Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

Milan Day 4 : The Best Highlight ปิดฉากมิลานแฟชั่นวีคสมศักดิ์ศรีเมืองแฟชั่นที่ยากจะโค่น

มิลานวันสุดท้ายกับโชว์ที่คนรอคอยมากที่สุด
Fashion / Style File

เราขอใช้คำว่าท็อปฟอร์มตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย โมเมนตัมของแฟชั่นวีคซีซั่น AW2022 เริ่มต้นได้ดีตั้งแต่นิวยอร์คมาจนถึงมิลาน ความต่างของมิลานระหว่างสองเมืองที่ผ่านมาเราขอยกให้ ‘ความหลากหลาย’ ของสไตล์ที่ไม่ได้กระจุกอยู่ที่แบบใดแบบหนึง การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของแต่ละแบรนด์ล้วนมีจุดยืน แม้จะมีวิ่งตามเทรนด์บ้างแต่ก็สามารถกลับลำมาเป็นตัวเองได้

วันสุดท้ายของมิลานคงไม่มีโชว์ไหนน่าติดตามไปกว่า Bottega Veneta กับครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ Matthieu Blazy งานหินในการมาสานต่อโมเมนตัมที่ดีมากๆ อยู่แล้ว จาก Daniel Lee ที่ออกกะทันหัน ก่อนที่จะเราจะเจาะลึกในคอลเลคชั่นแรกของเขานั้น ไปดูกันดีกว่าว่าวันสุดท้ายนี้มีโชว์ไหนที่เป็นไฮไลต์ดีที่สุดประจำวันบ้าง

Jil Sander

หนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดสำหรับเราในมิลานคราวนี้ ดูโอดีไซเนอร์ Lucie และ Luke Meier ร่ายมนต์สะกดให้กับ Jil Sander ได้อย่างน่าประทับใจ ในวันที่เกือบจะทุกแบรนด์เริ่มหันไปทำเสื้อผ้าเรียกความสนใจจากเจเนอเรชั่น Z กันมากขึ้น Jil Sander เลือกที่จะออกแบบเสื้อผ้าให้กับผู้หญิงที่โตกว่า ความสง่างามของเสื้อผ้าคือคีย์สำคัญของคอลเลคชั่นนี้ ชุดสูทและเดรสทำจากผ้าเนื้อดีถูกหั่นให้สั้นลงเพื่อปรับให้ซิลูเอ็ตต์ดูโมเดิร์นขึ้น 

มินิมอลเปรียบเหมือนตัวตนของ Jil Sander เราชอบที่ทั้งสองถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างหลากหลาย ความน้อยสมัยนี้ไม่ได้หมายถึงเดรสหนึ่งตัวแล้วจบแต่มันรวมถึงการตัดเย็บ เนื้อผ้าและโทนสีที่ให้ความรู้สึกมินิมอล ความน้อยที่ว่านี้มีครบถ้วนที่ Jil Sander ในบริบทที่หลากหลายตั้งแต่ไปทำงาน แฮงก์เอาต์ หรือออกงาน ความเบาสบายบนงานดีไซน์คมๆ ดีเทลแน่นๆ มันช่วยเบรกความเลี่ยนแฟชั่นฟาดๆ ที่กำลังกินทุกพื้นที่ได้อยู่เวลานี้ได้พอดี สมบูรณ์แบบ!

Trussardi

อีกหนึ่งดีไซเนอร์ที่เดบิวต์ในมิลานคราวนี้ Serhat Isik และ Benjamin Huseby หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อแต่ทั้งสองคือผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ GmbH แบรนด์แฟชั่นผู้ท้าทายขบถการแต่งตัวแบบใหม่ให้เข้ามาคุมที่ Trussardi การจะนิยามว่าจุดแข็งของ Trussardi คืออะไรนั้นค่อนข้างยากเมื่อแบรนด์อิตาเลียนจ๋าๆ ไหลไปตามเทรนด์และกระแสมากกว่าสร้างตัวตนที่ชัดเจน ดังนั้นการมาของ Serhat และ Benjamin เป็นการกำหนดและสร้างเรื่องราวใหม่ให้กับแบรนด์ 

