Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

เปิดตำนานนักแข่งรถที่เสียชีวิตเพราะร้อนจัดและส่องกลุ่มเสี่ยงเป็น Heat Stroke

ความอึดของนักแข่งรถที่ต้องทนกับความร้อนเกิน 50 องศา
Beauty / Wellness & Aesthetic

ควันจากท่อไอเสีย เครื่องยนต์ร้อนฉ่า แดดเปรี้ยง อุณหภูมิสูงจัด รถที่ไม่มีแอร์ ปัจจัยต่างๆที่เมื่อมัดรวมกันแล้วก็ทำให้นักแข่งรถสุ่มเสี่ยงอาจเสียชีวิตจากความร้อนได้

ห้องคนขับที่ไม่ได้ออกมาแบบให้ขับสบายแต่เน้นความเร็วและน้ำหนักรถเบาที่สุด
ห้องคนขับที่ไม่ได้ออกมาแบบให้ขับสบายแต่เน้นความเร็วและน้ำหนักรถเบาที่สุด Photo : Paul Gilham/Getty Images

ความร้อนกับนักแข่งรถ

ในวันที่ 30 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1953 การแข่งขัน Indianapolis 500 ปี 1953 ได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นการแข่งขันท่ามกลางอากาศร้อนรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง ในวันนั้น Indianapolis Motor Speedway สนามแข่งรูปวงรีระยะทาง 4 กิโลเมตรในรัฐอินดีแอน่า สหรัฐอเมริกา วัดอุณหภูมิพื้นถนนได้ถึง 54 องศาเซลเซียส ยังผลให้นักแข่งรถไม่ว่าจะมือเก๋าหรือหน้าใหม่ต้องสลับตัวออกให้นักขับสำรองมาลงแข่งแทนกันเป็นแถว เพราะทนความร้อนที่เหมือนขับรถอยู่บนเตาเผา ซึ่งหายใจเข้าทีไร เหมือนสูดไฟเข้าไปในปอด

ในการแข่งขันครั้งนั้น Bill Vukovich นักแข่งชาวเซอร์เบียพารถ Kurtis Kraft Fuel Injection Special หมายเลข 14 ขับนำโด่ง 195 รอบจากทั้งหมด 200 รอบ รวมระยะทาง 805 กิโลเมตรเข้าไปคว้าชัยได้ในที่สุด บิลตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า ขับไปได้ยังไง ไม่ร้อนหรือ บิลตอบว่า “ลองขับรถแทร็กเตอร์ในเมืองเฟรสโนตอนเดือนกรกฎาแล้วจะรู้” บิลหมายถึงเมืองเฟรสโน ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งในหน้าร้อนอุณหภูมิเฉลี่ย 38 องศาเซลเซียส

Bill Vukovich ขับ Kurtis Kraft Fuel Injection Special No. 14 เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกในการแข่งขัน Indy 500 ที่อินดีแอน่าที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามที่ร้อนที่สุด
Bill Vukovich ขับ Kurtis Kraft Fuel Injection Special No. 14 เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกในการแข่งขัน Indy 500 ที่อินดีแอน่าที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามที่ร้อนที่สุด Photo : IMS Photo Archive

ท่ามกลางชัยชนะครั้งแรกอันงดงามของบิล นักแข่งรถฟอร์มูล่าวันรายอื่นต้องเผชิญกับนรกบนดิน เป็นต้นว่า Pat Flaherty นักแข่งรถชาวอเมริกันพุ่งเข้าชนกำแพงเพราะอ่อนเพลียจัดจากอากาศร้อน แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ขณะที่มีนักแข่งรถ 14 รายต้องให้นักขับสำรองมาลงแข่งแทน

Carl Scarboroughs กับรถคู่ใจ McNamara Special ก่อนเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดในการแข่งขันเมื่อปี 1953
Carl Scarboroughs กับรถคู่ใจ McNamara Special ก่อนเสียชีวิตจากอากาศร้อนจัดในการแข่งขันเมื่อปี 1953 Photo : www.indymotorspeedway.com

ตรงกันข้ามกับ Carl Scarborough นักแข่งรถชาวอเมริกันที่ห้องรถ Kurt/Wett D – Offenhauser หรือ ‘McNamara Special’ หมายเลข 73 ตะบึงไปบนพื้นสนามแข่งที่ร้อนเหมือนเตาไฟ รถของเขาหมุนคว้างหลังจากไปชนเข้ากับรถของ Tony Bettenhausen ที่ทำให้คาร์ลเวียนหัวจากอุบัติเหตุไปแล้วหนึ่ง และในการขับรอบที่ 70 คาร์ลพารถเข้าจอดในพิตสต็อปและดูอ่อนเพลียอย่างแรงจากอากาศร้อน

นายช่างทั้งหลายง่วนกับการเช็กสภาพรถและเติมน้ำมัน คาร์ลยังนั่งอยู่ในเก้าอี้คนขับขณะที่น้ำมันรถที่ช่างเติมอย่างเร็วกระฉอกออกมาโดนท่อไอเสียร้อนๆจนไฟลุก นักดับเพลิงรีบเข้ามาฉีดโฟมดับไฟ คาร์ลซึ่งนั่งไร้เรี่ยวแรงอยู่ในรถถึงกับโดนหามออกมานั่งพิงกำแพง และถูกเปลี่ยนตัวให้ Bob Scott ขับแทนในรอบที่เหลือ

สุดท้ายคาร์ลหมดสติไปจากอากาศร้อน และคาดว่าเขาสูดคาร์บอนมอนอกไซด์จากถังดับเพลิงเข้าไปด้วย รถพยาบาลมาถึงในอีก 15 นาทีถัดมา จึงได้รู้ว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขาสูงถึง 40 องศาเซลเซียส เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์พยายามกู้ชีพทุกวิถีทาง ให้หลังจากที่โดนหามตัวออกมาจากรถ คาร์ลมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ส่วนในปี 1984 ในการแข่งฟอร์มูล่าวันที่ดัลลัส ได้เกิดภาพประวัติศาตร์ที่นักแข่งรถชาวอังกฤษ Nigel Mansell ขับรถชนกำแพงจนต้องหยุดรถ แต่เขาพยายามเข็นรถไปถึงเส้นชัย ทว่าเป็นลมหมดสติไปเสียก่อนเนื่องจากเป็นฮีตสโตรกจากสภาพอากาศร้อนจัด 38 องศาเซลเซียส

Nigel Mansell หมดสติจากความร้อนจัด หลังจากฝืนขับรถในการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่ดัลลัสเมื่อปี 1984
Nigel Mansell หมดสติจากความร้อนจัด หลังจากฝืนขับรถในการแข่งขันฟอร์มูล่าวันที่ดัลลัสเมื่อปี 1984

https://www.youtube.com/watch?v=VqrX4v4nn4I
Jenson Button
Jenson Button Photo : REUTERS

27 มีนาคม 2022 Jenson Button อดีตแชมป์ฟอร์มูล่าวันที่ย้ายไปขับรถแข่งนาสคาร์สนามแรกในเท็กซัสกล่าวว่า เกือบจะถอนตัวจากการแข่งขันหลังจากขับไปได้แค่ 18 รอบ เพราะสภาพอากาศในสนามและในห้องคนขับร้อนจัดจนเขาเกิดอาการเพลียแดดขึ้นมา จนต้องพารถเข้าไปจอดพักที่พิตสต็อป 2 ครั้งเพื่อให้ทีมงานเอาน้ำแข็งมาโปะตามตัวและดื่มน้ำเยอะๆ พอให้มีสติขับรถต่อไปได้ “ผมเกือบจะออกจากรถไปแล้วเพราะคิดว่าตัวเองจะเป็นลม ผมดื่มน้ำ 8-9 ขวดเห็นจะได้ในช่วงที่ลงแข่ง”

สภาพของนักขับระหว่างแข่ง

รถแข่งฟอร์มูล่าวันถูกออกแบบมาให้ตัวถังเย็นลงเมื่อเจอกับแรงลมขณะวิ่งรถ หากติดเครื่องยนต์และจอดแช่ไว้ ตัวรถจะค่อยๆ ร้อนขึ้น ดังนั้นเมื่อนักแข่งนำรถเข้ามาจอดในพิตสต็อป ทีมช่างจะเปิดพัดลมไอเย็นแรงลมสูงมาช่วยดับร้อนให้กับรถและคนขับ รวมทั้งเอาน้ำแข็งแห้งไปโปะตามจุดที่รถร้อน เช่น เบรกและหม้อน้ำ

ช่างทีม Red Bull รีบโปะน้ำแข็งแห้งให้รถแข่ง
ช่างทีม Red Bull รีบโปะน้ำแข็งแห้งให้รถแข่ง

นักแข่งรถฟอร์มูล่าวันต้องฝึกฝนร่างกายให้ชินกับสภาพอากาศร้อนจัด เช่น ใส่ชุดนักแข่งไปฝึกซ้อมหรือปั่นจักรยานในห้องเซาน่า เพราะในรถแข่งไม่ติดแอร์ ด้วยต้องการให้รถแข่งมีน้ำหนักเบาที่สุด ดังนั้นตัวช่วยทำให้เย็นจึงไปอยู่ที่ตัวนักแข่งรถเองที่อาจใส่เสื้อกั๊กปรับอุณหภูมิ พันแผ่นทำความเย็นหรือน้ำแข็งแห้งชนิดเกล็ดไว้ตามแขนเสื้อ อก แผ่นหลัง ในหมวกกันน็อกและในรองเท้า รวมทั้งอาจสวมปลอกคอทำความเย็นเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนไปสู่สมองได้ดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เย็นได้นานนัก เมื่อเจอกับความร้อนในห้องคนขับ

นักแข่งรถสวมเสื้อกั๊กทำความเย็น
นักแข่งรถสวมเสื้อกั๊กทำความเย็น

Max Verstappen แชมป์ฟอร์มูล่าวันจากทีม Red Bull เตรียมออกสตาร์ทในห้องคนขับที่ทั้งเล็ก แคบและร้อนถึง 50-60 องศาเซลเซียส
Max Verstappen แชมป์ฟอร์มูล่าวันจากทีม Red Bull เตรียมออกสตาร์ทในห้องคนขับที่ทั้งเล็ก แคบและร้อนถึง 50-60 องศาเซลเซียส Photo : Mark Thompson/Getty Images

การแข่งขันหนึ่งครั้ง นักแข่งรถต้องอยู่ในห้องคนขับที่อาจร้อนได้ถึง 50-60 องศาเซลเซียสติดต่อกันราวๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง น้ำหนักตัวอาจหายไปถึง 3 กิโลกรัมจากการเสียเหงื่อ ขณะที่ต้องพยายามจิบน้ำบ่อยๆเพื่อไม่ให้ร่างกายช็อกจากภาวะขาดน้ำ เพลียแดด (heat exhaustion) หรือเป็นลมแดด (heatstroke) ที่พบได้บ่อยเมื่อเจอกับความร้อนจัด

Heat Stroke (ฮีตสโตรก) เกิดจากอะไร?

เกิดจากการที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงจัดและไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ทัน ปกติร่างกายมีกลไกขับความร้อนด้วยการขับเหงื่อ แต่หากมีเหตุขัดข้องที่ร่างกายไม่อาจขับเหงื่อได้ก็จะมีความเสี่ยงต่อภาวะฮีตสโตรกได้มากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนๆ

กลุ่มเสี่ยงต่อฮีตสโตรก

เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี และผู้ใหญ่ 65 ปีขึ้นไป เสี่ยงต่อฮีตสโตรก เนื่องจากเป็นวัยที่สมองมีการตอบสนองต่อความร้อนได้น้อยกว่าวัยอื่นๆ รวมทั้งผู้ที่กินยาขับปัสสาวะ เช่น ยาลดความดันบางตัว หรือคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ในวันอากาศร้อน แม้จะเป็นเครื่องดื่มเย็นก็ตาม เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ จึงทำให้ร่างกายสร้างเหงื่อได้น้อยลง

สัญญาณเริ่มต้นที่บ่งบอกว่าเป็นฮีตสโตรก (Heat Stroke)

คือร่างกายมีอุณหูภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส รู้สึกปวดเมื่อยตามตัวเนื่องจากตัวร้อนมาก ตัวแดงเนื่องจากร่างกายพยายามดันเลือดไปที่ผิวหนัง แต่ผิวจะแห้ง ไม่มีเหงื่อชุ่มโชก คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้งแต่เหงื่อไม่ออกก็อาจเจอกับภาวะฮีตสโตรกได้ ชีพจรจะเต้นเร็วแรงมาก เนื่องจากหัวใจพยายามปั๊มเลือดไปที่ผิวหนังเพื่อขับความร้อน แต่ว่าความร้อนออกไปไม่ได้ และส่งผลไปถึงสมอง ทำให้วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นลม หมดสติ ชักหรือเสียชีวิตได้

Sebastian Vettel นักแข่งรถชาวเยอรมันจากทีม Red Bull
Sebastian Vettel นักแข่งรถชาวเยอรมันจากทีม Red Bull Photo : PETER PARKS/Getty Images

หากมีอาการเหล่านี้ ต้องรีบลดความร้อนในร่างกายให้เร็วที่สุด โดยเอาน้ำเย็นมาราดตัว อาบน้ำเย็นหรือประคบน้ำแข็งตามจุดที่มีเส้นเลือดดำใหญ่ เช่น รักแร้ ซอกคอ ขาหนีบ ข้อพับ ร่วมกับโบกพัดไปทั่วตัวเพื่อให้น้ำระเหยซึ่งจะนำความร้อนออกไปจากผิวหนังได้ ถ้าตัวเริ่มเย็นลงแล้วให้อมน้ำแข็งหรือกินไอศกรีม หาก 5 นาทีแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ต้องรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลโดยด่วนที่สุด

Words: Suphakdipa Poolsap

ข้อมูลจาก

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม