Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

‘137 Pillars House Chiang Mai ’

เอนกายในบ้านบอร์เนียวหรูหราแห่งอาณาจักรล้านนา
Art & Design / Culture

137 Pillars House Chiang Mai ดัดแปลงบ้านบอร์เนียวไม้สไตล์โคโรเนียลที่สร้างขึ้นช่วงปลายยุค’s 80 เป็นบูทีคโฮเทล ใจกลางเชียงใหม่ โดยมีเสาไม้ 137 ต้น เป็นที่มาของชื่อโรงแรมและบ่งบอกฐานะของผู้ครอบครองตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ อดีตบริษัทสัมปทานไม้แห่งแรกของสยาม ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ห้องอาหารและเลานจ์ ระดับพรีเมียม เพื่อต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกในบรรยากาศหรูหราทว่าอบอุ่น ดุจย้อนวันวานสู่ห้วงเวลาที่เรือนไม้แห่งนี้เคยมีผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนไม่เว้นวัน

     เพียง 170 เมตรจากวัดเกตการาม ผ่านร้านรวงเก๋ๆ บนถนนเจริญราษฎร์ จังหวัดเชียงใหม่ คุณจะพบกับ บูทีคโฮเทลที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ตัดกับตัวอาคารสีขาวสะอาดตา 137 Pillars House เจ้าของรางวัลระดับเวิล์ดคลาส อาทิ Luxury Lifestyle Awards 2019 (USA) สาขา The Best Luxury Boutique Hotel in Thailand และ The Best Luxury Eco-Resort in Thailand รางวัล World’s Best Awards 2017 จาก Travel + Leisure Magazine (USA) และ The Top 100 List – Best Hotels in the World 2017 และ 2018 จาก World Travel Magazine (Singapore) ได้รับการออกแบบให้สอดประสานความเป็นบ้าน บอร์เนียวสไตล์โคโรเนียลผสมผสานกับศิลปะล้านนาร่วมสมัยไว้อย่างลงตัว โดยมีพื้นที่สีเขียวและไม้ใหญ่ ที่เคยอยู่กับที่ดินผืนนี้มานาน เชื่อมต่อห้องพักทั้ง 4 สไตล์ให้ดูคล้ายหมู่เรือนคหบดีน้อยใหญ่ที่รายล้อมบ้าน บอร์เนียวเสมือนเรือนประธาน

     แรกทีเดียวที่ดินขนาด 5 ไร่เศษนี้เคยเป็นที่ตั้งของ Borneo Trading Company บริษัทสัมปทานไม้แห่งแรก ของสยาม (ตั้งแต่ พ.ศ. 2432-2501) โดยมี Louis Leonowens บุตรชายของ “แหม่มแอนนา” (Anna Leonowens) หรือที่ยุคนั้นรู้จักกันดีในนาม “พระอาจารย์ฝรั่ง” อาจารย์สอนภาษาอังกฤษของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เป็นผู้จัดการคนแรก ก่อนจะกลายเป็นสถานที่บัญชาการของกองทัพ ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสิ้นสุดสงคราม บ้านบอร์เนียวกลับมาทำหน้าที่เป็นสำนักงานของบริษัท บอร์เนียวค้าไม้ตามเดิม จนถึงช่วงเวลาสุดท้ายในปี พ.ศ. 2501 จึงถูกทิ้งร้างมานับแต่นั้น 

     กระทั่งวันหนึ่ง คุณนิพันธ์ วงศ์พันเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัท กังวาลเท็กซ์ไทล์ จำกัด และ บริษัท กังวาล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนี้พร้อมเก็บรักษาบ้านบอร์เนียวไว้ให้คงสภาพเดิมให้มากที่สุด เพื่ออนุรักษ์อาคารแห่งประวัติศาสตร์ที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ก่อนจะเปิดให้บริการบูทีคโฮเทลขนาด 30 ห้อง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ได้รับการออกแบบห้องพักในลักษณะหมู่เรือนคหบดี ที่แทรกตัวท่ามกลาง สวนเขตร้อน ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีที่อยู่คู่บ้านบอร์เนียวมาตั้งแต่ยุคแรก แบ่งห้องพักเป็น 4 แบบ ได้แก่ rajah-brooke-suite, East Borneo Suits,  David Fleming Macfie Suites และ William Bain Terrace Suits ที่แต่ละชื่อล้วนเชื่อมโยงเข้ากับประวัติศาสตร์ของบ้านบอร์เนียว

     โถงระเบียงกว้างเผยให้เห็นพื้นที่สีเขียวและหมู่เรือนน้อยใหญ่ ทว่ายังคงความเป็นส่วนตัวด้วยต้นไม้และ สวนสวยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายในห้องพักได้รับการออกแบบที่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นโคโรเนียล ทว่าครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัย ผ้าไหมและผ้าทอมือได้รับการออกแบบให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ อย่างเรียบง่าย เตียงสี่เสาสไตล์วินเทจขนาดใหญ่กับที่นอนหนานุ่มหลับสบาย อ่างอาบน้ำวิคทอเรียน สีขาว ชวนให้อยากเอนกายแล้วปล่อยให้ความเหนื่อยล้าจมหายไปกับไวน์ดีๆ และเทียนหอม การออกแบบที่สร้าง ความรู้สึกหรูหรา สะดวกสบายและอบอุ่นราวกับพักผ่อนอยู่ในบ้านตากอากาศเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักเดินทาง ทั่วโลกกลับมาเยือน 137 Pillars House ครั้งแล้วครั้งเล่า

     ปัจจุบัน ‘บ้านบอร์เนียว’ ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือน โถงด้านหน้าเปิดโล่งโปร่งสบาย พอให้ลมเย็นพัดผ่าน มองเห็น The Garden Wall หรือกำแพงต้นไม้สูง 25 เมตรที่ดึงดูดทุกสายตา สระว่ายน้ำ Infinity Pool ซ่อนตัวอยู่หลังรั้วต้นไม้เพิ่มความเป็นส่วนตัวและผ่อนคลาย ภายในเรือนไม้ประกอบด้วย The Dining Room ที่เสิร์ฟอาหารเหนือและอาหารไทยรสกลมกล่อม เน้นความสดใหม่ของผักและผลไม้จาก โครงการหลวงและส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น เมนูที่เราอยากแนะนำ ได้แก่ กุ้งหลวงคั่วข้าวเม่าหมี, แกงฮังเลแกะ, ยำส้มโอปูนิ่ม เป็นต้น

Palette Restaurant
Afternoon Tea Set
Blowtorched Tiger Prawns & Salmon
Lightly tossefd with olive oil ,apple ,cucumber ribbon and orange segments
Mushroom Soup with Truffle oil Local Shitake and Bootton mushroom
Roasted Veal Angus, Pan roasted with baby vegetables, whipped potatoes and port wine beef jus

     โดยเฉพาะ Palette Restaurant เจ้าของรางวัล MICHELIN Guide Chiang Mai Top 50 Restaurants 2019 ขนาด 24 ที่นั่ง พร้อมเสิร์ฟเมนู farm to table สไตล์ตะวันตก ให้คุณลิ้มรสศิลปะแห่งการรับประทาน อาหารใ นบรรยากาศหรูหราสง่างาม เปิดให้บริการ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม มาแล้วไม่ควรพลาด Michelin Plate Tasting Menu ได้แก่ Blowtorched Tiger Prawns and Salmon, Mushroom Soup w Truffle Oil, Broccoli & Green Curry Veloute, Roasted Chicken Breast w assorted vegetables / sweet pont neuf potatoes และ Roasted Veal Angus w whipped potatoes and port wine beef jus

Jack Bain’s Bar

     สำหรับสุภาพบุรุษและคนที่อยากมองหาคอกเทลหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ Jack Bain’s Bar จะชวนให้คุณรู้สึก ผ่อนคลายในสไตล์ Gentlemen’s Club ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความเป็นเรือนไม้เข้ากับ โซฟาวินเทจสีเขียวและสีม่วง เพิ่มความสนุกให้การออกแบบและบรรยากาศ พร้อมเสิร์ฟคอกเทลที่ครีเอทโดย มิกโซโลจิตส์มากฝีมือตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มครึ่ง คอกเทลที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ The Signature, The Old House, Siam Ruby, The Age Teak และ Chocolate Martini

     ไม่ต้องรอให้ถึงฤดูหนาว คุณก็ไปพักผ่อนกายใจที่ 137 Pillars House ได้ทันที บูทีคโฮเทลแห่งนี้ จะมอบความสุขและความประทับใจที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล เฉกเช่นวันวานของบ้านบอร์เนียว ที่อยู่คู่เชียงใหม่มานับศตวรรษ

137 Pillars House Chiang Mai
2 ซอย 1 ถนนนวเกต ตำบลวัดเกต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร: (0) 53 247 788
Website : 137pillarschiangmai
Facebook : 137 Pillars House Chiang Mai


┃Photography : สมัชชา อภัยสุวรรณ

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม