิปที่วี BTS โดนคุกคาม และได้รับการคอมเมนต์ตอบรับอย่างล้นหลาม โดยข้อความระบุว่า “หากคุณเป็น ARMY ที่แท้ทรู คุณจะเคารพในพื้นที่ส่วนบุคคลของพวกเขา…ไม่ใช่แค่ ARMY นะ ถ้าคุณเป็นคนดี คุณจะเคารพในพื้นที่ส่วนบุคคลของทุกคน”
ลิปส์ – ในฐานะด้อมของศิลปินทุกคนและทุกวง เห็นด้วย 1,000 เปอร์เซ็นต์
Words: Varichviralya Srisai
ข้อมูลจาก:
