ทุกวันนี้นอกจาก พะเพื่อน-ชุติมณฑน์สกุลไทยเซเลบริตี้สาวแฟชั่นนิสต้าลูกสาวคนสวยของ แม่อุ๊-มณฑ์ลัชชาสกุลไทยจะกำลังง่วนอยู่กับการทำธุรกิจส่วนตัวอย่างร้านไอศกรีม “A Scoop To Move” Ice Cream & Cereal Bar และธุรกิจอื่นๆ ที่เธอตั้งอกตั้งใจปลุกปั้นแล้ว เธอยังสวมบทบาทเป็นยูทูบเบอร์เจ้าของช่องยูทูบ “Papuean Skulthai” ที่นำเสนอคอนเท็นต์สนุกๆ และสร้างสรรค์ในสไตล์ของพะเพื่อนที่ครอบคลุมทั้งเรื่องบิวตี้ แฟชั่น ท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์เรื่องราวใหม่ๆ ที่พร้อมเซอร์ไพรส์คนดู โดยเฉพาะคอนเท็นต์ “เปิดกรุ” ที่บอกเลยว่า แฟชั่นนิสต้าตัวจริงดูแล้วจะต้องทึ่ง
ลิปส์ : คลิปยูทูบที่เริ่มทำคลิปแรก คือ คลิปอะไร และทำไมถึงตัดสินใจทำ
พะเพื่อน : เป็นคลิปที่เพื่อนแนะนำตัวเอง เพราะบางคนรู้จักเราบ้างแล้ว หรือบางคนที่ไม่รู้จัก เข้ามาดูเขาจะได้รู้จักเราค่ะ เพื่อนทำช่อง Papuean Skulthai มาได้ปีกว่า ที่ทำเพราะเพื่อนอยากให้คนรู้จักเรามากขึ้น อยากให้คนรู้จักไลฟ์สไตล์ของเรามากขึ้น และเพื่อนเรียนจบมาทางด้านวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน เพื่อนชอบทำอะไรทางนี้อยู่แล้ว ชอบถ่ายรูป สามารถพูดหน้ากล้องได้ เป็นคนที่ไม่เขินกล้อง เราก็โอเคมาทางสายนี้ก็แล้วกัน
คอนเท็นต์หลักๆ จะเป็นไลฟ์สไตล์อย่างเช่น ไปเที่ยว บิวตี้ วิธีบำรุงผิวหน้า เคล็ดลับการดูแลตัวเองแฟชั่น การแต่งตัวอะไรแบบนี้ แล้วก็มี “เปิดกรุ” อันนี้คนชอบมาก
ลิปส์ : การคิดคอนเท็นต์มีกระบวนการอย่างไร มีทีมงานหรือไม่ หรือตัดต่อเอง
พะเพื่อน : เพื่อนจะมีทีมของเพื่อนเอง มีน้องที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันมาช่วย แล้วก็มีเพื่อนสนิทของเพื่อนเองที่เรียนด้วยกันมาช่วยตัดต่อ แล้วเขาจะรับหน้าที่เป็นเหมือนครีเอทีฟด้วยค่ะ ซึ่งการทำงานคือทุกคนก็ช่วยกันคิดคอนเท็นต์ แล้วก็มาเรียง Timeline ว่าเดือนนี้ถ่ายอะไร อย่างไร แล้วก็ถ่าย ตัดต่อค่ะ
ลิปส์ : คอนเท็นต์ที่ครีเอทออกมาจะอ้างอิงข้อมูลจากตัวคุณกับคุณแม่เป็นหลัก หรืออ้างอิงจากเทรนด์เป็นส่วนใหญ่
พะเพื่อน : ก็จะเน้นเพื่อนกับคุณแม่เป็นหลักค่ะ แล้วก็จะเป็นการตามใจคนดูบ้าง แหวกแนวไปเลยบ้าง ให้คอนเท็นต์มีอะไรหลายๆ อย่างๆ มีความหลากหลาย เหมือนเป็นการทดลองไปในตัว
ลิปส์ : คิดว่า คนติดตามเราเพราะอะไร คนอยากดูอะไรจากแชนเนลของเรา
พะเพื่อน : เปิดกรุกับคุณแม่ค่ะ คอนเท็นต์นี้จะเป็นคอนเท็นต์หลักๆ ที่คนชอบ และติดตามเราเยอะ เพราะทุกคนก็อยากเห็นว่าเพื่อนกับคุณแม่จะเอาอะไรออกมาให้ดู ซึ่งก็เป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ แล้วอย่างคอนเท็นต์ล่าสุดที่เพื่อนเพิ่งลงไป เป็นคอนเท็นต์เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เพื่อนกับคุณแม่ไปซื้อของในช้อป Hermès คนก็ชอบมาก คนชอบอะไรที่เป็นประสบการณ์จริง เหมือนให้เรามานั่งเล่าให้ฟัง
“เพื่อนกับคุณแม่จะตกลงกันว่า การเปิดกรุไม่ใช่การเอาของออกมาอวด แต่จะเป็นการให้ความรู้ ให้ข้อมูลคนดู ในเรื่องที่เราสองคนรู้ค่ะ เพราะต้องบอกว่าเราไม่ใช่กูรูแต่เราเป็นผู้ใช้จริงๆ อย่าง วิธีดูแลกระเป๋า วิธีการซื้อ เราซื้อมาเพราะอะไร ซื้อมาทำไม แล้วเพราะอะไรถึงต้องเป็นสิ่งนี้ อันนี้คนชอบ คนขอมา ต้องขอบคุณคนดูด้วยค่ะที่แชร์ไอเดียกับเรา”
ส่วนคลิปอื่นๆ เพื่อนก็พยายามทำ อย่างทริปท่องเที่ยว เพื่อที่มันจะไม่ได้มีแค่แบบเปิดกรุๆ มันจะได้ไม่น่าเบื่อ คอนเท็นต์มันจะได้ไม่ซ้ำ ก็จะมีเรื่องเครื่องสำอางด้วย เพราะว่าเพื่อนเป็นคนชอบเครื่องสำอางมากๆ อย่าง สกินแคร์ อะไรแบบนี้แล้วเพื่อนใช้จริง ซื้อมาใช้จริงๆ ก็จะมีมาแนะนำสลับกันไปมาค่ะ
ลิปส์ : คลิปที่คุณรู้สึกว่าทำคอนเท็นต์ค่อนข้างยาก
พะเพื่อน : ก็น่าจะเป็นคลิปที่เป็นสปอนเซอร์คลิปมากกว่าค่ะที่เพื่อนคิดว่ายาก เป็นคลิปที่มีลูกค้า อะไรแบบนั้นค่ะ (หัวเราะ) เพราะเราต้องทำคอนเท็นต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ต่างจากคลิปส่วนใหญ่ที่เป็นคลิปที่คิดคอนเท็นต์กันเอง อย่าง คลิปท่องเที่ยว หรือคลิปความงาม ไลฟ์สไตล์ คือ เป็นคลิปที่เราชอบเราอยากทำ เรารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นอย่างไร เรามี Story อยู่ในหัว มันก็ไม่ค่อยยาก แต่พอมันเป็นคลิปที่เหมือนเรามีโจทย์ มีข้อกำหนดด้วยคอนเท็นต์แล้วก็อะไรหลายๆ มีคีย์เวิร์ดที่เราต้องพูดเกี่ยวกับโปรดักต์แบบนั้นแบบนี้ ห้ามลืมนะ ต้องสมูธนะ ซึ่งมันก็จะยากในทุกครั้งที่มี แต่ก็ทำได้ค่ะ (ยิ้ม)
ลิปส์ : คลิปแรกที่สปอนเซอร์เข้า เป็นอย่างไรบ้าง
พะเพื่อน : ถ้าเพื่อนจำไม่ผิดนะคะ รู้สึกว่าจะเป็น Krispy Kreme เป็นโดนัทไข่เค็ม เป็นคลิปสปอนเซอร์แรก แล้วต้องออกไปถ่ายข้างนอกด้วย แต่เพื่อนก็เรียนด้านวารสารมาก็จะรู้ และเข้าใจในวิธีการทำงานและเหมือนเราก็รู้จักแบรนด์ดีอยู่แล้ว ในการทำงานมันก็เลยไม่ค่อยยากเท่าไรค่ะ
ลิปส์ : ทำยูทูบหาเงินได้จริงไหม ทำเป็นอาชีพได้จริงหรือเปล่า
พะเพื่อน : ทำเป็นอาชีพได้จริงค่ะ ถ้าทำคอนเทนต์ดีๆ และสร้างสรรค์ ดูตัวอย่างได้จากหลายๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จจากการเป็นยูทูบเบอร์ อย่างยูทูบเบอร์ที่เพื่อนติดตาม ก็จะมี MayyR , Bew Waraporn, Song of Style, Jenn Imm และ Kristenlight ค่ะ ก็จะเห็นได้ว่าทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง
ลิปส์ : คลิปที่ประทับใจมากที่สุด
พะเพื่อน : น่าจะเป็นคลิปแรกที่ลงค่ะ เป็นคลิปบุกเบิกด้วย แล้วก็คลิปสุดท้ายที่เพิ่งลง คลิป “Hermes ซื้อที่ Shop ยากจริงมั้ย ? เราจะเล่าให้ฟัง !!” เพราะรู้สึกว่าคนให้ความสนใจดีมาก คือ คนรอฟังประสบการณ์ของเรา เพราะมันน่าสนใจจริงๆ แล้วก็ได้ความรู้ควบคู่ด้วย
ลิปส์ : คลิปที่ทำแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คาด
พะเพื่อน : อาจจะเป็นคลิปออกกำลังกาย ยอดวิวน้อย คนไม่อินกับเพื่อนเลย (หัวเราะ) เพราะคนจะเฝ้ารอเราเล่าเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่น เกี่ยวกับความสวยความงาม อะไรอย่างนี้มากกว่า
ลิปส์ : การเปิดเผยเรื่องส่วนตัวในคลิปมีลิมิตแค่ไหน
พะเพื่อน : มีลิมิตในระดับหนึ่งค่ะ เพราะบางอย่างเราก็ไม่สามารถโชว์ได้ แต่ว่าบางอย่างที่เราโชว์ได้เราก็จะโชว์ แต่ว่าเราก็จะโชว์แบบพอเหมาะ ไม่ใช่ว่าขนทุกอย่างออกมา เราคิดกันเสมอว่าเราเอาออกมาโชว์แล้วเราต้องพูดเรื่องจริง พูดเกี่ยวกับสินค้านั้นจริงๆ ไม่ใช่สักแต่เอาออกมาแบบ เอาออกมาโชว์ เอาออกมาอวดแบบนั้นค่ะ เพราะมันก็มีอีกหลายชิ้นที่เพื่อนกับคุณแม่ก็อุบไว้ก่อน
ลิปส์ : ในการทำงานคุณแม่ช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำอย่างไรบ้าง
พะเพื่อน : คุณแม่จะช่วยคิดคอนเท็นต์ค่ะ อย่างเราลองเล่าประสบการณ์ที่เราไปซื้อของที่เมืองนอกอะไรแบบนี้ไหม หรือเราเอากระเป๋าใบนี้ออกมาเล่าให้เขาฟังกันไหม เช่น MOYNAT ที่คนไม่ค่อยรู้จัก เอาออกมาเล่าให้คนฟังถึงความน่าสนใจ คุณแม่ก็จะคอยแชร์ไอเดียใหม่ๆ เสมอ และคุณแม่จะชอบย้อนดูคลิป แล้วก็จะมีคำแนะนำว่า ครั้งหน้าเดี๋ยวลูกลองเอารูปมา Insert เข้าไป หรือมี Pop-up แล้วใส่ Sub ดีไหม ก็จะคอยแนะนำสิ่งดีๆ ตลอดเวลาค่ะ
ลิปส์ : คลิปที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ
พะเพื่อน : ตอนนี้คุณแม่กำลังสร้างบ้านอยู่ค่ะ แล้วเราใจจดใจจ่อมากกับการที่จะถ่ายบ้าน แต่ก็อยากให้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วเพื่อนค่อยเริ่มเข้าไปถ่าย ใครอยากดูเพื่อนกับคุณแม่เปิดบ้านก็เตรียมตัวกดติดตามกันได้นะคะ
ลิปส์ : เคยมีดราม่าจากการทำคลิปไหม ถ้าเคยมีแก้ปัญหาอย่างไร
พะเพื่อน : ดราม่าที่เพื่อนเจอไม่ได้รุนแรง ร้ายแรง ส่วนใหญ่น้อยมากที่จะมีนักเลงคีย์บอร์ดเข้ามา แต่ถามว่ามีไหม มีแน่นอนค่ะ ก็จะมีบางคนที่เข้ามาบูลลี่เรา จะมาว่าเราเหมือนเราไม่รู้จริงหรอก มาติงเราแบบนี้ก็มี บางทีเพื่อนก็ไม่อ่านเลย บางทีก็ให้ทีมงานอ่านคอมเม้นต์ แต่ว่าอันไหนที่เราผิดพลาดจริงๆ อันนั้นเราน้อมรับ และพร้อมแก้ไข แต่บางอันไร้สาระ เข้ามาบูลลี่เราแบบจงใจ เราก็จะมองข้ามไปเลยค่ะ ให้มองบวกไว้ก่อนค่ะ
┃Photography : Somkiat K.
