Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Tech / Living

LG StanbyME ทีวีไร้สายย้ายได้ทุกที่ ของดีจากซีรีส์เกาหลี เอาใจสายไลฟ์สไตล์มินิมัล

Living / Tech

ครั้งแรกที่ฉันเห็น LG StanbyME แบบผ่านๆในรูปโปรโมต ฉันก็คิดว่านี่ก็เป็นรูปทีวีในห้องนั่งเล่นเหมือนในโฆษณาทั่วไป จนกระทั่งฉันเห็นมันอีกทีในซีรีส์เกาหลีหลายเรื่อง พร้อมเกิดกระแสคนที่อยากใช้ตามพากันค้นหาคำว่า ‘ทีวีในซีรีส์’ กันให้ควัก

เวลาเราดูรูปห้องนั่งเล่นที่อยู่ตามโฆษณาต่างๆ เราจะเห็นว่าทีวีในรูปจะอยู่โดดๆ สวยๆ ไม่มีสายไฟหรือสายสัญญาณต่อพ่วงให้เกะกะลูกตา ใช่ค่ะ นั่นเป็นเรื่องขององค์ประกอบศิลป์ในงานโฆษณา ที่จะปล่อยให้มีส่วนเกินรบกวนสายตาทำลายบรรยากาศในรูปไม่ได้ แต่ในความจริงเมื่อเราจัดห้องนั่งเล่น วางทีวีปั๊บ สิ่งที่จะตามก็คือสายไฟสายเคเบิลพวงใหญ่ ทำลายบรรยากาศคลีนๆ มินิมัลลงอย่างราบคาบ 

ในซีรีส์นางเอกใช้ LG StanbyME มาเปิดในครัวเพื่อดูสูตรอาหาร หน้าจอขนาด 27 นิ้วบนขาตั้งปราศจากสายไฟด้านหลังทำให้ฉันฉงนจนต้องไปหาสเป๊กมาดู ปรากฎว่ามันไม่ต้องใช้สายไฟจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำเนียนเหมือนโฆษณาเฟอร์นิเจอร์ LG StanbyME มาพร้อมกับคอนเซปต์ของการเป็นทีวีแบบ Portable โดยติดตั้งแบตเตอรีความจุ 5000 mAh 78Wh ที่ใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในขาตั้งติดล้อที่ดีไซน์มาเป็นอย่างดีให้ลากไปได้ทุกที่ในบ้าน

ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เรียบง่ายสุดๆอย่างขาตั้งทีวีหรือ Stand ของ LG StanbyME จะกลายเป็นจุดเด่นและพูดได้เต็มปากว่าเป็นนวัตกรรมจริงๆ ด้วยดีไซน์ที่ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามแบบเรียบน้อย แต่ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวของการถ่วงน้ำหนักหน้าหลังที่ได้สมดุลเป็นอย่างดีประกอบกับล้อที่ซ่อนอยู่ใต้ฐาน ทำให้การเคลื่อนย้าย LG StanbyME ไปใช้งานในห้องต่างๆ ทำได้อย่างมั่นคง เหมาะมากกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด

เราสามารถลากทีวีไปเก็บหรือจะตั้งประดับเป็นของแต่งบ้านไว้ที่มุมไหนชั่วคราวก็ได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยเวลาทำกิจกรรมอื่นๆในห้อง เรื่องชั้นวางทีวีก็ลืมไปได้เลย ลดพื้นที่สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไปอีก 1 ชิ้น ลดการถือครองสิ่งไม่จำเป็นไปอีก 1 อย่าง ละวางขนาดนี้ อย่าพึ่งบวชชี กลับมาติดซีรีส์ก่อน 

สำหรับคนเสพติดซีรีส์และอยากเปิดประสบการณ์แบบดูไปล้างจานไป หรือแม้แต่ดูต่อตอนเข้าห้องน้ำก็ทำได้ แถมหน้าจอใหญ่จุใจอ่านซับไตเติลสะดวกสบายตา ไม่เหมือนฟอนต์เล็กจิ๋วจากแท็บเล็ต ตกดึกก็ลากมาดูต่อข้างเตียง ปรับหน้าจอให้นอนดูได้ ไม่ว่าจะพลิกท่าไหน ก็เป็นทีวีที่ตามสายตาไปได้ทุกห้อง ไม่ต้องใช้หลายเครื่อง ไม่ต้องแคร์เรื่องตำแหน่งติดตั้ง

ว่าด้วยเรื่องการปรับหน้าจอ LG StanbyME สามารถปรับมุมของหน้าจอได้หลากหลายมากๆ ทั้งความสูงขึ้นลงได้ 20 เซนติเมตร มุมเงยเชิดหน้าหรือกดก้มคว่ำได้ 25 องศา บิดซ้ายขวาด้านละ 65 องศา และแน่นอนสำหรับสายคอนเทนต์หมุนปรับเป็นจอแนวตั้ง 90 องศา กลายเป็นจอแนวตั้งได้ทันที

เมื่อพูดหน้าจอแนวตั้ง ก็ต้องพูดถึงฟังก์ชันที่ออกแบบมาสำหรับสายโซเชียลโดยเฉพาะ สำหรับยุค TikTok, Reel, YouTube หรือ Short ที่กำลังดันคอนเทนต์วิดีโอแนวตั้งแบบสุด LG StanbyME ยังรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนส่งภาพขึ้นจอได้ง่ายๆ โดยเฉพาะมือถือแอนดรอยด์ที่รองรับระบบ NFC ที่สามารถเอาโทรศัพท์ไปแตะเซ็นเซอร์หลังหน้าจอเชื่อมต่ออย่างไว ด้วยหน้าจอใหญ่ 27 นิ้ว เหมาะมากสำหรับประยุกต์ใช้ในการในการไลฟ์สด โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการอ่านคอมเมนต์ไลฟ์แบบชัดๆ ไม่ให้พลาดออร์เดอร์

ที่สำคัญ LG StanbyME ควบคุมสั่งงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะด้วยมือถือควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน LG Thin Q ที่สามารถ ใช้แทนรีโมต มีโหมดพิมพ์เป็นคีย์บอร์ด และ Touch Pad แทนเมาส์ได้ด้วย หรือหากไม่สะดวกควานหามือถือหรือรีโมต หน้าจอของ LG StanbyME ก็เป็น Touch Screen ควบคุมได้ด้วยการสัมผัสไม่ต่างจากแท็บเล็ต เพียงแต่รันด้วยระบบปฏิบัติการสมาร์ตทีวี WebOS 6.0 ที่รองรับสตรีมมิงเจ้าหลักอย่าง Netflix, Disney+ Hotstar, Prime Video, Apple TV และ YouTube ครบถ้วน ในส่วนของสเปกหน้าจอเป็น LCD ความละเอียด Full HD 1920 x 1080p แสดงผลสี HDR10 Pro รีเฟรชเรทที่ 60Hz

การควบคุมการสั่งงานผ่านมือถือ ความสามารถในการมิเรอร์หน้าจอมือถือแท็บเล็ต และระบบ Touch Screen ทำให้นอกจากใช้งานแบบส่วนตัวในคอนโดแล้ว LG StanbyME ยังเหมาะมากๆ กับโฮมออฟฟิศที่ต้องการการใช้งานทีวีที่ยืดหยุ่นหลากหลาย เช่น การพรีเซนต์งานในการประชุมหรือเวิร์กชอปขนาดเล็ก การใช้งานในสถาบันการศึกษาสมัยใหม่ หรือแม้แต่ Co-working Space ในร้านกาแฟ

พูดถึงข้อดีมาเยอะแล้ว มาพูดถึงข้อจำกัดกันบ้าง อย่างแรกคือน้ำหนัก ซึ่งเป็นผลจากดีไซน์ที่ทำให้แข็งแรงมั่นคงในการเคลื่อนย้าย  LG StanbyME เหมาะกับการเคลื่อนย้ายในแนวราบ ในห้องที่ไม่มีการเล่นระดับ ไม่เหมาะกับการยกขึ้นบันไดย้ายชั้น ด้วยน้ำหนักเกือบ 18 กิโลกรัม และความเทอะทะของฐาน จะถอดประกอบก็วุ่นวายใช่เรื่อง 

แม้จะมีจุดเด่นที่ความเป็นทีวี Portable แต่ก็เป็น Portable ในพื้นที่จำกัด ยังไม่ใช่ระดับที่จะนำไปใช้ในกิจกรรมกลางแจ้งอย่างปาร์ตี้ตั้งแคมป์ได้สะดวก แถมการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งก็ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง

อีกข้อคือด้วยความที่เน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่างบลูทูธและไว-ไฟเป็นหลัก LG StanbyME จึงไม่มีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อสัญญาณทีวีดิจิทัล ไม่มีพอร์ตสาย LAN มีเพียงพอร์ต HDMI 1 ช่อง และ USB อีก 1 ช่องเท่านั้น จุดนี้ทำให้หลายสำนักรีวิวจัด LG StanbyME เป็นเพียง ‘จอมอนิเตอร์พร้อมฐานตั้ง’ มากกว่าจะเป็นทีวี และเมื่อรวมกับฟังก์ชันอื่นๆ บ้างก็เรียก LG StanbyME เป็น ‘แท็บเล็ตขนาดยักษ์พร้อมฐานลาก’ เสียมากกว่า

แต่สำหรับผู้ใช้งานแล้ว ถ้าจะถือว่า LG StanbyME เป็นแท็บเล็ตโอเวอร์ไซซ์ใช้งานในบ้านและโฮมออฟฟิศ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าการใช้งานมันเข้ากับไลฟ์สไตล์ จะนิยามว่ามันเป็นอะไร ใครจะแคร์

LG StanbyME เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021 เมื่อเป็นกระแสก็มีสั่งซื้อแบบพรี-ออร์เดอร์รับหิ้วกันทั่วไปในโลกออนไลน์ จนกระทั่งทาง LG ประเทศไทย(เพิ่ง)นำเข้ามาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ในราคา 44,900 บาท 

Words: Roongtawan Kaweesilp
ข้อมูลจาก:

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม