Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview / People

ครั้งแรกที่ ‘พลอย เฌอมาลย์’ และ ‘แอริน ยุกตะทัต’ เปิดเรื่องรักที่ไม่เคยพูดในเรียลลิตี้โชว์ Deane’s Dynasty

Interview / People

ครั้งแรกที่แพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง HBO เจาะจงทำเรียลลิตี้โชว์ครอบครัวคนไทย และเบอร์ไปออกที่บ้าน ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ & แมทธิว ดีน ที่นอกจะให้กล้องตามถ่ายชีวิตครอบครัวถึงหนึ่งปีเต็ม จนได้ผลผลิตเป็นเรียลลิตี้โชว์ 8 ตอน Deane’s Dynasty กล้องยังตามไปถ่ายอีกส่วนที่สำคัญสำหรับทั้งสองมากก็คือ ‘เพื่อน’

นั่นทำให้ LIPS มานั่งข้างๆ เพื่อนสนิทจนเรียกได้ว่าเป็นสมาชิกครอบครัวดีน พลอย – เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดความรักเบื้องลึกในแบบที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน และ แอริน – สิรีภรณ์ เบญจรงคกุล (แอริน ยุกตะทัต) ที่ออกมาพูดเองครั้งแรกถึงการตัดสินใจแต่งงานที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม??? 

“เรารับงานนี้ ไม่ใช่แค่เพราะ HBO แต่มันเป็นโอกาสที่เราจะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในโมเมนต์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของเพื่อน”

LIPS: ความสนิทของเดอะแก๊ง ลีเดีย – แอริน – พลอย เริ่มต้นอย่างไร

พลอย: พลอยชอบเพลงของน้อง ‘ลีเดีย’ มาก ตั้งแต่ออกอัลบั้มแรก (ปี 2548) กับค่ายอาร์เอส รู้สึกว่าเด็กคนนี้ร้องเพลงได้ยูนีกจัง สมัยนั้นยังไม่มีนักร้องไทยคนไหนร้องเพลง R&B ได้ดีขนาดนี้ จนกระทั่งวันเกิดในปีหนึ่ง พลอยได้ไปอัดรายการของพี่นิด (อรพรรณ วัชรพล) ช่วงนั้นพี่นิดกำลังหานางเอกเรื่อง ‘ระบำดวงดาว’ (ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2553) ซึ่งพลอยรับเล่นไปแล้วก่อนหน้านี้ พอถ่ายรายการเสร็จ พี่นิดขอให้ช่วยอยู่แคสต์นางเอกใหม่ พอรู้ว่าเป็นลีเดีย เราก็เลยอยู่ต่อแบบไม่ลังเล จนได้เจอกับน้องเป็นครั้งแรก

‘แอริน’ ก็รับเล่นเรื่องนี้ด้วย พอรู้ว่ามีแอก็ยิ่งดี เพราะเราเจอกันตาม Circle of Friends อยู่บ่อยๆ น้องน่ารัก เซย์ไฮตลอด แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คุยกันมาก พอถ่ายละคร ต่างคนก็ต่างตั้งใจทำงาน เพราะกองค่อนข้างซีเรียส

แอริน: จำได้ว่าบทเครียด เราถ่ายกันยาวเป็นปีเลยเนอะ พี่พลอย

พลอย: ใช่ๆ ทุกคนซีเรียสกับบทของตัวเอง เราก็เลยยังไม่ค่อยได้คุยกันลึกซึ้ง แต่พอปิดกล้อง จบหน้าที่ในการแสดงไปแล้ว เราถึงได้รวมตัวกัน แล้วก็สนิทยาวมาถึงทุกวันนี้

LIPS: อะไรเป็นจุดเชื่อมโยงหรือแรงดึงดูดที่ทำให้คลิกกันจนกลายเป็นเพื่อนซี้

แอริน: แอว่าเพราะลีเดียนะ เขาเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของทุกๆ คน คือต้องเล่าก่อนว่าเดียเป็นคนที่นึกถึงคนอื่นมากๆ เวลาไปไหนหรือเห็นอะไร เขาจะนึกถึงเพื่อนคนนั้นคนนี้ อีกอย่างหนึ่งคือ เราเข้า-ออกบ้านเดียเหมือนเป็นบ้านตัวเอง แอกับเดียเล่นด้วยกันมาตั้งแต่ 10 กว่าขวบ พ่อแม่เรารู้จักกัน เราไปเที่ยวด้วยกันตลอด

พลอย: เดียรู้สึกว่าเราคือเพื่อนจริงๆ จนเป็นเหมือนคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นเวลาทำอะไร เขาจะนึกถึงพวกเราเสมอ อย่างแอสนิทกับครอบครัวเดียมานานแล้ว ส่วนพลอยมาสนิทในช่วง 10 กว่าปีนี้ ด้วยความที่เดียเป็นคนน่ารักมาก เขาแนะนำให้พลอยรู้จักกับคนที่บ้าน รวมถึงแอรินด้วย เลยกลายเป็นว่าเราสนิทกันหมด

“เวลาเดียมีอะไรดีๆ เขาจะชวนตลอด ประทานโทษนะคะ ตั้งแต่เอ็มวีตัวแรกของลีเดีย เพลง ‘ว่างแล้วช่วยโทรกลับ’ (ปี 2548) เดียเป็นคนชวนแอมาเล่นเอ็มวี”

LIPS: ทำไมแต่ละคนถึงตัดสินใจเข้าร่วมเรียลลิตี้ Deane’s Dynasty

พลอย: แรกสุดเดียบอกว่ามีโปรเจกต์ใหญ่มากๆๆ จะให้พี่พลอยทำ (ทำเสียงกระซิบเพื่อจำลองเหตุการณ์) พอเราถามว่าเป็นโปรเจกต์อะไรก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งวันหนึ่งที่เปิดเผยได้ ถึงบอกว่าเป็นเรียลลิตี้้ พลอยก็ว่าโอเค…ดีๆ พอบอกว่าออนทาง HBO นะ พลอยก็อู้ว…เหรอ? คือเรียลลิตี้ก็หนึ่งดอกละที่ชีวิตเราต้องเข้าไปอยู่ในนั้น เจอ HBO อีกดอก โอ้โห HBO เลยเหรอ!? มันโกลบอลมาก ทีนี้ตื่นเต้นแล้ว เพราะซีรีส์จะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย

ปกติพลอยค่อนข้างหวงชีวิตส่วนตัวมาก เพราะเราอยู่วงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก บางทีเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ เรากลับต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งคนรัก คนเกลียด ทั้งแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา เราเลยกังวลมาตลอด พอโตขึ้นพลอยเลยค่อนข้างรักความสงบเป็นส่วนตัว ตอนเดียชวนเลยคิดหนักอยู่เหมือนกันค่ะ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าเราควรรับงานนี้ ไม่ใช่แค่เพราะ HBO แต่มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขในโมเมนต์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของเพื่อน ถ้าไม่เข้าร่วมโปรเจกต์นี้ เราจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น

แอริน: เป็นแนว FOMO (Fear of Missing out)? (แอรินแซว)

พลอย: ใช่ FOMO มาก (หัวเราะ) ถ้าเขาเริ่มถ่ายทำกัน เราเข้าไปไม่ได้แล้วนะ

แอริน: ส่วนของแอคือ เวลาเดียมีอะไรดีๆ เขาจะมาบอก มาชวนตลอด ประทานโทษนะคะ ตั้งแต่เอ็มวีตัวแรกของลีเดียค่ะ เพลง ‘ว่างแล้วช่วยโทรกลับ’ (ปี 2548) เดียเป็นคนชวนแอมาเล่นเอ็มวี พอเดียชวนถ่าย Deane’s Dynasty เลยยินดีตอบรับโปรเจกต์นี้ เพราะแอเป็นแฟนเรียลลิตี้เมืองนอกอยู่แล้ว คือชอบมากแบบ ‘เฮ้ย..จะมีเราอยู่ในรายการเรียลลิตี้เหรอ? จะมีคนมาตามติดชีวิตเราแล้ว’ ถือเป็นโอกาสดีๆ ที่เราไม่เคยทำ อีกอย่างหนึ่งคือเดียทำอะไรก็ดีหมด แอเลยตาม (หัวเราะ)

“เรื่องส่วนตัวมากๆ เรากลับโดนวิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งคนรัก คนเกลียด พลอยเลยค่อนข้างรักความสงบเป็นส่วนตัว ตอนเดียชวนเลยคิดหนัก”

LIPS: นอกจากชีวิตคู่ของแมทธิว & ลีเดียที่เป็นเส้นเรื่องหลัก ทุกคนในเรียลลิตี้นี้ยังมีเส้นเรื่องย่อยของตัวเองที่ยิ่งเสริมความแซ่บนัวใน Deane’s Dynasty  

แอริน: หูย..ไม่ย่อยนะ คนอาจจะคิดว่า Deane’s Dynasty เป็นเรื่องของราวของเดียกับพี่แมทอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วเราในฐานะเพื่อนสนิทหรือ Family Friend ก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา อย่าง ‘ดั๊งก์’ (ดัง – ชญานนท์ วิสุทธิธาดา) กับ ‘ดั๊กกี้’ (ศรัณย์พร วิสุทธิธาดา) น้องชายและน้องสาวของลีเดียก็มีเส้นเรื่องของตัวเอง แล้วยังมีคุณพ่อคุณแม่ของลีเดีย มีแขกรับเชิญในวงการอีกเพียบ

LIPS: เส้นเรื่องของแอรินและพลอยส่งผลต่อความเข้มข้นของเรียลลิตี้นี้ยังไง

แอริน: ทุกคนอาจจะเห็นภาพผ่านสื่อหรือโลกโซเชียลว่า ‘โอเค้..แอรินได้แต่งงานแล้ว!’ มันคือภาพตอนจบ แต่จริงๆ แล้วกว่าจะถึงวันนั้นผ่านอะไรมาเยอะมาก และตอนที่แอกำลังวางแผนแต่งงานดันตรงกับช่วงที่กำลังถ่ายทำ Deane’s Dynasty พอดี ทุกเรื่องราวในดีเทลของการแต่งงานละเอียดอ่อน ทุกบทสนทนาที่เราพูดคุยกันจะได้รับการเปิดเผยในเรียลลิตี้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก ส่วนของพี่พลอยนี่เข้มข้นสุด (แอรินส่งต่ออย่างไว)

พลอย: แหม..เข้มข้นกลางๆ (หัวเราะ) ของพลอยเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความรักของตัวเองในช่วงเวลานั้น หลายคนที่เคยงงกับตัวพลอย หรือรู้สึกเซอร์ไพรส์จากข่าวก็อาจมีคำถามว่าทำไม? เพราะอะไร? เกิดขึ้นได้ยังไง? เรื่องราวความละเอียดอ่อนของความสัมพันธ์ที่อยู่ใน Deane’s Dynasty เป็นสิ่งที่พลอยไม่เคยพูดผ่านสื่อหรืออยู่ในการรับรู้ของสาธารณะมาก่อน แต่จะถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกใน HBO เท่านั้น

LIPS: ตอนนี้พลอยพร้อมแล้วที่จะเปิดเผยชีวิตส่วนตัวที่หวงแหน

พลอย: (นิ่งคิด) เอาจริงๆ แอบไม่พร้อม เอ…ไม่ใช่ไม่พร้อมหรอก แต่เราโกหกไม่ได้ไง เพราะมันคือเรียลลิตี้ มันคือชีวิตเรา ณ ตอนนั้น เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง สถานการณ์มันก็เห็นๆ อยู่ กล้องจับอยู่ เราพูดไม่จริงไม่ได้ ต้องพูดความรู้สึกจริงๆ ออกมาทั้งหมด

“เราในฐานะเพื่อนสนิทหรือ Family Friend ก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของเดียกับพี่แมท”

LIPS: ประสบการณ์ครั้งแรกใน Deane’s Dynasty ที่ไม่เคยได้รับจากการถ่ายทำหนังหรือละครทุกเรื่องในชีวิตคืออะไร

แอริน: โอ้โห ได้ทำงานกับกล้องถ่ายหนังตัวใหญ่ 3 ตัวที่คอยมาตามติดชีวิตสุดๆ ได้เห็นการทำงานเบื้องหลังของเมืองนอกว่า กว่าจะเป็นเรียลลิตี้ที่เราชอบดูต้องมีกระบวนการยังไง อีกอย่างคือได้ใช้เวลากับเพื่อน กับพี่พลอยมากขึ้น ได้อยู่กับคนที่เรารัก เพราะฝั่งแอก็มีเรื่องราวของสามี ซึ่งตอนถ่ายทำเรายังเป็นแฟนกัน เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิตว่า เรามีโอกาสได้ถ่ายเรียลลิตี้ที่อะเมซิงมาก

พลอย: เราได้มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากขึ้น มีตารางงานที่ต้องมารวมตัวกัน ไปเที่ยวกัน เพราะก่อนหน้านี้ต่างคนต่างทำงาน ต่างมีหน้าที่ของตัวเอง อย่างเดียก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล

LIPS: เรื่องเล็กน้อยแต่ประทับใจมากจาก Deane’s Dynasty คืออะไร

แอริน: เวลาเราอยู่ในบางสถานการณ์ของชีวิต เราอาจจะเห็นแต่แง่มุมของตัวเอง แต่ใน Deane’s Dynasty นอกจากจะถ่ายทอดมุมมองของเรา รายการยังไปถามเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวมาด้วย บางอย่างเขาไม่กล้าพูดต่อหน้า เช่น ห่วงเรายังไง รักเราแค่ไหน

พลอย: เราเพิ่งได้รู้อะไรแบบนี้ ไม่คิดว่าพี่แมทจะเป็นห่วงเราขนาดนั้นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้เรารู้ว่าเพื่อนๆ พี่ๆ รักและเป็นห่วงความรู้สึกเรามากแค่ไหน

“เพื่อนแท้และครอบครัวที่แท้จริง คือคนที่กล้าพูดในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าบอกเรา เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินจากคนอื่นมาก่อน”

LIPS: บทบาทของเราโดยทั่วไป เมื่อเพื่อนในกลุ่มมีปัญหากับแฟนล่ะ

แอริน: แอเป็นสายบวก พูดตรง มีอะไรก็เตือนเพื่อนตรงๆ ติตรงๆ ด่าก็ด่า ผิดก็คือผิด

พลอย: พลอยเป็นฝ่ายขอคำปรึกษามากกว่า อย่างเดียก็เป็นคนให้คำปรึกษาที่ดีเวลาเราระบายหรือเล่าอะไรให้ฟัง รวมถึงพี่ๆ น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ของเดีย บางทีพลอยอยากฟังมุมมองของคุณอื่นบ้าง เพราะถ้าเป็นคนอื่น เขาอาจจะยกหางเราว่า ‘ไม่เป็นไรหรอก’ ‘พลอยคิดถูกแล้ว’ หรือเพื่อนพลอยคนอื่นๆ อย่างมากสุดก็ ‘It’s OK, let’s move on.’ แต่บางครั้งเราไม่ได้ต้องการแค่คำปลอบใจ เราต้องการคนมาช่วยชี้ให้เห็นว่าเพราะอะไร? ทำไม? เราผิดตรงไหน? เราควรจะทำตัวยังไงให้มันดีขึ้น?

ในขณะที่บ้านเดียถ้าฟังว่าผิดก็คือผิด ไม่ถูกต้องก็คือไม่ถูกต้อง คนบ้านนี้กล้าพูดความจริงกับเรา ซึ่งนี่ละคือเพื่อนแท้ คือครอบครัวที่แท้จริง เขากล้าพูดในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าบอกเรา เป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยินจากคนอื่นมาก่อน

“แอว่าเป็นความรักที่เรียบง่ายและสบายมาก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ คือรู้แหละว่ารักกัน แต่ไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ”

LIPS: แมทธิว & ลีเดีย เป็นไอดอลหรือแรงบันดาลใจด้านใดสำหรับเรา

แอริน & พลอย: เรื่องครอบครัว (สองสาวประสานเสียงโดยมิได้นัดหมาย)

แอริน: คุณพ่อคุณแม่ลีเดียน่ารักมาก อย่างคุณแม่ได้ชื่อว่า ‘มาเฟียมัม’ เพราะนางรักและปกป้องลูกทุกคนมากๆ เดี๋ยวคนดูจะได้เห็นใน Deane’s Dynasty แน่นอน

พลอย: เป็น ‘คุณแม่นักสู้’ พลอยไม่เคยเห็นคุณแม่คนไหนสู้เพื่อลูกขนาดนี้ อีกอย่างที่เห็นคือคุณพ่อคุณแม่ของลีเดียเลี้ยงลูกดีมาก ให้การสนับสนุนที่ดี ให้ความรักความเข้าใจ แบบเข้าใจจริงๆ นะ ถ้าเป็นคุณพ่อคุณแม่คนอื่น ส่วนมากพอลูกโตก็จะปล่อยให้ใช้ชีวิตตามทางของตัวเอง แต่คุณพ่อคุณแม่ของลีเดียยังคอยดูแลเทคแคร์ทุกคน ที่สำคัญคือทั้งสองท่านรักกันมากๆ แบบรักเอยเตยหอมสุดๆ จนเราเกาหัวว่าอยากมีแบบนี้บ้าง

แอริน: พี่แมทกับเดียก็มาทรงนี้เนอะ (พูดพลางหันไปถามพลอย) แต่เดี๋ยวผู้ชมก็จะได้เห็นแล้วล่ะว่าในความเตยหอมก็ตีกันยับนะจ๊ะ

“ถ้าวันนี้มีความรักที่ดี ไม่จำต้องเพอร์เฟกต์มาก แต่เป็นความรักที่สมบูรณ์แบบในระดับหนึ่ง เท่านี้พลอยก็ดีใจแล้ว”

LIPS: มุมมองหรือชุดความคิดใดเกี่ยวกับความรักที่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก

แอริน: พอแต่งงานแล้วแอรู้สึกมั่นคงขึ้น อย่างสามีแอ เราไม่ได้เกรงใจกันขนาดนั้น เพราะเราเป็นเหมือนเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง แอว่าเป็นความรักที่เรียบง่ายและสบายมาก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ คือรู้แหละว่ารักกัน แต่ไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ (หัวเราะ) มุมมองแอตอนนี้คือถ้าความรักมัน simple เป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ สบายๆ เราก็อยู่คู่กันได้ยาวๆ ไม่ต้องพยายามมากเหมือนในอดีต

พลอย: มุมมองความรักของพลอยตอนนี้ไม่ค่อยเปลี่ยนไปมาก เพราะพลอยคิดว่าความรักก็คือความรัก คือความเข้าใจ พลอยเป็นคนที่อินนะถ้ารักใคร แล้วก็รักมาก แต่พลอยกลัวการแต่งงานมาตั้งแต่เด็กๆ ตอนโตก็ยังกลัวอยู่นิดหน่อย (เสียงแผ่ว) ครอบครัวพลอยเลิกกัน เราเลยกลัวจุดนี้ เคยคิดว่าไม่อยากแต่งงาน แต่พอโตขึ้นจนถึงจุดหนึ่งที่มีความเข้าใจในความรักมาทั้งหมด กระบวนความคิดของเราก็เปลี่ยนไป พลอยคิดว่าถ้าวันนี้มีความรักที่ดี ที่ไม่จำต้องเพอร์เฟกต์มาก แต่เป็นความรักที่สมบูรณ์แบบในระดับหนึ่ง เท่านี้พลอยก็ดีใจแล้ว

ถ้ามันจะพัฒนาไปถึงขั้นแต่งงาน พลอยก็ไม่ปฏิเสธ ต้องรอดูว่าเส้นทางต่อไปจะเป็นยังไง มันคงไม่หวานแหววสีชมพูเหมือนตอนเราอายุ 31 – 32 ที่แบบอั้ย…ย แต่งงาน! แต่งเล้ย! (ทำเสียงสดใสวัยมิลเลนเนียล) เราต้องดูหลายสิ่งหลายอย่างว่าจะไปด้วยกันได้ยังไง เป็นสเตปบายสเตปไปน่ะค่ะ พลอยคิดว่าตัวเองยังไม่โชคดีขนาดนั้น แต่เราก็อยากโชคดีนะ

Words: Sasi Akkomee
Photos: Somkiat Kangsdalwirun

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม