Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

เสื้อโค้ทถุงยางกับชุดแต่งงานแขนบอลลูน ชมแฟชั่นแหวกยุควิกตอเรียนในหนัง Poor Things

Fashion / Style File

ถ้าแฟรงเกนสไตน์เป็นผู้หญิง ชีวิตซอมบี้ของเธอจะดำเนินไปเช่นไร เรื่องราวของเด็กสาวที่ค่อยๆเรียนรู้โลก และความเป็นผู้หญิงบอกเล่าผ่านเครื่องแต่งกายเพี้ยนหลุดยุควิกตอเรียนไปไกล จนได้มีนิทรรศการเดี่ยวของคอสตูมหนัง Poor Things 

ใครที่หิวกระหายอารมณ์ขันดำมืดที่จะทำให้คุณขำหึหึ ไม่ใช่ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห็นทีจะสมหวังเมื่อผู้กำกับหนังชาวกรีกยอร์กอส ลันธิมอส (Yorgos Lanthimos) กลับมาแล้วพร้อมหนังขำหึหึเรื่องใหม่ Poor Things เรื่องราวของเบลลา แบ็กซ์เตอร์ (เอ็มมา สโตน) หญิงสาวในยุควิกตอเรียนที่สิ้นลมไปแล้ว แต่ฟื้นคืนชีพมาด้วยวิทยาการสุดล้ำของนักวิทย์สุดเปรื่อง (วิลเลียม เดโฟ) เบลลากระหายใคร่เรียนรู้ชีวิตรอบสองนี้ ด้วยจิตใจของเด็กผู้หญิงในร่างของผู้หญิงโตเต็มวัย ซึ่งเธอจะได้พานพบสิ่งที่ชีวิตประเคนมาให้ทั้งรัก สุข เศร้า เหงา ไปจนถึงเซ็กซ์…ในร่างกายแบบซอมบี้สไตล์แฟรงเกนสไตน์ของเธอ  

เนื้อเรื่องไม่ธรรมดา และเครื่องแต่งกายของเบลลา แบ็กซ์เตอร์ก็ไม่ใช่ชุดกระโปรงสุ่มยักษ์แบบที่เห็นในหนังยุควิกตอเรียนทั่วไปแน่นอน นี่คือหนังของยอร์กอส มันต้องมีจุดเพี้ยนเหวอเป็นแน่ และผู้ที่รับหน้าที่เนรมิตเครื่องแต่งกายวิกตอเรียนเวอร์ชันเหวอคือ ฮอลลี วัดดิงตัน คอสตูมดีไซเนอร์ที่คุ้นชินกับหนังย้อนยุคเป็นอย่างดี แต่โจทย์ของยอร์กอสท้าทายเธอไปไกลมาก เมื่อเขาสร้างโลกที่มีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์และแทรกโลกแฟนตาซีที่มีเพียงจินตนาการเท่านั้นที่จะไปถึงโลกนั้นได้  

โชคดีที่เอ็มมา สโตนใส่อะไรก็รอด และยิ่งดูน่าค้นหาเมื่อผมสีบลอนด์ทองของเธอกลายเป็นสีดำสนิท และเธอก็เปิดรับทุกไอเดียไม่ว่าจะเพี้ยนแหวกเหวอสักเพียงไร ต่อให้ต้องใส่เสื้อโค้ตที่เหมือนถุงยางยักษ์ (ซึ่งจริงๆแล้วทำจากวูลที่มีผิวสัมผัสมันลื่นคล้ายยาง) หรือชุดแต่งงานแขนพองเหมือนลูกโป่งที่พร้อมจะดึงตัวเธอให้ลอยล่อง รวมไปถึงการปฏิเสธไม่ใส่คอร์เซ็ตในยุคที่ผู้หญิงทุกคนในยุคนั้นพยายามยัดตัวเองในโครงกระดูกปลาวาฬที่บีบรัดเอวให้กิ่วคอด และการแต่งตัวครึ่งๆกลางๆเหมือนเด็กที่แม่แต่งตัวให้ไม่เสร็จอยู่ตลอดเวลา

เครื่องแต่งกายเหล่านี้สะท้อนจิตใจของเบลลาที่ยังเป็นเพียงเด็กหญิงที่ไม่เดียงสาต่อโลก เธอจึงใส่แค่เพ็ตติโค้ท (กางเกงชั้นใน) ออกมาเดินโทงๆตามถนนโดยไม่สวมกระโปรงคลุมทับ และเสื้อผ้าที่ดูขาดๆเกินๆอยู่เสมอ เพราะนั่นคือพฤติกรรมของเด็กเล็กๆที่ต่อให้พ่อแม่แต่งตัวให้เรียบร้อยเพียงไร แต่หันไปอีกที กระดุมหลุด โบหาย เชือกรองเท้ารุ่ย ชายเสื้อออกมานอกกางเกง หรือไม่กางเกงก็หายไปไหนไม่รู้ 

ฮอลลียังเล่นกับไอเดียของเด็กที่เข้าไปเล่นสนุกในตู้เสื้อผ้าของแม่ อย่างใส่รองเท้าใหญ่เกินเบอร์ ลิปสติกเกินขอบปาก หรือเอาระบายคอเสื้อมาใส่เป็นเคปคลุมไหล่ ทุกอย่างดูผิดที่ผิดทาง แต่ก็ดูเป็นสไตล์เบลลา แบ็กซ์เตอร์อย่างไม่ผิดเพี้ยน   

หนังยังเป็นที่โจษจันถึงฉากเซ็กซ์ที่งานนี้เอ็มมากลืนกลายเป็นตัวละครโดยไม่หวงเนื้อหนัง ไม่แคร์ว่ารูปร่างของเธอจะปรากฏบนจอมากน้อยเพียงไร และคอสตูมดีไซเนอร์ก็ตระหนักมาแต่แรกอ่านบทแล้วว่า เอ็มมาจะต้องเผยเนื้อหนังมังสามากอยู่แล้ว และเธอจะใส่ทำเสื้อผ้าที่ส่อไปในทางนั้นสมทบทับเข้าไปอีก อันเป็นที่มาของเสื้อรัดอกที่ทำจากผ้าวูล แล้วราดยางลาเท็กซ์ทับไปอีกที จนกลายเป็นชุดที่เหมือนผิวหนัง เพื่อจะทำให้ฉากนี้ฉีกออกไปจากเสื้อผ้ายั่วยวนหรือแนวเฟติชทั้งหลาย 

นอกจากนี้เธอยังไม่ให้ผู้หญิงในหนังใส่คอร์เซ็ต เพื่อจะปลดปล่อยให้สรีระของผู้หญิงเป็นอิสระ และสีของเสื้อผ้าที่สาวๆในซ่องใส่ก็ล้วนมาจากพาเล็ตต์สีผิวอันหลากหลาย ขณะเดียวกันก็จับมาร์ก รัฟฟาโล ผู้รับบททนายความที่เปิดโลกเซ็กซ์ให้กับเบลลากลายเป็นคนที่โดนยัดร่างในคอร์เซ็ตแทน

ด้วยการตีความแหวกรอบเช่นนี้ เครื่องแต่งกายของหนังจึงกลายเป็นนิทรรศการเดี่ยวที่จัดแสดง ณ Barbican ศูนย์วัฒนธรรมในกรุงลอนดอนในชื่อ The Costumes of Poor Things ตั้งแต่ 11 ธันวาคม 2023 จนถึง 19 มกราคม 2024 ในขณะที่หนังเข้าโรงฉาย และได้เสียงวิจารณ์ดีเลิศ โกยคะแนนไปถึง 94 เปอร์เซ็นต์ในเว็บไซต์รีวิวหนังชื่อดัง Rotten Tomatoes และเอ็มมา สโตนก็เดินสายรับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแบบมาแรงแซงทุกโค้ง

Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: COURTESY OF SEARCHLIGHT PICTURES

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม