Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview / People

บทสัมภาษณ์พิเศษ! ‘เพชร ภิพัชรา – ฌอห์น จินดาโชติ’ บ่าวสาวที่จัดงานแต่ง 4 ครั้งใน 1 ปี

Interview / People

PIPA.JINDA (คำนาม) แปลว่า ซึ่งกันและกัน นั่นคือนิยามอันเรียบง่าย แต่กินความหมายลึกสุดใจสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ของ ‘เพชร- ภิพัชรา แก้วจินดา’ แฟชั่นดีไซเนอร์แห่งแบรนด์ PIPATCHARA  และ ‘ฌอห์ณ จินดาโชติ’

ทำบุญร่วมสร้าง

ครอบครัวของเพชรมีธรรมเนียมปฏิบัติกลายๆ ว่าเมื่อลูกอายุครบ 30 ปีจะมีงานทำบุญ และเมื่อถึงคราวที่เพชรครบวัย 30 เธอจึงไปทำบุญที่วัดกลาง จังหวัดสุพรรณฯ “ที่นั่นมีพระบรมสารีริกธาตุ แต่ไม่มีใครสนใจ มีขยะเต็มไปหมด เจดีย์รกร้าง โบสถ์ก็เก่าร้าง ไม่มีพระจำวัดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งตอนที่เพชรอายุ 30 ก็ได้เจอพี่ฌอห์นพอดี เลยบอกพี่ฌอห์นว่าจะไปทำความสะอาดวัดกลาง หลังจากนั้น 3 ปีมีคนมาร่วมบุญด้วยเยอะมาก สร้างพระปฐมเจดีย์ สร้างฉัตร สร้างพระพุทธรูปใหม่หมดเลย จริงๆ แล้วเพชรกับพี่ฌอห์นแค่เป็นคนแรกที่เข้าไปทำความสะอาด ที่เหลือคือคนในประเทศนี่ละค่ะที่เข้าไปช่วยบำรุงวัด” เพชรเล่า

“ตอนที่เพชรอายุ 30 ก็ได้เจอพี่ฌอห์นพอดี…งานทำบุญครั้งนี้ ยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับช่วงที่เราบำรุงวัดเสร็จเมื่อ 3 ปีก่อน”

“จนเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพชรบอกพระอาจารย์ว่าจะมีงานหมั้นวันที่ 9 เดือน 7 ท่านก็บอกว่าแปลกมาก เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวกับวัดเสร็จพอดีเมื่อ 3 ปีก่อน จากที่คิดว่าเป็นงานบุญปกติ ในวันนั้นเราเลยได้ทำบุญใหญ่ ได้ยกฉัตรร่วมกัน คุณแม่ก็ดีใจมาก อายุ 60 กว่าแล้วยังไม่เคยได้ยกฉัตร ไม่เคยเลี้ยงพระ 100 รูปเลย เพิ่งมาได้ทำตอนนี้” เพชรเล่าที่มาของงานทำบุญใหญ่ 

“ชุดทำบุญใช้ผ้าไทยในการตัดเย็บ เพชรอยากทำให้เห็นว่าผ้าไทยทำอะไรได้หลายอย่างมากและมีหลายแบบ”

“ชุดแต่งงานของเพชรตั้งใจทำมากๆ เพชรอยากใส่ผ้าถุง อยากได้อะไรที่มีความเป็น PIPATCHARA และมีความเป็นไทยร่วมสมัย คนที่ตัดชุดให้คือ น้ากล้วย (คุณปัทมา รัชตะวรรณ) ซึ่งรู้จักกับคุณยายมานานมาก ชุดของสมเด็จพระพันปีเป็นฝีมือน้ากล้วยทั้งหมดและตัดชุดไทยของยายมาตลอด ตอนที่เพชรจะเอาคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ไปโชว์ที่ดูไบแฟชั่นวีค ก็ได้น้ากล้วยมาช่วย ได้โอกาสทำงานกับน้ากล้วยมานับแต่นั้น

“ชุดทำบุญเริ่มจากเพชรวาดซิลลูเอตต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ PIPATCHARA ตอนแรกไม่มีสไบนะคะ เพราะเพชรคิดว่าไม่มีทางปักได้แน่ๆ เพราะเป็นผ้าไทยที่โปร่งบางมาก แต่น้ากล้วยทำได้ (หัวเราะ) ด้านหน้าอยากให้ดูเป็นไทย มีกิมมิกเหมือนผ้าพับลงมาแบบชุดไทย และใช้ผ้าไทยในการตัดเย็บ อยากให้เห็นว่าผ้าไทยทำอะไรได้หลายอย่างมากและมีหลายแบบ” เจ้าสาวป้ายแดงเล่าอิ่มเอิบ 

“พี่ฌอห์นขี้เขิน ไม่อยากให้เพชรลงรูปที่เขาร้องไห้ในงาน เพชรก็จะไม่ลง สุดท้ายเขาโพสต์เอง”

“น้ากล้วยวาดแบบบนกระดาษทำแพตเทิร์น แล้วตัดด้วยมือทีละชิ้น ก่อนจะเอามาปักมือด้วยลูกปัด และเย็บประกอบกัน ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นว่าแต่ละชิ้นไม่เท่ากันเพราะวาดมือ พอได้ทำงานกับน้ากล้วย แรงบันดาลใจเราไปไกลไม่มีที่สิ้นสุดเลย เพราะเขาทำได้หมดและเนี้ยบมากเลยค่ะ เพชรดีใจว่าหลังจากนั้นมีคนไปจัดงานแต่งหลายคู่เลย เริ่มใส่ชุดไทยไปวัดกลางกันค่ะ” 

คำมั่นวันหมั้น

มาถึงงานใหญ่งานที่สอง งานหมั้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2023 ณ บ้านเทพา บ้านเก่าแก่ของคุณยายที่เพชรและพี่น้องเติบโตมา เรือนหลังนี้จึงมีความหมายต่อครอบครัวอย่างยิ่ง และเรื่องที่เพชรจะเล่าต่อไปนี้ก็ทำคนฟังขนลุกเกรียวกับพรหมลิขิต

“งานหมั้นจัดที่บ้านเทพา ซึ่งเป็นบ้านคุณยายที่ปิดมา 20 กว่าปี จนคุณแม่และคุณลุงมารีโนเวตใหม่ พี่สาวเพชร (ทับทิม-จิตริณี แก้วจินดา) ก็แต่งงานที่บ้านนี้ในปี 2020 เชฟตาม (ชุดารี เทพาคำ) ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาทำร้านอาหารที่บ้านเทพา และได้ดาวมิชลินด้วย เขาเก่งมาก เราเลยไปขอใช้สถานที่มาทำงานหมั้นค่ะ

“คุณยายใส่สร้อยคอเส้นนี้ครั้งเดียวเมื่อตอนที่ท่านแต่งงาน”

“ชุดงานหมั้นเกิดมาจากเครื่องเพชร แรกทีเดียวคุณแม่บอกให้ไปเลือกเครื่องเพชรของคุณยาย เวลาเพชรกับพี่ทิม (พี่สาว) ใส่เครื่องเพชรของคุณยาย เราจะมองหน้ากันแล้วขำ ดูเป็นของปลอม แต่คุณยายใส่แล้วดูแพงมาก (หัวเราะ) มีเครื่องเพชรหลายชุดที่เพชรลองแล้วไม่เข้ากับเพชรเลย จนมาเจอสร้อยคอเป็นรูปดอกไม้พร้อมจี้มรกต พอเพชรลองใส่สร้อยเส้นนี้รู้สึกว่าเข้ากับเรา 

“สมัยก่อนคุณยายเป็นนางสนองพระโอษฐ์ในสมเด็จพระพันปีก็จะใส่สร้อยนั้นเส้นนี้ไปงานต่างๆ แต่ไม่มีรูปไหนเลยที่คุณยายใส่สร้อยเส้นนี้ ปรากฏว่าเพชรเดินผ่านรูปหนึ่งในบ้าน เป็นรูปขาว-ดำงานแต่งงานของคุณยาย ท่านใส่สร้อยคอเส้นนี้ค่ะ! เพชรน้ำตาไหลเลย ถึงว่าไม่เคยเห็นท่านใส่ไปงานอื่นเลย ใส่เฉพาะวันแต่งงานครั้งเดียว 

“ดังนั้น ชุดงานหมั้นจึงต้องทำเป็นชุดเปิดไหล่เพื่อให้สร้อยคอเด่น น้ากล้วยทำดอกไม้ผ้าปักลูกปัดวางไปทั่วชุดทีละช่อ ทำมือล้วนๆ ตัวสร้อยมีจี้มรกต ถ้าเป็นตอนคุณยายใส่มีจี้ 3 อัน แต่เพชรต้องเอาออก 2 อัน เราแคร์รีไม่ไหว และใส่ต่างหูคุณยายที่มีมรกตเหมือนจี้ที่สร้อย แต่เพชรเอาออก มันจะดูเยอะไป

“ส่วนชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้มีที่มา เพราะเพชรรู้ว่าชุดดอกไม้ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็น PIPATCHARA เลย เพชรเลยอยากใส่ชุดที่มีซิกเนเจอร์ของเราหลังจากงานหมั้น เป็นเกาะอกสีชมพู ใช้ผ้าไทยมาปักมือเหมือนชุดงานทำบุญ แต่เปลี่ยนเป็นสีชมพู งานแต่งไม่จำเป็นต้องใส่แต่สีขาวเท่านั้น ผ้าไทยสีพาสเทลก็ใส่ได้ ด้านหลังเป็นสายผูกเหมือนคอร์เซ็ต กระโปรงเป็นผ้าถุงแต่มีลูกเล่นผ่าเป็นระยะ” เพชรเล่าแบบเก็บรายละเอียดได้หมดเหมือนเพิ่งหมั้นไปเมื่อวาน 

“พี่ฌอห์นเป็นคนคิดคำว่า ‘PIPA.JINDA’ เป็นเหมือนอักษรย่อของคู่แต่งงาน และมีความหมายว่า ‘ซึ่งกันและกัน’”

“วันนั้นมีแขกประมาณ 200 กว่าคน พิธีการมีแค่สวมแหวนและทานข้าวกัน เพชรว่างานแต่งงานยากตรงนี้นะคะ เราอยากบอกว่าเราเป็นคนแบบนี้ ขณะเดียวกันเราต้องคิดเผื่อไปถึงคนอื่นด้วย เลยต้องจูนกันตลอด พี่ฌอห์นเองก็มีดีเทลเยอะมาก เขาเป็นนักเขียน นักคิด มีกิมมิกของเขาตลอด ไม่ว่าจะการเขียนการ์ด วิดีโอพรีเซนเทชัน หรือความหมายของ ‘PIPA.JINDA’ เป็นเหมือนอักษรย่อของคู่แต่งงาน มีความหมายว่า ‘ซึ่งกันและกัน’ บนกล่องของขวัญเขาก็เขียนว่า ‘แด่จุดเริ่มต้นของบ้านเรา’ 

“แต่พี่ฌอห์นไม่ถ่ายรูปพรีเวดดิงค่ะ (หัวเราะ) ในฝั่งการทำงานของเขา เขาจะทำตามโจทย์มาก แต่ในฝั่งชีวิตส่วนตัว เขาจะตรงไปตรงมาสุดๆ เช่น ถ้าเพชรบอกว่าอยากถ่ายพรีเวดดิง เขาก็จะ อ๋อ อืม ทำให้เพชรรู้สึกว่า อ้ะ ไม่ถ่ายก็ได้ เพชรเองก็ไม่ push ด้วย ทุกอย่างเกิดจากความเห็นพ้องกันทั้งสองฝ่าย เพราะเราต่างคนต่างก็ชอบให้ ไม่มีการพูดกันว่า ‘เพชรทำสิ่งนี้ให้พี่หน่อย พี่อยากได้มาก’ หรือเขาขี้เขิน ไม่อยากให้เพชรลงรูปที่เขาร้องไห้ในงานหมั้น เพชรก็จะไม่ลง สุดท้ายเขาโพสต์เอง (หัวเราะ) 

“การแต่งงานไม่ได้ทำเพื่อเราสองคน แต่เจตนาเพื่อจะเผยแพร่ความรักและความสุขให้แก่ผู้อื่น”

“ในวันหมั้นร้องไห้กันระนาว ไม่สามารถหันไปทางไหนได้เลย เพราะเห็นหน้าใครก็จะร้องไห้ พี่ฌอห์นน้ำตาไหลตลอดงาน ในวิดีโอพรีเซนเทชัน พี่ฌอห์นเขียนไว้ต้นคลิปว่าการแต่งงานไม่ได้ทำเพื่อเราสองคน แต่เจตนาเพื่อจะเผยแพร่ความรักและความสุขให้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณแม่เพชรเคยพูด 

“มีหลายคนมากที่เดินมาบอกเราว่า ขอบคุณนะ เขารู้สึกอบอุ่นใจ เหมือนได้คิดย้อนไปถึงความรักของตัวเอง ไม่มีใครเดินมาบอกว่า ‘ดีใจด้วยนะ รักกันจังเลย อยากให้รักกันไปนานๆ’ มีแต่พูดว่า ‘ขอบคุณมาก วันนี้เขาได้อะไรกลับไปเยอะมาก’ เราสองคนเป็นแค่คนจัดงานเพื่อให้ทุกคนได้อิ่มเอมกับตัวเองค่ะ”

รักกลางขุนเขา

8 กันยายนที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานน้ำสังข์แก่เพชรและฌอห์น ซึ่งเพชรอยู่ในชุดไทยประเพณีที่น้ากล้วยตัดให้อย่างงดงาม 

ตามมาด้วย 26 พฤศจิกายน ถือเป็นงานสำคัญอีกวันของ ‘เพชร-ฌอห์น’ ที่ได้ไปจัดงานแต่งในฝันท่ามกลางธรรมชาติและเพื่อนสนิทที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อันเป็นบ้านของครอบครัวเพชรมากว่า 20 ปี 

“ชุดในงานค็อกเทลเกิดจากเพชรซื้อต่างหูดอกไม้เซรามิกมาจากปารีส เลยออกแบบชุดสีขาวแต่งระบายชั้นๆ ตกแต่งงานปักมือลายดอกไม้มีสีสัน”

“เพชรแพลนมาตั้งแต่เดือนกุมภาฯ ว่าต้นไม้จะต้องขึ้นต้องงอกแบบไหน พอวันงานจะเห็นรอบๆด้านเป็นดอกบัวตองบานพอดี เราจัดงานกันที่รีสอร์ตภูใจใสซึ่งอยู่ติดกันบ้านเพชรกันก่อน มี Welcome drinks และเล่นเกมกัน จริงๆเป็นทริกให้ทุกคนมารวมตัวกันก่อน ไม่ให้ใครมาสาย ชุดในงานค็อกเทลเกิดจากเพชรซื้อต่างหูดอกไม้เซรามิกมาจากปารีส เลยออกแบบชุดสีขาวแต่งระบายชั้นๆ ตกแต่งงานปักมือลายดอกไม้มีสีสันเล็กน้อย เป็นชุดที่คล่องตัว เคลื่อนไหวสะดวก เดินง่าย เพราะต้องเล่นเกมกับเพื่อนๆด้วย 

“เพชรคิดมานานแล้วอยากใส่ชุดแบบนี้แต่งงานมีความหวานด้วยดอกไม้ แต่ปักบนผ้าโปร่งสีเนื้อ จึงดูเซ็กซี่และหวานน้อยลง เข้ากับบุคลิกเรา”

“จากนั้นเรานั่งรถขึ้นไปเขาอีกลูกหนึ่งไปที่ร้านฅนภูเขา (The Hill Tribes A Coffee Bar By PhuChaijai) เพชรเปลี่ยนเป็นชุดที่วางลูกไม้เองทั้งตัว เราไม่อยากเรียงลูกไม้แบบเดิมๆ ปักมือกันจนวินาทีสุดท้ายตอนเย็นวันที่ 25 เลยค่ะ ชุดนี้ยากตรงที่ต้องเป๊ะตามหุ่นเราจริงๆ แบบ 360 องศา เพื่อให้เราวางดอกไม่ให้เห็นลายเส้นชุดชั้นใน หมดผ้าที่ทำลูกไม้ไป 8 หลา เพชรคิดมานานแล้วอยากใส่ชุดแบบนี้แต่งงาน มีความหวานด้วยดอกไม้ แต่ดอกไม้ปักบนผ้าโปร่งสีเนื้อ จึงดูเซ็กซี่และหวานน้อยลง เข้ากับบุคลิกเรา 

“แขกในงานมี 160 กว่าคน เพชรบอกเดรสโค้ดไปว่า ‘ชุดยาว สีสัน จัดเต็ม ไม่ชิล’ เพราะพอพูดว่าเชียงราย ทุกคนก็บอกว่าใส่บู๊ตหรือรองเท้าแตะได้ไหม เพชรก็บอกว่าอย่า ขอจัดเต็ม 

“เราจัดงานเรียบๆ เพื่อนๆ เวียนกันพูดสปีช พี่ฌอห์นอยากเล่นกีตาร์ แต่เล่นไม่เป็น ก็เลยไปเรียนเพื่อมาเล่นตอนเปิดตัวเดินขึ้นมาบนเขา เขาเล่นเพลง XO ของจอห์น เมเยอร์ เพชรน้ำตาไหลเลย เพื่อนๆที่ขึ้นมาเป็นคนที่เราสนิทมากๆ เราอยากให้เขามีความสุข แม่เพชรเลยพูดสปีชว่าจัดงานนี้เพื่อให้ทุกคนเก็บความสุขข้างในของคนที่รักกัน ทำดีต่อกัน ให้สิ่งดีๆต่อกัน 

“พี่ฌอห์นเคยพูดว่า ‘พี่รักเพชรตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะเพชรชื่อเพชร’ พี่ฌอห์นเคยมีพี่คนแรกชื่อเพชร แต่ว่าไม่อยู่แล้วค่ะ”

“หลังจากนั้นเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้จัดที่ร้านกาแฟเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นโซนผิงไฟ เราเอามาชเมลโลว์มาย่างไฟกัน และมีซิตดาวน์ดินเนอร์ ต้องขอบคุณท้องฟ้าที่พระอาทิตย์ตกสีสวยมาก เพชรเคยขึ้นไปบนเขากับพี่ฌอห์นเป็นสิบครั้ง ฟ้าไม่เคยเป็นสีนี้เลย 

“ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ใช้ลูกปัดจากคอลเล็กชั่น INFINITUDE เพชรอยากให้ทุกคนรู้ว่าแม้มันจะรีไซเคิลจากขยะ แต่ก็เอามาทำงานสวยๆได้ ใส่กับรองเท้าบู๊ตและแจ็กเก็ตของ PIPATCHARA ซึ่งแจ็กเก็ตของพี่ฌอห์นด้านหลังเขียนว่า Mr.Jinda เป็นชื่อที่คนสนิทจริงๆ เรียกพี่ฌอห์น ส่วนแจ็กเก็ตของเพชรเขียนว่า Mrs.Jinda แจ็กเก็ตสีดำของเราสองคนเป็นจุดเริ่มต้นที่ออกแบบชุดนี้ค่ะ 

“พี่ฌอห์นอยากเล่นกีตาร์ แต่เล่นไม่เป็น ก็เลยไปเรียนเพลง XO ของจอห์น เมเยอร์ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ”

“ในงานมีวงที่เล่นที่แจ๊ซบาร์ ร้านแซกโซโฟนมาเล่นสด ต่อด้วยเพื่อนดีเจสองคนเปิดแผ่น เพชรกับเพื่อนๆ ยังบอกเลยว่าไม่เคยเห็นพี่ฌอห์นเต้นขนาดนี้ พี่ฌอห์นเปิดวิดีโอที่เขาทำเพื่อแนะนำว่าเราเจอกันยังไง ทุกคนตั้งใจดูเหมือนดูหนังและร้องไห้กันหมด เขาบอกว่าตั้งใจจัดงานนี้เพื่อทุกคน ถ้าไม่มีความรักของเพื่อนๆ เราสองคนคงมาไม่ถึงจุดนี้” 

เพชรกับฌอห์น 

เรื่องบังเอิญจะมีหรือไม่ ที่แน่ๆไม่มีสำหรับคู่เพชรกับฌอน ซึ่งคนหนึ่งนามสกุลแก้วจินดา อีกคนนามสกุลจินดาโชติ คนหนึ่งชื่อเพชร อีกคนมีพี่สาวผู้จากไปชื่อว่า…เพชร

“พระอาจารย์บอกว่า ‘ฌอห์น นี่เป็นงานบุญใหญ่ เดี๋ยวจะเจอกันไปทุกชาติ ถ้ายังไม่พร้อมยังไม่ต้องมา’ พี่ฌอห์นบอกว่าพร้อมครับ”

“พี่ฌอห์นเคยพูดว่า ‘พี่รักเพชรตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะเพชรชื่อเพชร’ พี่ฌอนเคยมีพี่คนแรกชื่อเพชร แต่ว่าไม่อยู่แล้วค่ะ เป็นสามพี่น้อง เพชร-พลอย-ฌอห์น และพี่ฌอห์นยังเข้ามาในทุกสถานการณ์ที่มีการทำบุญใหญ่ในชีวิตเราด้วย แปลกมาก อย่างตอนที่เพชรไปทำความสะอาดวัดกลางครั้งแรก พระอาจารย์ยังบอกว่า ‘ฌอห์น นี่เป็นงานบุญใหญ่ เดี๋ยวจะเจอกันไปทุกชาติ ถ้ายังไม่พร้อมยังไม่ต้องมา’ พี่ฌอห์นบอกว่าพร้อมครับ ส่วนเพชรไม่ตอบ (หัวเราะ) 

“เราคบกันมา 3 ปีมีเรื่องราวต่างๆ ด้วยกันเยอะ ช่วงปีที่ 2 เขาทำงานหนักมาก เราเริ่มมีปัญหากันเล็กน้อยเพราะเขาไม่มีเวลา ซึ่งตอนนั้นเขาทำงานหนักเพราะเตรียมเก็บเงินมาขอเราแต่งงาน จริงๆแล้วเพชรไม่ได้ต้องการอะไรเลย ยังเคยพูดกับเขาเลยว่า ‘ในอนาคตถ้าพี่ไม่ขอ เดี๋ยวเพชรขอเอง’ เราต่างคนต่างเข้าใจกัน รู้สึกว่าคลิกกันมากๆเลย แต่ถ้าอะไรที่ไม่เข้ากันหรือจะปรับกันได้ก็จะปรับกันแต่แรก นี่คือสิ่งที่เราสองคนคุยกันตั้งแต่ช่วงแรกๆที่คบกัน รู้สึกตรงกันว่าอยากจะปรับไปด้วยกันค่ะ” 

เพชรไม่ได้ต้องการอะไรเลย ยังเคยพูดกับเขาเลยว่า ‘ในอนาคตถ้าพี่ไม่ขอ เดี๋ยวเพชรขอเอง’

ทำไมแต่งงานกับเขา? เราถามซื่อๆ เพชรตอบตรงๆว่า “การที่เราจะแต่งงานกับใคร เราต้องมีความเชื่อมั่นว่าเราจะรอด เราจะมีชีวิตที่ดี เรื่องอื่นใดในชีวิตคนเรามีขึ้นมีลงกันได้ เราอาจรวยขึ้น-รวยลง หล่อขึ้น-หล่อลง ดังขึ้น-ดังลง แต่สิ่งที่เพชรมั่นใจในตัวพี่ฌอห์นคือ เขามีความคิดดีและเจตนาดีเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ เพชรมั่นใจว่าเขาจะพาเราไปในทางดีมากกว่าทางเสีย เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าเวลาเราคิดอะไรดีหรือไม่ดี เขาจะเป็นคนที่พยายามคิดในทางดีมากกว่าไม่ดีเสมอ เขาจะไม่ให้เพชรทำอะไรเทาๆเลย ทุกอย่างต้องทำให้ขาวสะอาดไว้ก่อนแล้วจะดีเอง 

“เวลาเราทะเลาะกันไม่ใช่ว่าเพื่อจะมาบั่นทอนกัน แต่เพื่อจะปรับจูนกันมากกว่า”

“แต่ไม่ใช่ว่าไม่ทะเลาะกันนะคะ เราทะเลาะกันตลอด เรามาเจอกันตอนที่โตมากๆแล้ว ยากจะเปลี่ยน ต่างคนต่างชัดเจน แต่เวลาเราทะเลาะกัน มันไม่ใช่ว่าเพื่อจะมาบั่นทอนกัน แต่เพื่อจะปรับจูนกันมากกว่า เขามีสติและปัญญาในการใช้คำพูดมากกว่าเพชรเยอะ เพชรไม่ค่อยเจอใครที่มีเหตุผลมากกว่าเพชร เราว่าเรามีเหตุผลมากๆแล้วนะ แต่เขามีมากกว่าเราอีก ทั้งที่เขาโตกว่าเพชรปีครึ่งเอง แต่เขาดูโตกว่าเราเยอะ เป็นคนที่เราสามารถจะเกรงใจได้ สำหรับผู้หญิง เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ ยิ่งเราเป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเองได้ ทำงานเยอะ การมีอีกคนที่เราเกรงใจ ไม่ล้ำเส้น และให้เกียรติกันจึงสำคัญค่ะ 

“เราอาจรวยขึ้น-รวยลง หล่อขึ้น-หล่อลง ดังขึ้น-ดังลง แต่เพชรมั่นใจว่าพี่ฌอห์นมีความคิดดีและเจตนาดีเสมอ”

“เราทั้งคู่เชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรม พอเจอกันรู้สึกคุ้นเคยกันมากเหมือนเคยเจอกันมาก่อน แต่ก็มีปัญหาตามทางเยอะมากทั้งคู่ ในเมื่อปัจจัยภายนอกรุนแรงมาก ปัจจัยภายในของเราต้องเอื้อไปด้วยกัน อย่างการจัดงานแต่ง 4 งานในปีนี้ สิ่งที่ได้มากๆคือเพชรกับพี่ฌอห์นไม่เคยรู้ศักยภาพที่เรามี เขายังพูดเลยว่าพี่เป็นนักคิด เพชรเป็นนักทำ เพชรดีใจที่เราสองคนผ่านกันมาได้ค่ะ” 

Words: Suphakdipa Poolsap
Photos: Pipa.Jinda 

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม