Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture / Travel

Indigenous-friendly เทรนด์เที่ยวที่ ‘ชนเผ่า’ เป็นไกด์พาเยี่ยมชมบ้านตัวเองแบบยั่งยืน

เที่ยวถึงถิ่น แถมได้อนุรักษ์ธรรมชาติในป่าแอมะซอนจนถึงออสเตรเลีย
Culture / Travel

หลังจากอยู่กับตัวเองมานานในช่วงล็อกดาวน์โควิด หลายคนได้ตระหนักว่ามนุษย์ต้องการ โหยหา หรือกระทั่งจำเป็นจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์อื่นๆมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน นั่นทำให้ระลอกแรกหลังจากคลายมาตรการล็อกดาวน์ ผู้คนจึงจองทริปไปท่องเที่ยวกับครอบครัว เพื่อนหรือคนรักอย่างอุตลุด ส่วนระลอกที่สองหลังจากออกไปเที่ยวทั่วจนฉ่ำใจแล้ว นักชีพจรลงเท้าทั้งหลายจึงหันมาเดินทางอย่างลงลึกในสถานที่ ผู้คน วัฒนธรรมและประสบการณ์ในพื้นที่นั้นๆมากขึ้น

ไกด์ชนเผ่า Kuku Yalanji พาครอบครัวเที่ยวชมถ้ำบนยอดเขา Budj Bim ในออสเตรเลีย
ไกด์ชนเผ่า Kuku Yalanji พาครอบครัวเที่ยวชมถ้ำบนยอดเขา Budj Bim ในออสเตรเลีย
Photo : www.budjbim.com.au

‘Indigenous-friendly Tourism’ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ-วัฒนธรรม-ยั่งยืน-เป็นมิตรกับชุมชนเจ้าของพื้นที่ ซึ่งชนเผ่าพื้นเมืองเจ้าของพื้นที่เป็นผู้จัดโปรแกรมทัวร์ และดูแลการท่องเที่ยวชุมชนของตนได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจึงบูมขึ้นมาในช่วงนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวออกเดินทางพร้อมวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า อยากจะไปเชื่อมโยงกับเจ้าของ ‘บ้าน’ ที่ตนไปเยือนอย่างแท้จริง มากกว่าจะแค่ไปเซลฟี่ให้ได้รูปแล้วก็จากไป

Kuku Yalanji ชนเผ่าในป่าฝนเดนทรี อุทยานแห่งชาติในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ลุกขึ้นมาเป็นผู้จัดการสถานที่ท่องเที่ยวในบ้านของตน เช่น ยอดเขา Budj Bim ซึ่งได้เป็นมรดกโลกด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมที่มีอยู่มากมายในบริเวณนี้ อย่างฟาร์มปลาไหลโบราณ Gunditjmara

Budj Bim Cultural Landscape
Budj Bim Cultural Landscape Photo : www.budjbim.com.au

ไกด์ชนเผ่าพื้นเมืองพาชม Budj Bim Cultural Landscape
ไกด์ชนเผ่าพื้นเมืองพาชม Budj Bim Cultural Landscape Photo : www.budjbim.com.au

ไกด์โชว์กับดักปลาไหลโบราณ
ไกด์โชว์กับดักปลาไหลโบราณ Photo : www.budjbim.com.au

กับดักปลาไหลแบบโบราณที่ Gunditjmara
กับดักปลาไหลแบบโบราณที่ Gunditjmara

ส่วนในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดาเป็นที่ตั้งของ Haida Gwaii หมู่เกาะที่อุดมไปด้วยป่าดิบชื้นริมทะเลที่เป็นบ้านของชนเผ่าพื้นเมืองมานับพันปี

Haida Gwaii หมู่เกาะทางตอนเหนือของรัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา
Haida Gwaii หมู่เกาะทางตอนเหนือของรัฐบริติชโคลัมเบีย แคนาดา Photo : Haida Tourism

Haida House เคบินริมทะเลบนหมู่เกาะ Haida Gwaii
Haida House เคบินริมทะเลบนหมู่เกาะ Haida Gwaii Photo : Haida Tourism