คอลเลคชั่นสีดำล้วนเกือบทั้งหมดเซ็ตมู้ดแอนด์โทนให้กับเสื้อผ้าที่ได้แรงบันดาลใจจากยุคเรเนซองและเมดิวัล ซิลูเอ็ตต์หนาๆ โคร่งๆ สื่อถึงเสื้อเกราะที่กลายมาเป็นชิ้นนอก ทั้งคู่เพิ่มกลิ่นอายร็อคแอนโรลลงไปเพื่อให้เสื้อผ้ามีมิติและเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น และแน่นอนเสื้อผ้าแบบเบลอเส้นแบ่งเพศจุดแข็งของทั้งสองที่ GmbH ปรากฎในโชว์นี้ด้วย สิ่งที่เราชอบจริงๆ ก็คือดีไซเนอร์ทั้งสองและการตีความของพวกเขา นี่อาจไม่ใช่คอลเลคชั่นที่ดีและน่าสนใจพอถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เรามองว่ามันคือเซฟโซนที่สวยแต่ไม่ปัง 

Dolce & Gabbana

ต้องยอมรับก่อนว่าเสื้อผ้าของ Dolce & Gabbana พ.ศ. นี้ทำมาเพื่อเจเนอเรชั่น Me จริงๆ คือมองฉันสิ มองเสื้อ กางเกง รองเท้าและกระเป๋าของฉัน เสื้อผ้าเอะอะโววายตะโกนแบรนดิ่งสุดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะหางานฝีมือไม่ได้จากแบรนด์นี้ Dolce & Gabbana ขึ้นชื่อเรื่องงานเทเลอร์ที่คมกริบ รวมถึงความเซ็กซี่แบบซิซิเลี่ยน ลูกไม้ คอร์เซ็ต และชุดชั้นใน ทุกอย่างที่เรากล่าวมามีหมดในคอลเลคชั่นนี้แต่ในบริบทแบบโลกอนาคต 

อนาคตที่เราหมายถึงก็คือ Metaverse โลกเสมือนจริงที่สองดูโอกำลังบ้าคลั่งอยู่ตอนนี้ ดังนั้น Power Dressing สไตล์ 80s ถูกบิดให้เตลิดไปอีกขั้นด้วยซิลูเอ็ตต์เกินจริงอย่างไหล่ตั้งที่ขอใช้คำว่าใหญ่มาก หรือแม้กระทั่งความเซ็กซี่แบบซิซิเลี่ยนที่โอเวอร์ไปอีกขั้น เรามองว่าคอลเลคชั่นนี้สนุกและอยู่บนพื้นฐานงานดีไซน์ที่ดีเยี่ยม ขอเสียอย่างเดียวเสื้อผ้าเหล่านี้อาจจะดูเทรนดี้ไปหน่อยทำให้ชีวิตของเสื้อผ้าค่อนข้างสั้น

Ambush

อีกหนึ่งรายที่ขอใช้มิลานแฟชั่นวีคเปิดตัวแฟชั่นโชว์แรก Ambush สำหรับคอแฟชั่นจะรู้จักชื่อเสียงของ Ambush พอสมควรโดยเฉพาะดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ Yoon Ahn บอกเลยว่าเธอคนนี้มือทองมากๆ ไม่ว่าจะจับอะไรก็ประสบความสำเร็จสุดๆ Yoon ผ่านงานมาแล้วมากมายงานคอลแลบของเธอพูดเลยว่าขึ้นแท่นของขายดีเกือบทุกชิ้น และยังควบตำแหน่งดีไซเนอร์ฝั่งแอคเซสซอรี่ให้กับ Dior Homme ร่วมกับ Kim Jones อีกด้วย 

คอลเลคชั่นเสื้อผ้าของ Ambush บอกก่อนว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ครั้งนี้ถือเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของเธอ จุดแข็งของ Yoon คือมุมมองที่หลากหลายและนั่นได้แสดงออกในคอลเลคชั่นนี้เช่นกัน เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหลากหลายที่มาประกอบร่างให้กลายเป็นเสื้อผ้าคูลๆ ที่อัดแน่นด้วยลูกเล่นเก๋ๆ ไม่เบา โดยรวมเป็นคอลเลคชั่นที่น่าสวมใส่ มีชิ้นปังให้เราได้หวือหวา เช่น เดรสลูกปัด แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้โดดเด่นจนเป็นที่จดจำเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นเสื้อผ้าคูลๆ สำหรับคนคูลๆ

Bottega Veneta

เดบูตองส์อีกหนึ่งราย Matthieu Blazy ที่ Bottega Veneta เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านเราได้ยินของเขาเป็นครั้งแรกหลังจากถูกวางตัวให้รับช่วงต่อจาก Daniel Lee หลายคนอาจมองเป็นงานช้างเลยเพราะ Bottega Veneta สามารถกลับมาประสบความสำเร็จได้เพราะ Daniel แต่ Matthieu ไม่ใช่โนเนมเสียทีเดียว เขาผ่านงานกับดีไซเนอร์ระดับหัวกะทิมาแล้วทั้งนั้นและล่าสุดก็คือการมาช่วย Daniel ที่ Bottega Veneta นี่เอง ดังนั้นเขาเข้าใจ DNA ของแบรนด์เป็นอย่างดี 

เราเซอร์ไพรส์กับคอลเลคชั่นแรกของเขา เพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นการต่อยอดงานของ Daniel แต่ไม่ใช่เลยแค่คอลเลคชั่นแรก Matthieu ก็สามารถสร้างซิกเนเจอร์ของตัวเองได้ทันที ความต่างของ Bottega Veneta ระหว่างสองดีไซเนอร์คือ ‘การแสดงออก’ ของเสื้อผ้า Daniel เน้นเทคนิคที่หวือหวาและไม่ง่ายที่จะสวมใส่ ในขณะที่ Matthieu เสื้อผ้าของเขาเป็นมิตรมากกว่า แม้แต่ Intrecciato ในเวอร์ชั่นของ Matthieu เอะอะน้อยกว่าแต่ระดับความคราฟต์แทบไม่ต่างกัน แน่นอนว่าบริบทของ Matthieu ดูจริงและเป็นมนุษย์มากกว่า Daniel ที่ดูแฟชั่นฟอร์เวิร์ด 

พูดแบบนี้เราไม่ได้บอกว่า Daniel ไม่ดี แต่กำลังจะบอกว่าการเข้ามาของ Matthieu ถือเป็นทิศทางใหม่ของ Bottega Veneta ที่น่าติดตามมากๆ ตัดสินจากฝั่งแอคเซสซอรี่ เจ้า Intrecciato ในหลากหลายดีไซน์รวมถึงรองเท้าบูทน่าจะเป็นไอเท็มขายดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมก็คือฝั่งเสื้อผ้าที่น่าจะได้ขายได้คล่องขึ้น

Onitsuka Tiger

แบรนด์สุดท้ายเราขอจบด้วย Onitsuka Tiger คอลเลคชั่น Ready-to-Wear ที่มาสร้างเซอร์ไพรส์ในมิลานคราวนี้ได้พอสมควร หลังจากทำงานด้วยกันมาพักใหญ่ Andrea Pompilio ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ได้ผสมผสานงานคราฟต์สไตล์ญี่ปุ่นและความโมเดิร์นของตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันในคอลเลคชั่นนี้ได้อย่างลงตัว ภายใต้ธีม ‘Shadow’ กลายมาเป็นโทนสีหลักของคอลเลคชั่นนั่นก็คือสีดำ เสน่ห์ของคอลเลคชั่นนี้อย่างที่เราบอกไปคือการไฮบริดระหว่างดีไซน์สองแบบงานดีไซน์ด้วยเทคนิคสุดเฉียบถ่ายทอดในบริบทแบบสตรีทสไตล์ 

ความสดใหม่ที่เราไม่ได้คาดหวังจากแบรนด์ที่โด่งดังจากรองเท้าผ้าใบ แต่คอลเลคชั่นนี้เซอร์ไพรส์เราได้พอสมควรเลย สปอร์ตโมเดิร์นคงเป็นคำจำกัดความที่เราอยากจะใช้กับ Onitsuka Tiger คอลเลคชั่นนี้ ทุกชิ้นดูมีเรื่องราว ใส่ได้จริง และสวยจริง นี่ยังไม่รวมไปถึงตัวแอคเซสซอรี่และฮีโร่อย่างรองเท้าเลยนะ Andrea ดิลิเวอร์คอลเลคชั่นที่น่าจดจำให้กับ Onitsuka Tiger ได้สำเร็จ

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม