HOME / Article

‘Cartier and Women’ นิทรรศการแสดงพลังหญิง ผ่านเครื่องประดับชิ้นเปลี่ยนโลกจาก คาร์เทียร์

Article

บ่อยครั้งที่งานคอลลาบอเรชั่นนั้นทำให้เราเซอร์ไพรส์เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันสำหรับ‘Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women’ นิทรรศการสำคัญครั้งแรกที่ว่าด้วยบทบาทและอิทธิพลอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้หญิงในประวัติศาสตร์ ที่คาร์เทียร์ร่วมกันรังสรรค์ขึ้นร่วมกับพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง โดยนำผลงานล้ำค่าจากการรังสรรค์ของคาร์เทียร์ ไม่ว่าจะเป็นจิวเวลรี เรือนเวลา ศิลปวัตถุ หรือของตกแต่ง รวมทั้งบันทึกจากคลังผลงานตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบันมาจัดแสดงให้ผู้สนใจได้ชม ตั้งแต่บัดนี้ – 14 สิงหาคม 2566

‘Cartier and Women’ เผยเรื่องราวอันน่าหลงใหลเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของผู้หญิงกับจิวเวลรี พร้อมทั้งชูความเด่นของศิลปะจีนและศิลปะจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คาร์เทียร์ทั้งในด้านสไตล์การสร้างสรรค์ เทคนิคและวัสดุ ตลอดจนสุนทรียศาสตร์แบบจีนที่ส่งอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงและแฟชั่นทั่วโลก

สร้อยคอ Bib Necklace
สร้อยคอ Bib Necklace

สร้อยคอ Bib Necklace ตัวเรือนทองคำ และแพลทินัมประดับเพชร อเมทิสต์ และลูกปัดเทอร์คอยส์ ของ Wallis Simpson หรือ ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ (1896-1986)

Panthère Clip Brooch เข็มกลัดปองแตร์
เข็มกลัดปองแตร์

Panthère Clip Brooch เข็มกลัดปองแตร์ ผลงานการออกแบบอันล้ำค่าโดย ฌานน์ ตูแซงต์ (Jeanne Toussaint, 1887-1976) ผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์ ครอบครองโดย Wallis Simpson หรือ ดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ (1896-1986)

‘Cartier Collection Exhibition: Cartier and Women’

แบ่งเป็น 4 ส่วน โดยแต่ละส่วนมีแนวคิดที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  • นิทรรศการส่วนแรก “Royal and Aristocratic Women: Elegance and Prestige” ความสง่างามและเกียรติภูมิเชื้อพระวงศ์และสตรีชั้นสูง เชิดชูบทบาทสำคัญของเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงและสตรีชั้นสูงในยุคแรกของคาร์เทียร์ ช่วงศตวรรษที่ 19
  • นิทรรศการส่วนที่ 2 “New Women: Breaking with Tradition” หญิงยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับม่านประเพณีเดิมๆ เป็นการสำรวจความก้าวหน้าในงานออกแบบจิวเวลรี่ ที่สะท้อนถึงการปลดแอกสตรี
  • นิทรรศการส่วนที่ 3 “Inquisitive Women: Cross-cultural Inspirations” ผู้หญิงที่แสวงหาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ: แรงบันดาลใจข้ามวัฒนธรรม ซึ่งจะนำพาไปชมอิทธิพลของศิลปะจากประเทศจีนและภูมิภาคอื่นๆ ของโลก
  • นิทรรศการส่วนสุดท้าย “Influential Women: Glamorous Legends” สตรีผู้ทรงอิทธิพล: ตำนานอันเจิดจรัส เป็นการสำรวจความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเครื่องประดับคาร์เทียร์กับสตรีสมัยใหม่และสตรีร่วมสมัยผู้เป็นไอคอนผลงานชิ้นเด่นส่วนหนึ่งมาจากคอลเล็กชั่นส่วนตัวของสตรีระดับบุคคลสำคัญและสตรีที่มีชื่อเสียง
แหวนหมั้นของ เกรซ เคลลีหรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก (1929-1982)
แหวนหมั้นของ เกรซ เคลลีหรือเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโก (1929-1982)

พร้อมกันนั้น ผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้เรียนรู้ว่าศิลปวัฒนธรรมจีนได้ให้แรงบันดาลใจต่อการรังสรรค์ผลงานของคาร์เทียร์อย่างไรบ้าง ทั้งในแง่ของสไตล์การออกแบบ รวมถึงวัสดุและฝีมือช่าง ผลงานบางชิ้นที่นำออกแสดง สะท้อนให้เห็นผลกระทบที่ศิลปะจีนมีต่อการพัฒนาไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงตลอดจนแฟชั่นทั่วโลก

เข็มกลัด “มังกรคู่ไล่ไข่มุก”
เข็มกลัด “มังกรคู่ไล่ไข่มุก”

สุนทรียศาสตร์แบบจีนส่งอิทธิพลอย่างสูงต่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงและแฟชั่นทั่วโลก เช่นเดียวกับ เข็มกลัด “มังกรคู่ไล่ไข่มุก” ของ ฌานน์ ปาแก็ง (Jeanne Paquin, 1869-1936) ช่างเสื้อสตรีคนสำคัญคนแรกของฝรั่งเศส

หยกเจไดท์

หยกเจไดท์ อัญมณีที่ชาวจีนนิยม ปรากฏบนสร้อยคอที่บาร์บาร่า ฮัตตัน (Barbara Hutton, 1912-1979) สาวสังคมและสไตล์ไอคอนชาวอเมริกัน ได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงานเมื่อปี 1933

นิทรรศการพิเศษครั้งนี้เปิดแสดง ณ Gallery 8 ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง ตั้งแต่บัดนี้ – 14 สิงหาคม 2023 บัตรเข้าชมนิทรรศการสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 120 เหรียญฮ่องกง บัตรสำหรับผู้มีสิทธิ์ได้รับส่วนลด ราคา 60 เหรียญฮ่องกง ผู้ถือบัตรสามารถเข้าชมได้ทุกห้องนิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์ เปิดจำหน่ายบัตรบนแพลตฟอร์มจำหน่ายบัตรของ West Kowloon Cultural District (เขตวัฒนธรรมเวสต์เกาลูน) และตัวแทนจำหน่ายบัตร www.hkpm.org.hk

Words: Ayu Kulahathai

Related Articles

8 พฤษภาคม 2566

จะสมาธิสั้นหรือคนธรรมดาก็พร้อมลุยทุกงานให้สำเร็จ

3 พฤษภาคม 2566

ด้วยหัวใจเยาว์วัยตลอดกาลของคาร์ล ทำให้ทุกโชว์เป็นที่น่าจดจำ

2 พฤษภาคม 2566

"งานของเราเปิดพื้นที่ให้คนได้คิดต่อยอด หรือบางทีเขาอาจมาสอนเราด้วย"