หนึ่งในเคบินทั้ง 12 หลังของ Haida House
หนึ่งในเคบินทั้ง 12 หลังของ Haida House Photo : Haida Tourism

ชนเผ่าไฮด้าพาไปเดินเล่นแถว ‘บ้าน’

ในอดีตหมู่เกาะแห่งนี้เป็นสถานที่ที่นักตกปลาต้องมาเยือน เพราะเป็นบ้านของปลาแซลมอนและปลาตาเดียวที่ชุกชุม ทว่าเมื่อคนมาจับพวกมันไปมากเข้า ประชากรปลาเริ่มลดน้อย ชนเผ่าเจ้าของพื้นที่พยายามปรับการท่องเที่ยวจากทริปตกปลาไปเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นที่มาของ Haida Tourism การท่องเที่ยวที่ชาวเผ่าไฮด้าเป็นเจ้าของ 100 เปอร์เซ็นต์ และร่วมกันสร้าง Haida House เคบินริมทะเล 12 หลังบนหมู่เกาะ Haida Gwaii ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่และเรียนรู้วิถีชาวไฮด้าที่เรียกว่า Yahguudang การนับถือและพึ่งพาอาศัยกันและกันของทุกชีวิต แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาจวกปลาไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติแบบแต่ก่อน

Gahinga Batwa Village
Gahinga Batwa Village Photo : Will Boase Photography/Craig Howes

ในอูกันดาก็มีที่พักใน Gahinga Batwa Village ซึ่ง Batwa หนึ่งในชนเผ่าเก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาเป็นเจ้าของหมู่บ้านสร้างใหม่แห่งนี้

The Batwa of Mgahinga

ชาวบัตวาเคยดำรงชีพด้วยการเก็บของป่าล่าสัตว์ในแถบเทือกเขา Virunga แต่ในยุค 1990 รัฐบาลพยายามอนุรักษ์กอริลล่าภูเขาที่สุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ดังนั้นพื้นที่ที่เรียกว่า Mgahinga อันเป็นส่วนหนึ่งของภูเขาไฟวิรุงก้าที่ชาวบัตวาใช้เป็นบ้านจึงกลายเป็นอุทยานแห่งชาติของอูกันดาในปี 1991 ยังผลให้ชาวบัตวาต้องออกจากพื้นที่

ชาวบัตวา 18 ครอบครัวต้องไปอาศัยในพื้นที่กันดารที่มีแต่หินขรุขระบริเวณทางเข้าอุทยานแห่งชาติ Mgahinga ไม่ไกลจากบ้านเดิมของตน โดยยังชีพด้วยการใช้แรงงานหรือขอทาน พวกเขาไม่มีทั้งการศึกษา แผ่นดินจะอยู่ หรือแม้กระทั่งอาหาร จึงลงเอยด้วยการมีชีวิตอย่างยากไร้และขาดสารอาหารอยู่เป็นนิจ

บ้านแบบดั้งเดิมที่ปั้นด้วยโคลนกับหินภูเขาไฟเป็นฐานของชาวบัตวา
บ้านแบบดั้งเดิมที่ปั้นด้วยโคลนกับหินภูเขาไฟเป็นฐานของชาวบัตวา Photo : Will Boase Photography/Craig Howes

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับรวมตัวชาวบัตวากว่า 100 ชีวิตและพื้นที่รับรองแขก
พื้นที่ส่วนกลางสำหรับรวมตัวชาวบัตวากว่า 100 ชีวิตและพื้นที่รับรองแขก Photo : Will Boase Photography/Craig Howes

ชาวบัตวา ชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาที่หลงเหลืออยู่แค่ 100 กว่าคน
ชาวบัตวา ชนเผ่าที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาที่หลงเหลืออยู่แค่ 100 กว่าคน Photo : Will Boase Photography/Craig Howes

ต่อมาทาง Volcanoes Safari ร่วมกับผู้สนับสนุนรายอื่นๆได้มอบที่ดิน 25 ไร่ให้กับชาวบัตวาที่ปัจจุบันมีจำนวนประชากรกว่า 100 ชีวิต นอกจากนี้แขกที่เข้าพัก Mount Gahinga Lodge ที่อยู่ใกล้เคียงยังช่วยสมทบทุนการสร้างบ้านให้กับ Studio FH สตูดิโอสถาปัตย์ในอูกันดาที่เข้ามาช่วยสร้างบ้านให้กับชาวบัตวารวม 18 หลัง รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางให้ชาวบัตวาได้มาพบปะรวมตัวกัน โดยชาวบัตวาเป็นผู้ก่อสร้างเองและใช้วัสดุในพื้นที่ตามวิถีการสร้างบ้านแบบดั้งเดิมของชาวบัตวา เช่น ใช้หินภูเขาไฟเป็นฐาน และใช้โคลนก่อผนัง หมู่บ้านชาวบัตวาแห่งนี้เปิดรับผู้มาเยือนให้ได้เข้ามาสัมผัสวิถีของชนเผ่าเก่าแก่ของแอฟริกา และจะมอบประสบการณ์ซาฟารีที่จะย้อนกลับไปใช้วิถีเดิมยุคเก็บของป่าล่าสัตว์

Gordon Hempton นักนิเวศวิทยาอะคูสติกไปบันทึกเสียงลมพัด สายน้ำไหลไปจนถึงเสียงลิงค่างบ่างชะนีและนกร้องในลุ่มแม่น้ำซาบาโล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นเสียงสภาพแสดล้อมทางธรรมชาติที่เรียกว่า ‘เสียงแห่งความเงียบ’ ที่ปราศจากเสียงมนุษย์สร้างขึ้น

พายเรือล่องแม่น้ำแอมะซอนที่ไหลผ่านบ้านของชนเผ่าโคฟานในเอกวาดอร์
พายเรือล่องแม่น้ำแอมะซอนที่ไหลผ่านบ้านของชนเผ่าโคฟานในเอกวาดอร์ Photo : www.quietparks.org

เข้าพักในบ้านของชนเผ่าโคฟาน อุทยานแห่งความเงียบแห่งแรกของโลก
เข้าพักในบ้านของชนเผ่าโคฟาน อุทยานแห่งความเงียบแห่งแรกของโลก Photo : www.quietparks.org

ร่วมวงจกมื้ออาหารแบบชนเผ่าโคฟานในป่าแอมะซอน
ร่วมวงจกมื้ออาหารแบบชนเผ่าโคฟานในป่าแอมะซอน Photo : www.quietparks.org

แรกทีเดียวคุณกอร์ดอนไปบันทึกเสียงเฉยๆและปล่อยคลิปให้ฟังที่ https://onesquareinch.org/ มูลนิธิที่คุณกอร์ดอนก่อตั้งขึ้นซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น Quiet Parks International

พื้นที่หลายล้านไร่รอบๆแม่น้ำซาบาโล ในประเทศเอกวาดอร์ คือบ้านของชนเผ่าโคฟาน ชนพื้นเมืองราว 1,200 ชีวิตที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติมาหลายศตวรรษ การจะรักษาบ้านของพวกเขาและสิ่งมีชีวิตเอาไว้ได้คือการทำให้ลุ่มแม่น้ำซาบาโลเป็น ‘อุทยานธรรมชาติแห่งความเงียบแห่งแรกในโลก’ เมื่อปี 2019 ซึ่งเปิดให้ผู้มาเยือนได้เข้าไปค้างคืนและอยู่ร่วมกับชนเผ่าโคฟานได้แบบจำกัดจำนวน เป็นการอนุรักษ์พื้นที่ที่คุณกอร์ดอนกล่าวว่าเป็น ‘พื้นที่แห่งความเงียบแห่งสุดท้ายในโลก’ ที่ปราศจากเสียงรบกวนของความเป็นเมือง และได้อนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งคนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน

Words: Suphakdipa Poolsap

ข้อมูลจาก

  • https://globalnews.ca/news/8725237/whats-behind-the-growing-interest-in-indigenous-led-tourism-in-canada/
  • https://www.budjbim.com.au/
  • https://edition.cnn.com/travel/article/quiet-parks-quiet-places-noisy-planet-spc-intl/index.html

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม