“ข้าพเจ้าต้องการใช้เทคนิคที่แตกต่างออกไปในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าของข้าพเจ้าจากวิธีการที่ใช้ในตอนนั้น ข้าพเจ้าต้องการให้มันถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกับอาคาร ดังนั้นข้าพเจ้าเลยจำลองแบบเดรสของข้าพเจ้า ไปตามความโค้งเว้าของเรือนร่างของสตรี เพื่อเน้นให้ความสำคัญไปที่รูปทรงของมัน”
Maria Grazie Chiuri ครุ่นคิดถึงประเด็นคำถามเหล่านั้นซ้ำไปซ้ำมา ภายใต้บทบาทผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ DIOR แฟชั่นเฮ้าส์เก่าแก่ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในเรื่องของงานช่างฝีมืออันแสนประณีตและงดงามระดับโอต์ กูตูร์ เธอเริ่มต้นการทำงานครั้งใหม่นี้ ด้วยวิธีการอันแสนเรียบง่าย นั่นคือ การตั้งคำถามถึงความหมายของ “แฟชั่น” คำถามดังกล่าวนี้เองที่เป็นหัวใจสำคัญของแฟชั่นโชว์ โอต์ กูตูร์ ครั้งที่ผ่านมาของเธอ ซึ่งชวนให้ต้องหวนรำลึกไปถึง “Are Clothes Modern?” นิทรรศการ MoMA ในปีค.ศ. 1944 ที่กำกับโดย Bernard Rudofsky สำหรับคอลเล็กชั่น Fall 2020 เธอเลือกใช้โอกาสนี้ สื่อถึงตัวตนที่เป็นของตัวเธอเอง ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความละเอียดปราณีตในแบบผลงานกูตูร์แบบอิตาเลี่ยน ผสมผสานเข้ากับงานกูตูร์ในแบบฉบับฝรั่งเศสโดย Christian Dior ผลลัพธ์ที่ได้รับ ออกมาเป็นคอลเล็กชั่นที่สอดคล้องไปกับหลักปฏิบัติของ Dior การหวนกลับไปจับเรื่องของอัตลักษณ์และองค์ความรู้ด้านงานช่างฝีมือทั้งแบบฝรั่งเศสและอิตาเลี่ยน โดยเผยให้เห็นถึงความสำคัญของรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ทว่าในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีร่วมกันด้วย การให้ความสำคัญกับสถาปัตยกรรมของผลงานสร้างสรรค์แต่ละชิ้น ซึ่งเกิดมาจากการมาพบกันของไอเดีย วัสดุ และรูปทรง นำไปสู่ทางเลือกและให้กำเนิดแนวคิดของเนื้อผ้าแต่ละชิ้น เช่นเนื้อผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากความเข้มแข็งในแบบมัสคิวลีน พร้อมลวดลายและสีสันที่แตกต่าง ลายตารางถูกนำมาผสมผสานกับโทนสีเบจและสีดำ หรือการเลือกใช้โทนสีฟ้าและสีดำ ในขณะที่ลวดลายพรางและเทคนิคการมัดย้อมได้ถูกนำมาตีความใหม่ จนกลายมาเป็นผลงานที่น่าตื่นตาตื่นใจ
Bar jacket ชิ้นแฟชั่นอันเป็นตำนานของ DIOR ได้รับการนำกลับมาตีความใหม่อย่างท้าทาย เสื้อเชิ้ตอีกหนึ่งชิ้นแฟชั่นอันเป็นที่รักของแบรนด์ ก็ได้รับการนำกลับมาทำใหม่เช่นกันในหลากหลายสไตล์และความยาว องค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของ Maria Grazie Chiuri สามารถปรากฎให้เห็นได้อย่างเด่นชัดอยู่ในคอลเล็กชันนี้ ไมว่าจะเป็นกางเกงคูล็อตต์ กระโปรงคิลต์ กระโปรงพลีต เสื้ออโนรัค เสื้อพีโค้ต และเทร้นช์ มันคือแผนที่แห่งอารมณ์ความรู้สึก ที่ตั้งคำถามถึงความทันสมัยและเหตุผลของการมีอยู่ของแฟชั่น ที่มาพร้อมกับประสบการณ์ในเชิงแนวคิดและวิธีการเข้าถึงทางวัฒนธรรมได้อย่างละมุนละไมแยบคาย
นอกจากนี้ สำหรับการเปิดตัวคอลเล็กชั่น Fall 2020 โดย Maria Grazia Chiuri ทางแบรนด์ภูมิใจนำเสนอ “Bobby” กระเป๋า Iconic-Bag ใบล่าสุด กระเป๋ารุ่น Bobby มาในสไตล์แบบ Hobo Style ประดับตกแต่งด้วยตัวอักษรย่อ “CD” และตัวล็อคบัคเคิลอันงดงาม มีให้เลือกใน 3 ขนาดและ 4เฉดสี ได้แก่ สีดำ สีครีม สีคาเมล และเนื้อผ้าแคนวาส Dior Oblique ในโทนสีฟ้า โดยสื่อถึงความงามสง่า ความมั่นใจ และความเป็นอิสระ รูปทรงกระเป๋าอันโค้งมนละเอียดอ่อนถูกเสริมไว้ด้วยสายสะพายที่เข้ากันทำจากหนัง หรือแคนวาส Dior Oblique ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของตัวกระเป๋า เพื่อให้ได้ลุคแบบกูตูร์ ทั้งนี้ กระเป๋ารุ่น Bobby ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สื่อถึงจิตวิญญาณร่วมสมัยของ DIOR อย่างแท้จริง ที่ผสานความทันสมัยเข้ากับความงามอันไร้ซึ่งกาลเวลา และยังเป็นการร่วมรำลึกถึงสุนัขอันเป็นที่รักของ Christian Dior โดยชื่อดังกล่าวยังถูกใช้กับลุคต่างๆ อีกมากมาย ทำให้ต้องย้อนไปถึงบทสัมภาษณ์ของเมอร์ซิเออร์ Christian Dior กูตูริเยร์ผู้เป็นตำนาน ได้เล่าไว้ในหนังสือบันทึกความทรงจำของเขา ที่กล่าวถึง ในทุกผลงานแต่ละคอลเล็กชั่นที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น จะมีชุดสูทที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และแน่นอนว่า ชื่อของมันคือ “Bobby” เพื่อระลึกถึงสุนัขตัวโปรดของเขานั่นเอง
สำหรับหญิงสาวขบถทางความคิด มีจิตใจที่รักในอิสระเสรี ไม่กลัวที่จะแตกต่าง พวกเธอผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง คือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเข้มแข็งในแบบมัสคิวลีนและความอ่อนหวานในแบบเฟมีนีนได้อย่างลงตัว คุณสมบัติเหล่านี้เอง ที่ทำให้พวกเธอทุกคนคือ ตัวแทนของผู้หญิงในยุคปัจจุบันตามแบบฉบับหญิงสาวของ DIOR ได้เป็นอย่างดี
┃Christian Dior จากหนังสือ Dior by Dior, 1956
┃Original Text : Torrinee
