ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาสายแฟได้ตื่นเต้นกับข่าวเก้าอี้ดนตรีของเหล่าดีไซเนอร์และแบรนด์ดังที่หมุนเปลี่ยนตัวประหนึ่งเป็นวงจรชีวิตของอุตสาหกรรมแฟชั่นไปแล้ว แต่อยู่ ๆ ชื่อของ Maximilian Davis ดีไซเนอร์ที่น้อยคนนักจะรู้จักได้ปรากฎตามหน้าสื่อแฟชั่นต่าง ๆ ถึงการเข้ามารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์หรูจากอิตาลี Salvatore Ferragamo ต่อจาก Paul Andrew ดีไซเนอร์คนก่อนที่โบกมือลาไปเมื่อปีที่แล้ว
Maximilian Davis เกิดและโตที่ประเทศอังกฤษ เขาจบการศึกษามาจาก London College of Fashion และเคยผ่านงานร่วมกับดีไซเนอร์แถวหน้าของประเทศอังกฤษหลายคน เช่น Grace Wales Bonner, Mowalola, Asai และ Supriya Lele ก่อนจะเปิดแบรด์ภายใต้ชื่อของตัวเองในปี 2020 โดยนำแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของคนดำแถบตรินิแดดและจาไมก้า รากเหง้าเชื้อสายของเขามาบิดใส่ในผลงานดีไซน์ งานดีไซน์คัตติ้งคมกริบที่ให้ความหรูหราในโทนสีจัดจ้าน การไฮบริดวัฒนธรรมระหว่างบ้านเกิดและเชื้อสายอันโดดเด่นจนสามารถครองใจเซเลบริตี้แถวหน้าของโลก อาทิ Rihanna, Kim Kardashian และ Dua Lipa ได้ ไม่ใช่แค่นั้น ฝีมือของเขายังเจ๋งมากพอที่จะส่งตัวเองเข้ารอบ Semi-Finalits ในโครงการ LVMH Prize ซึ่งเขาต้องออกจากการแข่งขันกลางคันหลังจากได้งานใหม่ที่ Salvatore Ferragamo
การเข้ามาที่ Salvatore Ferragamo ของเขานั้นน่าสนใจมาก ๆ เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการชักจูงก็คือ Marco Gobbetti ที่ย้ายมาก่อนตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาหลังจากเคยช่วยดูแล Burberry มาก่อนหน้าการมาของ Marco ในฐานะ Chief Excutive ที่แบรนด์อิตาเลียนนี้มีจุดประสงค์ในการยกแผงและเขย่างานฝั่งครีเอทีฟทั้งหมดของ Salvatore Ferragamo เพราะด้วยแบรนดิ่งและประวัติศาตร์ความเป็นมานั้น Salvatore Ferragamo ถือว่าไม่แพ้แบรนด์อื่นเลย ๆ ขาดแค่ภาพลักษณ์สดใหม่ที่สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าที่เด็กลงและเป็นเจเนอเรชั่นใหม่ได้ ซึ่งการมาของ Maximilian ครั้งนี้ถือเป็นการตั้งเป้าให้แบรนด์มีแอพเพียวที่เด็กลงนั่นเอง สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้ว Marco เจ๋งยังไงในการเข้ามาครั้งนี้ บอกก่อนเลยว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จสุดของ Celine ในยุคของ Phoebe Philo และยังเป็นคนดึง Riccardo Tisci ไปที่ Burberry ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าการดึง Maximilian ดีไซเนอร์หน้าใหม่สุด ๆ มาคุมแบรนด์ใหญ่ เขาต้องคิดมาอย่างไตร่ตรองแล้วถึงผลที่จะออกมา
นอกจากฝีมือของ Maximilian จะน่าติดตามแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นฮือฮาคือการที่เขาเป็นคนดำเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับโอกาสให้ทำงานกับแบรนด์ระดับโลก หนึ่งในนั้นก็คือ Virgil Abloh ที่จากโลกนี้ไปแล้ว การเข้ามาของ Virgil พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจากสตรีทแวร์สู่แบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton ซึ่งสำหรับ Maximilian แม้เขาจะเกิดและโตที่อังกฤษแต่เชื้อชาติของเขาจริง ๆ แล้วเป็นคนดำ นี่จึงถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งตัวเขาที่ยังใหม่อยู่ และการสร้างแรงบันดาลใจต่อให้กับคนผิวดำที่สามารถเห็นตัวเองอยู่ในจุดเดียวแบบที่เขาเป็นอยู่ได้
และ Maximilian น่าจะมาช่วยกำจัดจุดอ่อนของ Salvatore Ferragamo อย่างพาร์ต Ready-to-Wear ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จเสียที เขาอาจจะสามารถช่วยทำให้เสื้อผ้าของแบรนด์เริ่มขายได้บ้าง รวมถึงการเติมลูกเล่นใหม่ให้ฝั่งแอคเซสซอรี่ที่เป็นตัวแบกทั้งบริษัทอยู่ตอนนี้ รอชมฝีมือของเขาได้ในคอลเลคชั่นถัดไปเร็ว ๆ นี้
