นับตั้งแต่ปี 2016 Jacob & Co. (จาคอบ แอนด์ โค.) ได้เปิดตัวนาฬิกา Astronomia (แอสโทรโนเมีย) ซึ่งเป็นเรือนเวลาที่ปฏิวัติวงการด้วยความซับซ้อนและสัดส่วนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน นำเสนอความน่าทึ่งจากการเคลื่อนโคจรดุจดวงดาวขององค์ประกอบกลไกสู่สายตา และสานต่อด้วยเวอร์ชั่นต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2023 นี้ก็ได้ออกเวอร์ชั่นใหม่ในชื่อ Astronomia Revolution (แอสโตรโนเมีย เรโวลูชั่น) ขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งถูกออกแบบเพื่อความเร็ว ความแม่นยำสูง และประสิทธิภาพทางสุนทรียภาพสูงสุด
นาฬิกา Astronomia Revolution เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ก้าวกระโดดไปอีกระดับในแง่ของการออกแบบ ความซับซ้อน นวัตกรรม และความเร็ว โดยเริ่มต้นจาก กลไกสามมิติ Caliber JCAM48B (คาลิเบอร์ เจซีเอเอ็ม48บี) ที่สามารถโคจรได้รอบ 360 องศาในระยะเวลา 60 วินาที มีแกนหมุนสองแกนเป็นแกนหมุน โดยมีแกนที่สามเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งการควบคุมความเร็วนี้ ได้ถูกจดสิทธิบัตรเอาไว้ โดยชิ้นส่วนควบคุมความคงที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อควบคุมพลังงานมหาศาลจาก
Astronomia Revolution เปรียบดั่งการมีศูนย์กลางอยู่ที่ระบบสุริยจักรวาลที่เปรียบเสมือนสมาชิกของ Astronomia Collection ซึ่งเดินทางเร็วมากจนหลุดจากวงโคจรของดวงอาทิตย์ เพื่อเดินทางต่อไปอย่างไร้ขอบเขต
ดาวเด่นแห่งการเป็นผู้ผลิตนาฬิการ่วมสมัยนี้ สะท้อนทั้งความกระจ่างและความรู้สึก ในการบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Jacob & Co. ภายใต้วงโคจรแนวโค้งของโครงของดาวเทียม ถูกประดับด้วยแผ่นสะท้อนแสงจำนวน 18 ชิ้น ที่ได้แรงบันดาลใจจาก กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb Space Telescope โดยแผ่นสะท้อนแสงแต่ละแผ่นทำจากเรดโกลด์ 18 กะรัต ถูกขัดเงาในระดับสูงสุดและมีความลาดเอียงเล็กน้อยในมุมที่แม่นยำมากที่สุด พื้นผิวรังผึ้งที่สะท้อนแสงนี้เป็นการยอมรับให้กับการสำรวจอวกาศ และเป็นเครื่องมือที่ออกแบบเพื่อเป็นการยกย่องการปฏิวัติของดาวเทียม สุดท้ายกับตัวเรือนที่ถูกโอบรัดด้วยวัสดุที่ผลิตจากแซฟไฟร์แบบโปร่งใส เพื่อโชว์ให้เห็นความน่าทึ่งในแบบ 360 องศา
พร้อมกันนั้นยังแสดงค่าเวลาวินาทีด้วยเข็มรูปลูกศรปลายหมุนรอบตัว ที่ผลิตจากทับทิมสีแดง ความเร็วแนวโค้ง พลังมหาศาล ความบิดเบือนของแสง และ ระบบ Sky High Chronometry ที่นาฬิกา Astronomia มีวิวัฒนาการจนถึงจุดสูงสุดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” พันธกิจของ Jacob & Co. ยังคงเป็นจริงเหมือนเช่นเคย นับตั้งแต่การสร้างสรรค์แนวคิดของนาฬิกา Astronomia ที่ได้รับการพัฒนาทั้งทางเทคนิคแต่ยังรวมถึงอวกาศและห้วงเวลา ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์และปราศจากข้อจำกัดใดๆ โดยนาฬิกา Astronomia ยกระดับนาฬิกา Astronomia รุ่นดั้งเดิม สู่ขั้นตอนทางเทคนิคในระดับขั้นสูงสุด โดยทั้งสามแกนในแต่ละข้างมีฟังก์ชั่นขั้นสูง หมุนรอบแกนกลางอย่างราบรื่นด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ
นาฬิกา Astronomia เริ่มต้นการหมุนหนึ่งรอบในทุก ๆ 20 นาที จากนั้น Astronomia Solar ก็จะลดลงเหลือ 10 ซึ่งในส่วนของนวัตกรรมอื่นใช้เวลาถึง 5 นาที แต่ Astronomia Revolution ทำลายสถิติทั้งหมด ด้วยการหมุนรอบละหนี่งนาที
“เราดูแลกลไกของ Astronomia มาแปดปีแล้ว” CEO Benjamin Arabov (ซีอีโอ, เบนจามิน อราบอฟ) กล่าว “มันมีเอกลักษณ์ ไม่เคยมีมาก่อน และไม่ใช่แค่วิวัฒนาการของ Astronomia เท่านั้น โดยผลงานชิ้นนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งมันต้องการการปฏิวัติทางกลไก สิ่งประดิษฐ์และสิ่งที่เรา Jacob & Co. ใช้ในการขับเคลื่อน นาฬิกา Astronomia Revolution จึงเป็น “แรงบันดาลใจจากสิ่งที่เป็นไปไม่ได้” และเราทำให้มันเป็นไปได้”
นาฬิกา Astronomia Revolution ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 18 เรือน โดย 6 เรือน ผลิตจากโรส โกลด์, 6 เรือน ผลิตจากไวท์ โกลด์ และ 6 เรือน ผลิตจากไวท์ โกลด์ ที่เคลือบผิวด้วย DLC สีดำ ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 47 มิลลิเมตร และความหนารวม 27 มิลลิเมตร ที่บรรจุกลไก Caliber JCAM48B และชิ้นส่วนของฟังก์ชั่นการทำงานทั้งหมด กระจกหน้าปัด Domed Sapphire พร้อมกับเคลือบตัดแสงสะท้อน จับคู่มากับสายคอร์ดูราสีดำที่ประกบแผ่นยางไว้ด้านหลัง พร้อมตัวล็อกทอง 18K สีเดียวกับเวอร์ชั่นตัวเรือน สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 600,000 ดอลลาร์สหรัฐ
Words: Ayu Kulahathai
