Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

ล้วงลึก ‘Revive Belotero’ ฟิลเลอร์ตัวแรกที่เติมความชุ่มชื่นให้ผิวถึง 9 เดือน

ไขทุกข้อสงสัยกับ The Clover Clinic 1 ใน 15 คลินิกแรกที่ให้บริการ
Beauty / Wellness & Aesthetic

ใครที่คลุกคลีกับวงการเข็มมานานคงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ความเลื่องชื่อของ Rejuran จากประเทศเกาหลีกันบ้างที่ช่วยเรื่องคุณภาพผิวและจะชูโรงเรื่องความฉ่ำวาวเป็นพิเศษ ทว่าหลายต่อหลายเสียงการันตีถึงความเจ็บแสบขณะทำจนถึงขั้นยอมจำใจทิ้งคอร์สที่จ่ายไปง่ายๆ ข่าวดีคือวงการความงามในปัจจุบันได้เปิดตัวนวัตกรรมฟิลเลอร์ใหม่อย่าง ‘Revive Belotero’ ฟิลเลอร์งานผิวตัวแรกของโลกที่ให้ความรู้สึกน้อยกว่าขณะรับบริการ และยังให้ผลลัพธ์นานถึง 9 เดือน 

งานนี้ลิปส์เลยแวะไปล้วงลึกทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ตัวดังกล่าวกับ หมอจัง-พญ.จุฑากร ศักดิ์สัมฤทธิ์ ที่คลินิกเสริมความงามชั้นนำ ‘The Clover Clinic’ หนึ่งใน 15 คลินิกแรกของประเทศไทยที่ให้บริการ Revive Belotero

Revive Belotero คืออะไร?

“Revive Belotero จัดอยู่ในกลุ่มฟิลเลอร์ มี HA (Hyaluronic Acid)  ที่เนื้อค่อนข้างหนัก เติมน้ำให้ผิวค่อนข้างดี เรียกว่าดีสุดในบรรดาสกินบูสเตอร์ในช่วงนี้ในด้านการเติมน้ำให้ผิว สิ่งที่เราจะได้เต็มๆ แน่นอนคือเรื่องของความชุ่มชื่น ผิวฟู อิ่มน้ำ ส่วนเรื่องรูขุมขนหน้าแก้มก็จะช่วยให้ดูเบลอขึ้น บริเวณที่ฉีดจะอยู่บล็อกแก้มทั้งหมด ซึ่งโซนอื่นเราจะไม่แนะนำให้ฉีดด้วยเรื่องของความปลอดภัยค่ะ” – หมอจังกล่าว

Filler ต่างกับ Skin Booster อย่างไร?

สำหรับมือใหม่เข้าวงการเข็มที่สับสนว่าฟิลเลอร์ต่างกับสกินบูสเตอร์อย่างไร? หมอจังได้ไขกระจ่างแบบง่ายๆ “​ฟิลเลอร์เป็นคำเรียกรวมกว้างๆ ของสารเติมเต็มค่ะ ชนิดไหนก็ได้ เติมเต็มได้หมดทั้งร่องแก้ม ใต้ตา ส่วนสกินบูสเตอร์ก็จะเจาะลึกลงมาอีก เป็นซับเซ็ตในฟิลเลอร์อีกทีค่ะ ง่ายๆ มันคือสารอะไรก็ได้ที่มาฉีดลงชั้นผิวแล้วกระตุ้นให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น อิ่มน้ำขึ้น เนื้อจะเบาๆ ถ้าเทียบ Revive Belotero กับในฟิลเลอร์กันเอง เนื้อมันจะค่อนข้างเบาเพราะเราสามารถนำมาฉีดผิวด้านบนเพื่อสร้างงานผิวได้

ถ้าเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดที่ฉีดคาง เนื้อมันก็จะหนักกว่า Revive Belotero แน่นอน แต่ถ้ามองในมุมตัวยาที่ทำหน้าที่สกินบูสเตอร์ Revive Belotero ก็จะหนักกว่าตัวอื่นอย่าง Rejuran หรือ Chanel ซึ่งสองตัวนี้จะเป็นสารที่ทำหน้าที่เรื่องงานผิว และเนื้อก็จะค่อนไปทางน้ำมากกว่า ในขณะที่ Revive Belotero จะค่อนไปทางเจล”

นอกจากด้านความอิ่มฟู ผิวเนียนเด้ง ชุ่มชื่นฉ่ำวาวแล้ว อีกจุดเด่นของ Revive Belotero คือ ผลลัพธ์ที่เห็นชัดและอยู่ได้นานถึง 9 เดือนโดยเฉลี่ย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล บางเคสอาจจะอยู่ได้น้อย-มากกว่าตัวเลขดังกล่าว “ถ้าคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวเยอะ ฉีดครั้งเดียวก็พอแล้ว แต่ถ้าคนไข้ที่มีปัญหาผิวเยอะหน่อยเราก็จะแนะนำทำ 2-3 ครั้ง โดยสามารถทำซ้ำได้ที่เดือนละครั้ง แต่จะต่างกับ Rejuran ที่จะต้องทำอย่างน้อย 3 ครั้งเผื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ”

REVIEW REVIVE BELOTERO | THE CLOVER CLINIC

ก่อนรับบริการฉีดฟิลเลอร์ คุณหมอจังแนะนำให้งดอาหารเสริมและวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยากอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ แต่หากไม่แน่ใจว่าชนิดไหนจะทำให้เลือดหยุดไหลยาก คุณหมอแนะนำให้เลี่ยงไปทั้งหมดเลยเพื่อความสะดวก ส่วนยาประจำตัวสามารถทานได้ตามปกติ

เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำความสะอาดหน้าก็จะเป็นขั้นตอนการแปะยาชา 30 นาที หรือถ้าใครกลัวทนความเจ็บไม่ไหวก็สามารถขอฉีดยาชาเพิ่มได้ หลังจากนั้นคุณหมอจะเริ่มวาดตารางบริเวณผิวที่จะฉีด

“ลักษณะเข็มที่ใช้ฉีดจะเป็นเข็มแหลมเฉพาะของเขาเลย ไซส์เล็กมาก (Micro-needle) เล็กกว่าการทำหัตถการทั่วไป ลักษณะการฉีดก็จะค่อนไปทางกลาง-ลึกของชั้นผิว ซึ่งลึกกว่ากลุ่ม Rejuran และ Chanel”

ปริมาณของของฟิลเลอร์ที่แนะนำจะอยู่ที่ 1 cc. ต่อแก้มหนึ่งข้าง ด้วยความที่มีทั้งยาชาชนิดทาและฉีดเลยไม่ทำให้รู้สึกมากเท่าไหร่ขณะทำ และหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนฉีดก็จะเห็นเพียงรอยเข็มเล็กๆ และผิวที่ดูอมชมพูขึ้นเท่านั้น

“วิธีการดูแลตัวเองหลังรับบริการหลักๆ คือการดื่มน้ำมากๆ ทากันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนโดยตรง เช่น ซาวน่า การทำเลเซอร์ อย่างสกินแคร์ก็เลี่ยงชนิดที่มีการผลัดเซลล์ผิว หรือพวกกรดต่างๆ เพราะผิวของเรายังมีรอยเข็มอยู่ รวมถึงเลี่ยงการนวดหน้าไปสัก 2 สัปดาห์ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เลี่ยงสัก 2-3 วัน ค่ะ” หมอจังเสริม

REVIVE BELOTERO เหมาะหรือไม่เหมาะกับใคร?

คนที่มีสภาพผิวแห้งกร้านหรือแห้งขาดน้ำ ต้องการเติมน้ำให้ผิว มีริ้วรอยต่างๆ หรือปัญหารูขุมขนกว้าง หรือใครที่มีประสบการณ์กับ Rejuran มาแล้วทนความรู้สึกไม่ไหว ไม่อยากให้ผิวเป็นรอยตุ่มชัดหลายวัน Revive Belotero ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์ แต่ทั้งนี้ควรดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโภชนาการ การพักผ่อนให้เพียงพอ การใช้สกินแคร์เป็นประจำ ซึ่งคุณหมอจังเสริมว่าคนที่แพ้ฟิลเลอร์หรือมีสิวเยอะๆ ก็จะไม่เหมาะ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในสถาบันความงามชั้นนำที่ได้มาตรฐานก่อนรับบริการเพื่อความปลอดภัย

Words: Warisara Limanantrakool

รายละเอียดเพิ่มเติม: The Clover Clinic 

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม