Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture / Tech / Gadget

Nothing Phone (1)

สมาร์ทโฟนแห่งยุค ดีไซน์สุดล้ำ พร้อมนวัตกรรมสุดเฉียบ !
Culture / Gadget / Tech

สมาร์ทโฟนดีไซน์ล้ำ พร้อมนวัตกรรม Glyph Interface กับระบบ OS ปรับปรุงใหม่ และกล้องคู่ 50MP สุดเจ๋ง!

Nothing แบรนด์เทคฯ น้องใหม่จากประเทศอังกฤษ เปิดตัว ‘Phone (1)’ สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ จนเป็นกระแส Talk of the Town บนโลกออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา และสำหรับประเทศไทย Nothing ได้ร่วมกับร้านสตรีทแวร์อย่าง Carnival ปล่อย Limited Drop ไปเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งก็สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายใน 1 นาทีหลังจากเปิดให้กดจอง

‘Carl Pei’ (CEO & Co-Founder ของ Nothing กล่าวว่า “เราออกแบบ Phone (1) ผลงานที่เราภูมิใจนำเสนอ ด้วยหลักการง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เราหลุดออกจากเส้นทางเดิม ๆ การออกแบบด้วยสัญชาตญาณ เพื่อสร้างประสบการณ์ โดยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือที่กำลังซบเซา”

สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Glyph Interface ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ มีกล้องคู่ 50 MP รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ Nothing OS แบบปรับปรุงใหม่ อีกทั้งยังมีจอแสดงผล OLED 120Hz และชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 778G+ ที่ปรับแต่งขึ้นมาโดยเฉพาะ Nothing Phone (1) ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เป็นอีกหนึ่ง Wishlist ที่หลายคนรอคอยเป็นเจ้าของเลยทีเดียว

Glyph Interface คืออะไร

Glyph Interface คือ การแสดงผลด้วยสัญญาณไฟแบบใหม่ และไม่เคยเห็นค่ายไหนทำมาก่อน ออกแบบมาช่วยลดการใช้หน้าจอ รูปแบบแสงวิบวับตรง Body Surface ด้านหลังประกอบด้วยไฟ LED ถึง 900 ดวง สามารถแสดงการแจ้งเตือนสายโทรเข้า แอปต่าง ๆ สเตตัสการชาร์จ และอื่น ๆ ซึ่งเราสามารถดีไซน์รูปแบบเฉพาะได้ด้วยตัวเอง มีโหมด Flip to Glyph หรือการแจ้งเตือนแบบเงียบ ซึ่งจะโชว์แค่การกระพริบของไฟ LED กรณีที่เราวาง Phone (1) ให้หงาย Glyph Interface ขึ้นด้วย

Nothing OS ฉบับปรับใหม่

Nothing OS ที่พัฒนาขึ้นบนระบบปฏิบัติการ Android ทำไม่มี bloatware หรือแอปเฉพาะที่พ่วงมากับแต่ละแบรนด์มือถือ นี่เองทำให้ Phone (1) ตอบสนองเราได้เร็วแบบสุด ๆ ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น เพราะว่าฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดเป็นสิ่งที่แบรนด์เรียกมันว่า Nothing Ecosystem ซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังเดี่ยวที่ไม่มีแอปแยกยิบย่อยให้หน่วง แต่ Phone (1) ก็สามารถลงแอปจากค่ายอื่น ๆ ได้ง่ายดายแบบไม่มีอะไรมากั้นเพียงแค่เราตั้งค่าอนุญาต

มีซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่เรียนรู้ว่าแอปไหนที่เราใช้บ่อย ๆ โดยแอปที่ใช้บ่อยที่สุดจะโหลดเร็วกว่า ส่วนแอปที่เหลือก็จะหยุดทำงานเพื่อประหยัดแบตเตอรี่

ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์

เราว่าใครเห็นดีไซน์ของ Phone (1) ก็น่าจะชอบได้ไม่ยาก ฝาหลังแบบโปร่งใส รวมกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยส่วนประกอบกว่า 400 ชิ้นส่วน โครงอะลูมิเนียมสามารถรีไซเคิลได้ 100% ให้น้ำหนักเบา และทนทาน ส่วนของพลาสติกกว่า 50% ก็ทำจากวัสดุรีไซเคิลคุณภาพดี ช่วยเพิ่มความแกร่งด้วยกระจก Gorilla® Glass 5 แบบสองด้าน

กล้องคู่แบบสุดจัด

ไม่ต้องใส่กล้องมาให้หลายตัวแบบค่ายอื่น เพราะกล้องคู่ของ Phone (1) มีเซ็นเซอร์ 50 MP ขั้นสูงสองตัว โดยกล้องหลักเป็นของ Sony IMX766 รุ่นเรือธง มีรูรับแสงกว้าง ƒ/1.8 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบคู่ และวิดีโอสี 10 บิต สามารถถ่ายภาพ ที่มีรายละเอียดได้เฉียบคม สมจริง และมีความเสถียรขึ้น การถ่ายในโหมดกลางคืนก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว การตั้งค่า Glyph Interface ให้สว่างสุด ทำหน้าที่เป็นวงแหวน LED สำหรับถ่ายในที่แสงน้อย โดยไม่ต้องใช้แฟลช อันนี้เก๋สุด ๆ ชอบมาก

ไปให้สุดในทุกมิติ

จอแสดงผล OLED 6.55” และ HDR10+ สามารถแสดงเฉดสีได้ 1 พันล้านสี ออโต้คอนทราสต์ปรับให้เข้ากับแต่ละฉาก ชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 778G+ คือเบื้องหลังความเร็วของโทรศัพท์รุ่นนี้ สำหรับสายเกมมิ่งก็มีโหมดที่ช่วยจับเสียงกับกราฟิกแบบเน้น ๆ ลดการแจ้งเตือนเพื่อให้การเล่นเกมไม่สะดุด และยังรองรับ 5G ด้วย

ระบบ Fast Charge และชาร์จแบบไร้สาย สามารถใช้งานได้ 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จแค่ 1 ครั้ง และสแตนด์บายอยู่ได้ 2 วัน เรียกว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่แบตโคตรอึด

ราคาและการวางจำหน่าย

Nothing Phone (1) มีสีขาว (White) และสีดำ (Black) มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 12GB/256GB (20,900 บาท), 8GB/256GB (18,900 บาท) และ 8GB/128GB (17,900 บาท)

วางจำหน่ายเป็นทางการวันที่ 26 สิงหาคม โดย Koan ผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียว ที่ร้าน Dotlife, Koan Online และใน Lazada

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ nothing.tech

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม