Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview / People

เปิดใจครั้งแรก ‘มอร์ส MOSSALA101’ ยูทูบเบอร์ไทยที่พาสำรวจมุมใหม่ในแอลเอ

“ช็อกมากตอนไปครั้งแรก รู้สึกว่า ‘นี่หรืออเมริกา?’ ไม่เห็นศิวิไลซ์”
Interview / People

หากเอ่ยถึงแอลเอ ภาพที่ปรากฏในความทรงจำของคุณเป็นเช่นไร? 

เราเชื่อว่าภาพจำระดับท็อปคงหนีไม่พ้นป้าย Hollywood ใหญ่ยักษ์ที่ต้องแวะเช็คอิน ลูกโลกสีบรอนซ์เงินหน้า Univerdal Studios ที่เป็นจุดผ่านแดนสู่โลกแห่งจินตนาการ ย่านเบเวอร์ลีฮิลส์ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความหรูหราด้วยเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ดาราและมหาเศรษฐี ฯลฯ

หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว แอลเอก็ไม่ต่างจากมนุษย์เดินดินที่มีทั้งมุมสวยหรู สนุกสนาน เรียบง่าย และหม่นหมอง ทั้งหมดนี้เป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ มอร์ส – มัสลา สนศิริ ยูทูบเบอร์สาวเจ้าของช่อง MOSSALA101 เลือกที่จะหยิบจับและนำมาถ่ายทอดในมุมมองของเธอ ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่นับตั้งแต่ปี 2015 จึงได้เห็นแอลเอในฉากทัศน์ที่แปลกตา ทั้งเรื่องราวของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบบอเมริกันชน คนไทยในเครื่องแบบทหาร ตำรวจ นักดับเพลิง ฯลฯ ตลาดลับในท้องถิ่น ไปจนถึงสลัมริมถนนของคนไร้บ้าน    

“เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่มอร์สจะเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัว แล้วก็เบื้องหลังการทำงานแบบเปิดใจ” มอร์สเอ่ยกับเราแต่แรกเริ่ม พลังงานที่เปี่ยมล้นของเธอเป็นอย่างไรในวีดิโอ เราก็เห็นเช่นนั้นในชีวิตจริง 

“101 เป็นชื่อถนนที่มอร์สใช้เดินทางเป็นประจำในแอลเอค่ะ อีกความหมายหนึ่งคือเราทำทุกคลิปด้วยความตั้งใจเกินร้อย” สาวพิษณุโลกผู้โด่งดังจากการรายงานสถานการณ์โควิดในแอลเอเล่าถึงปณิธานในการผลิตคอนเทนต์ของเธอ ไม่แปลกใจที่ล่าสุด MOSSALA101 มีผู้ติดตามเฉียด 9 แสนราย ซ้ำยังติด 1 ใน 5 ผู้เข้าชิง THAILAND SOCIAL AWARDS 2023 ประเภท Best Creator Performance on Social Media สาขา Global Citizen

LIPS: มอร์สเป็นยูทูบเบอร์ที่ดูโปรและเป็นธรรมชาติมาตั้งแต่อีพีแรก ๆ ไม่ว่าจะด้วยทักษะการเล่าเรื่อง ความฉลาดในการตั้งคำถาม การพูดจาฉะฉานสู้กล้อง สิ่งใดอยู่เบื้องหลังความสามารถอันโดดเด่นนี้

มอร์ส: มอร์สเคยมีความฝันว่าอยากเป็นผู้ประกาศข่าว อยากอยู่ในจอทีวีค่ะ ตอนเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนเรศวรก็รับหน้าที่เป็นดีเจ อ่านข่าวในมหาวิทยาลัย แล้วระหว่างเรียนก็ได้ทำงานเป็นพิธีกรในช่องเคเบิ้ลทีวีที่พิษณุโลกไปด้วย แต่แม่แนะนำว่าถ้าจะไปให้สุดก็ควรทำงานที่สถานีข่าวช่องหลัก มอร์สเลยเข้ากรุงเทพฯ มาฝึกงานที่ช่อง 7 และได้รับโอกาสให้เป็นพนักงานต่อ เลยได้เป็นผู้สื่อข่าวภาคสนาม ทำสกู๊ปข่าว เป็นโปรดิวเซอร์อยู่เบื้องหลัง แต่งานข่าวเป็นอะไรที่ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา เราแทบไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี ก็เรียน ป.โท ศิลปศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงพร้อมกันไปด้วย มอร์สใช้ชีวิตแบบนี้มาเกือบ 7 ปี จนถึงจุดอิ่มตัวก็เลยลาออกค่ะ รู้สึกว่าได้ทำในสิ่งที่ค่อนข้างจะสุดแล้วในสายงานเรา มันไม่มีอะไรตื่นเต้นอีกแล้ว ทีนี้มานึกย้อนถึงตอนที่ใช้ชีวิตอยู่กับปู่ย่า เราเป็นเด็กต่างจังหวัด เรียนโรงเรียนวัด ได้เห็นเมืองนอกแค่ในทีวี เลยอยากลองไปใช้ชีวิตที่นั่นดูสักครั้ง

LIPS: อะไรทำให้ตัดสินใจแลนดิ้งชีวิตหลังลาออกที่แอลเอ

มอร์ส: ครั้งแรกที่มาคือปี 2012 ค่ะ ทางช่องส่งมอร์สกับทีมงานมาทำข่าว Barack Obama ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 พอลงเครื่องที่แอลเอปุ๊บ เราก็ตระเวนไปแทบทุกรัฐ ได้เห็นว่าอเมริกาแต่ละโซนไม่เหมือนกันเลย ที่มอร์สชอบแอลเอก็เพราะสภาพอากาศ อาหารการกิน แล้วก็ผู้คนที่หลากหลาย ถ้าได้เริ่มต้นชีวิตเมืองนอกที่แอลเอก็น่าจะปรับตัวได้ไม่ยาก 3 ปีต่อมา มอร์สเลยเดินทางมาเรียนที่นี่แล้วก็ได้ work permit ค่ะ นอกจากเป็นยูทูบเบอร์ก็ทำงานในสายมีเดียโปรดักชั่นซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด”

LIPS: มอร์สเคยยื่นไมค์ถามคนไทยที่นั่นว่า “อเมริกา..ใช่อย่างที่คิดมั้ย?” ทีนี้ขอถามมอร์สกลับบ้าง

มอร์ส: ช็อกนะคะครั้งแรกที่มาทำข่าว รู้สึกว่า ‘นี่หรืออเมริกา?’ ไม่เห็นศิวิไลซ์ สนามบินแอลเอก็ดูเล็ก ๆ สุวรรณภูมิบ้านเรายังหรูหราซะกว่า ไม่คิดว่าจะมีคนไร้บ้าน บางพื้นที่ดูสกปรก มันไม่สวยหรูอย่างที่เราจินตนาการ แต่พอได้เดินทางไปหลาย ๆ รัฐ ก็รู้ว่าอเมริกามันกว้างใหญ่มาก อยู่ที่เราว่าจะเลือกเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหน

LIPS: แล้วอะไรคือความหอมหวานที่ยอมแลกกับการเอาตัวเองมาอยู่ในเมืองที่ไม่ศิวิไลซ์อย่างที่คิด

มอร์ส: อเมริกาเป็นเหมือนผู้นำของโลก มันเต็มไปด้วยแฟชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าสนุก ที่สำคัญคือมีโอกาสหลายอย่างให้เราได้ลองทำ คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า แล้วก็การใช้ชีวิตมันง่ายจริงๆ เช่น การขับรถ อีกอย่างคือ ‘ค่าครองชีพที่สมดุล’ ค่ะ สมมติก๋วยเตี๋ยวที่นี่ชามละประมาณ 400 บาท แต่ค่าแรงขั้นต่ำปาเข้าไปราวๆ  560 บาทต่อชั่วโมง เราเลยรู้สึกว่าไม่แพงเท่าไร อาหารและสินค้าที่นี่ก็มีแต่ของดีหรือเป็นรุ่นท็อปของแบรนด์ คุณมีเงินแค่ล้านกว่าบาทก็เป็นเจ้าของรถ Porche ที่นี่ได้”  

LIPS: ช่อง MOSSALA101 มีพัฒนาการที่สำคัญอย่างไร ก่อนมีฐานคนดูที่แข็งแกร่งอย่างในปัจจุบัน 

มอร์ส: จริงๆ เริ่มจากมอร์สพาแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วถ่ายคลิปเอาไว้ดูกันเองในครอบครัวค่ะ จำได้ว่าไม่มีที่เก็บไฟล์เลยโหลดลงยูทูบ วันดีคืนดียื่นให้แม่ดู แม่ก็ยิ้มแต่แอบตกใจที่มียอดวิว 2-3 หมื่น!! เราเองก็เพิ่งรู้ เพิ่งได้อ่านคอมเมนต์ที่ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นประโยชน์…ขอบคุณมาก…หรือเดี๋ยวจะตามรอย ฯลฯ

อย่างคลิปที่เดินตลาดกับแม่ในพิษณุโลกก็เป็นตัวอย่างของคลิปในยุคแรกๆ ที่มอร์สว่าน่าเบื่อไป เราอาจจะติดทำสกู๊ปข่าว ลงเสียงแนวข่าวเชียว พอมานั่งวิเคราะห์ดีๆ คนดูยูทูบน่าจะชอบความเรียลมากกว่า เลยเปลี่ยนจากสไตล์รายการทีวีมาเป็นการเล่าเรื่องขณะถ่ายทำไปเลย แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้คนรู้จักมอร์สน่าจะเป็นคลิปรายงานสถานการณ์โควิดในแอลเอตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 ที่คนอเมริกันยังดูชิลๆ แต่กลับกักตุนหน้ากากอนามัย จนกระทั่งประกาศภาวะฉุกเฉินและกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำขาดตลาด!!

LIPS: สโลแกนของช่อง MOSSALA101 ที่ว่า ‘เพราะโลกมันกว้าง เราจึงอยากแบ่งปัน’ มีที่มาอย่างไร 

มอร์ส: มอร์สนึกถึงตัวเองสมัยก่อนค่ะ เวลาอยากรู้ว่าอเมริกาเป็นยังไง…มีอะไรบ้างก็เสิร์ชเอา แต่ส่วนใหญ่มันจะเป็นภาพของการท่องเที่ยวมากกว่า พอวันหนึ่งเราได้มาอยู่ก็รู้ว่า ‘อเมริกามันไม่เหมือนในหนังเว้ยทุกคน’ ไม่ได้มีแต่ด้านบวก เราอยากบอกว่าโลกนี้มีทั้งด้านดี – ด้านไม่ดี และไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสมาอเมริกา มอร์สเลยอยากแบ่งปันเรื่องราวในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งคนดูอาจไม่เคยเห็นจากสื่ออื่น

LIPS: มอร์สมีแนวคิดในการออกแบบคอนเทนต์ยังไง เนื้อหาแบบไหนที่คนดูจะพบเห็นได้ในช่อง 

มอร์ส: อเมริกามีอะไรใหม่ตลอด กินเที่ยวมอร์สก็ชอบ ตลาดเราก็เดิน อาชีพคนไทยที่นี่ก็น่าสนใจ แล้วยังมีงานเทศกาล งานอีเวนท์เพียบ มอร์สเลยทำคอนเทนต์ที่ว่ามานี้ทั้งหมด แต่หมุนเวียนเนื้อหาให้กลุ่มคนดูทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่แค่วัยรุ่นอย่างเดียว หรือเจาะจงเฉพาะผู้ใหญ่ไปเลย”  

LIPS: คอนเทนต์ที่ว่าด้วยวัยรุ่นก็มีอยู่เรื่อย ๆ ทั้งแฟชั่น อีเวนต์ อาชีพ แถมมอร์สยังแต่งตัวได้วัยรุ่นมาก

มอร์ส: อายุมอร์สจะ 38 แล้วนะ แต่เราชอบการแต่งตัวแบบอเมริกันเพราะมันหลากหลายดีค่ะ ตอนอยู่ไทย มอร์สไม่ค่อยกล้าแต่ง อาจจะด้วยหน้าที่การงาน แต่พอมาที่นี่แล้วรู้สึกได้เป็นตัวเอง แต่งอะไรก็ได้ที่ทำให้เรามั่นใจ เนื้อหาในคลิปเลยไม่ใช่แค่พาไปดูการแต่งตัวแบบวัยรุ่น แต่เราได้สอดแทรกเรื่องราวของโลกแฟชั่นที่เปิดกว้างมาก รวมถึงการไม่ตัดสินคนจากเสื้อผ้า เช่น แต่งแบบนี้เป็นคนไม่ดีแหง ๆ หรือแต่งแบบนี้ไม่บ้าก็เพี้ยน คนที่นี่ให้ความสำคัญกับความสามารถเป็นหลัก ไม่ใช่อายุหรือการแต่งกายภายนอก มอร์สยังเคยเจอหมอที่ทั้งสักทั้งเจาะจมูก หรือเป็นผู้ชายก็ใส่เสื้อผ้าผู้หญิงได้ค่ะ

LIPS: ของวินเทจ สตรีทสไตล์ วิถีแคมปิ้ง ฯลฯ เป็นไลฟ์สไตล์ส่วนตัวจริง ๆ หรือต้องทำเพื่อคอนเทนต์ 

มอร์ส: ไลฟ์สไตล์จริงเลยค่ะ แคมปิ้งเป็นวิถีการท่องเที่ยวของคนที่นี่เลย หรืออย่างเสื้อผ้าวินเทจ เมื่อก่อนมอร์สก็ซื้อของใหม่และเคยสงสัยว่าทำไมฝรั่งชอบความวินเทจ ที่ไหนมีตลาดวินเทจที่นั่นคนเยอะ แถมของราคาแพง พอศึกษาเลยได้รู้ว่าของวินเทจมีที่มาที่ไป คนที่นี่ชอบอะไรที่มีเรื่องราว ยิ่งมีเรื่องราว ยิ่งทรงคุณค่า (วิถีไบเกอร์ล่ะ..เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ด้วยมั้ย?) ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แต่มอร์สชอบสังคมไบเกอร์ที่นี่นะ อย่าง Harley Davidson คนขับขี่กันทั่วไป แต่ถ้าเป็นบ้านเราภาพจำอาจจะดูดุดันนิดนึง

LIPS: มอร์สได้ถ่ายทำเรื่องราวของคนไทยในเครื่องแบบหลากหลายอาชีพ การติดต่อขอถ่ายทำยากมั้ย

มอร์ส: ยากหน่อยค่ะ ต้องทำหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชาคล้ายกับระบบราชการไทย อีกอย่างหนึ่งคือเราไม่ใช่สำนักข่าวแต่เป็นช่องยูทูบคนไทย ไม่ใช่อเมริกันด้วย เขาก็ยิ่งถามถึงสิ่งที่เราจะนำเสนอ กลัวว่าจะมาล้วงความลับอะไรรึเปล่า เราก็ต้องอธิบายไปว่าคลิปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ใช่เพื่อความบันเทิงอย่างเดียว อย่างอีพีตำรวจ LAPD ก็มีทีมที่มาดูว่าอะไรถ่ายได้หรือไม่ได้ ปรากฏว่าคลิปนี้ผลตอบรับดีมาก มีบุคลากรไทยมาดูงานและนำไปปรับใช้จริง เช่น การเพิ่มปืนไฟฟ้าเป็นอาวุธประจำกายตำรวจ

LIPS: มอร์สมีกระบวนการทำงานอย่างไรจึงมักจะออกแบบประเด็นได้น่าสนใจเสมอ

มอร์ส: ก่อนเจอกัน มอร์สจะคุยกับแขกรับเชิญคร่าว ๆ เพื่อให้เราเห็นภาพค่ะว่าคนดูจะได้อะไร เช่น คลิปตำรวจ เราไม่ได้โชว์ชุดโชว์รถกันอย่างเดียว แต่พอดีเราคุยกันถึงเรื่องย่านที่ไม่ปลอดภัยในแอลเอ เลยนำเสนอประเด็นนั้นเพื่อเตือนภัยนักท่องเที่ยว แต่ก็สอดแทรกเรื่องราวชีวิตและภารกิจของตำรวจที่นั่นด้วย 

อย่างคลิปวัดทางเท้าในอเมริกา มอร์สตั้งใจทำมากเลยนะ แต่คนอาจเข้าไม่ถึง เพราะมอร์สชอบให้คนดูคิดเอาเอง มีคนถามว่าวัดทำไม…ว่างมากหรือ จริง ๆ เราอยากให้คนฉุกคิดว่าทางเท้าควรเอื้อต่อคนพิการ เหมือนเราเป็นตัวแทนมาดูงานในอเมริกา ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาดูก็น่าจะนำไปปรับใช้ได้

LIPS: นักรบย่อมมีบาดแผล ยูทูบเบอร์สายเรียลอย่างเราก็เช่นกันมั้ย

มอร์ส: ใช่ค่ะ มอร์สเจ็บมาเยอะ อย่างตอนเหตุการณ์ BLACK LIVES MATTER ที่มีการประท้วงหนัก มอร์สก็ไปถ่ายให้เห็นว่ามีสถานการณ์รุนแรงจริง แล้วไปกินไอติมต่ออีกสถานที่หนึ่ง ปรากฏว่าบางคนไม่เข้าใจที่มอร์สจะสื่อว่าอเมริกายังมาได้ ความโกลาหลในเมืองมีแค่กระจุกนี้ ที่เหลือ 80% คนยังใช้ชีวิตเป็นปกติ

อีกคลิปหนึ่งนี่มอร์สร้องไห้เลยนะ เป็นคลิปแนะนำ Food Bank หรือธนาคารอาหารในแอลเอช่วงโควิด ตอนนั้นสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต เลยมีจุดให้คนไปรับอาหารได้ฟรี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารหมดอายุที่ยังทานต่อได้ มอร์สก็เลยถ่ายให้เห็นขั้นตอนการรับอาหาร แล้วก็เปิดให้ดูว่าในถุงมีอะไรบ้าง แต่โดนคอมเมนต์ว่าเราแย่งอาหารคนไม่มีกิน บ้างก็หาว่าเราหิวแสง ยังดีที่มีคนไทยกลุ่มหนึ่งทักมาขอบคุณ อย่างพี่คนหนึ่งเขามีลูกหลายคนและไม่มีเงินเหลือแล้ว เขาไม่เคยรู้ว่ามีแจกอาหารฟรี แต่ได้รู้จากการดูคลิปของเรา เท่านั้นแหละเราก็ยิ้มออกแล้ว นี่คือจุดประสงค์ที่เราหวังให้เกิดประโยชน์กับคนดูค่ะ 

ดราม่าก็มีค่ะ อย่างที่นี่จะมีฮอลลีวูดทัวร์ที่พานั่งรถดูบ้านดาราอยู่แล้ว มอร์สก็เคยทำคลิปและได้เสียงตอบรับที่ดีเลยทำภาคต่อ ทีนี้มีคนรีเควสต์ศิลปินเกาหลี ซึ่งเดิมทีไม่มีอยู่ในลิสต์ เพราะมอร์สไม่ใช่สายเกา แต่มอร์สก็เก็บภาพมาด้วย เรารู้กฎหมายแอลเอ แต่ไม่รู้วัฒนธรรมฝั่งเกาหลีว่าการเปิดเผยรูปบ้านดาราเป็นอะไรที่ร้ายแรง เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้มอร์สต้องศึกษาให้รอบด้านมากขึ้น

LIPS: เจอแบบนี้แหยงเลยมั้ยกับโลกโซเชียล

มอร์ส: แอบมีนะคะ อย่างช่วงโควิดที่เริ่มห้ามออกจากบ้าน ใจเราอยากออกไปทำข่าวเพราะอเมริกานำเสนอแต่ยอดผู้ติดเชื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตของขาดก็ไม่มีข่าว พออ่านคอมเมนต์ เราก็เจ็บนะ เรารู้ว่าออกไปมันเสี่ยงแต่ก็อยากให้เห็นความจริง คิดแค่ว่าถึงโดนด่าแต่ถ้าคนดูได้ประโยชน์ก็โอเค (มีอีกเสียงในหัวว่าไปเถอะ?) ใช่ค่ะไปเถอะ ไปแล้วได้มากกว่าเสีย ความจริงพวกคลิปโควิด ยูทูบไม่ให้สร้างรายได้นะคะ สถานการณ์ที่รุนแรงอย่าง BLACK LIVES MATTER หรือคลิปกัญชาใน แอลเอก็เช่นกัน มอร์สทำเพราะเห็นว่าเมืองไทยปลดล็อก อยากให้คนได้เห็นมาตรการการควบคุมและการจัดการกัญชาของอเมริกาที่น่าจะเป็นประโยชน์

LIPS: มีดรีมลิสต์ของบุคคลหรือสถานที่ที่อยากถ่ายทำ แต่ไม่น่าเป็นไปได้มั้ย

มอร์ส: AREA 51 ทางตอนใต้ของรัฐเนวาดาค่ะ อยากถ่ายทำมาก แต่ก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีใครเคยได้รับอนุญาต เขาว่ากันว่าอาจจะเป็นฐานทัพลับ หรือเป็นที่ซ่อนสุดยอดเทคโนโลยีของอเมริกา หรืออาจจะมีมนุษย์ต่างดาว บางคนบอกว่าเคยเห็นแสงแปลกๆ อะไรแปลกๆ ด้วยนะคะ

LIPS: 3 สถานที่ในแอลเอที่มอร์สประทับใจเป็นการส่วนตัว หรือมีความทรงจำดี ๆ ที่อยากเล่า

มอร์ส: หอดูดาว GRIFFITH ค่ะ เวลาเครียด ๆ ถ้าได้ขึ้นไปที่นั่น เราจะรู้สึกเหมือนได้พลังกลับมา พร้อม ๆ กับได้ชมวิว 360 องศาของแอลเอ หรือตอนทำคลิปใช้ชีวิตในรถบ้านก็ประทับใจค่ะ มอร์สขับรถเลาะริมมหาสมุทรแปซิฟิก เหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อีกสถานที่ที่อยากแนะนำคือ ทะเลที่เมือง Saraota รัฐฟลอริด้าค่ะ ส่วนมากคนจะนึกถึงแต่ไมอามี แต่ที่นั่นเป็นเมืองตากอากาศที่น่าใช้ชีวิตในบั้นปลาย ตอนเย็นทุกคนก็จะเดินออกมาปรบมือให้กับพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าเป็นความทรงจำที่ดีมาก

MOSSALA101

LIPS: มอร์สให้ประโยชน์กับผู้คนและสังคมมาพอสมควรแล้ว ทีนี้ MOSSALA101 ให้อะไรกับมอร์สบ้าง

มอร์ส: ให้มอร์สได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และกลายเป็นคนที่รอบคอบมากขึ้น ใจนิ่งขึ้น ยูทูบทำให้มอร์สแข็งแกร่งขึ้นเยอะ เมื่อก่อนเราทำงานทีวี โดนด่า โดนต่อว่าก็ไม่ได้ยิน แต่โลกออนไลน์ทำให้คนเข้าถึงเราได้ง่าย ตอนนี้ไม่ร้องไห้แล้ว เพราะเราไม่รู้วุฒิภาวะของแต่ละคน จะให้เอาทุกข้อความมาคิดก็เครียดค่ะ เลยเริ่มปล่อยวางและเลือกทำสิ่งที่สบายใจ สุดท้ายต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสมอร์สในการถ่ายทำนะคะ มอร์สเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนดู และน่าจะช่วยต่อยอดหรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”

5 คลิปป้ายยาที่มอร์สขอแนะนำเพื่อทำความรู้จักกับช่อง MOSSALA101 

สาวน่าน ขับเจ็ทให้ดาราฮอลลีวูด ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้!

หนุ่มราชบุรี ตำรวจแอลเอ เตือนย่านอันตราย!? เผยความลับ LAPD หมดเปลือก!  

เมืองคนไร้บ้านในอเมริกา แอลเอ 2023 วิกฤต! 

เที่ยวรถบ้าน ริมทะเลอเมริกาที่สวยติดอันดับโลก!? 

สินค้าไทยในซูเปอร์มาร์เก็ตอเมริกา

Words: Sasi Akkomee
Photos: MOSSALA101

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม