Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview / People

ยิปซี-ยิปโซ พี่น้องที่แทบไม่คุยกันถึง 20 ปี กำแพงนั้นหายไปเพราะความรัก

Where There’s Love, There’s Love
Interview / People


ยิปซี-คีรติ และ ยิปโซ-อริย์กันตา มหาพฤกษ์พงศ์ ใช้เวลาเกินครึ่งชีวิต…ห่างกันทางใจแม้จะเคยอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกัน หากมันคือ 20 ปีที่ทุกความเจ็บปวด ทุกการร้องไห้ ทุกความหมางเมิน ทุกความเข้าใจผิด ประกอบสร้างสายสัมพันธ์ของเพื่อนแท้และพี่น้องให้แข็งแกร่งแน่นแฟ้นราวกับได้ สมาชิกครอบครัวใหม่เพิ่มเข้ามาในชีวิต


‘เป็นพี่น้องต้องรักกัน ต้องดูแลกัน’

นั่นอาจเป็นความเชื่อที่พร่ำสอนในสังคม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของพี่น้องทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือยิปซีและยิปโซ หนึ่งในคู่พี่น้องที่โลดแล่นในวงการบันเทิง แต่น้อยครั้งเหลือเกินที่พี่น้องคู่นี้จะพูดถึงกัน หรือแม้แต่จะอยู่ในเฟรมภาพเดียวกัน

แน่นอนว่าเมื่อสื่อถามว่าทะเลาะกันหรือ ทั้งคู่ตอบตรงกันว่าไม่ หากคำอธิบายเพิ่งจะกระจ่างในปีนี้เองว่า พี่น้องคู่นี้ไม่ได้ทะเลาะกันก็เพราะแทบไม่เคยพูดกัน ช่วงเวลาสุญญากาศ 20 ปีนั้นอันตรธานหายไป ส่วนหนึ่งก็เพราะความพยายามจะเชื่อมต่อโซ่ที่สะบั้นขาดของทั้งคู่

แต่เหตุผลหลักแล้วไม่ใช่ว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’
หากเป็นเพราะสิ่งที่ทั้งสองเรียกว่า ‘ความรักอยู่ที่ไหน ความรักอยู่ที่นั่น’


LIPS: เรื่องราวที่พี่น้องห่างเหินกันไปนาน 20 ปีแล้ววันนี้สนิทกันได้ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์แต่ก็ไม่ได้ผิดคาดสำหรับคนที่ติดตามยิปซีและยิปโซมา
GYPSO: ถ้าเป็นคนนอกจริงๆ เขาก็เดาไปต่างๆนานามาตั้งนานแล้ว เพราะเขาเห็นเราห่างกันมานาน ถ้าเป็นคนใกล้ตัวจริงๆ เป็นเพื่อนที่อยู่กันมานาน ตอนนี้เห็นเราแล้วก็บอกว่าดีใจด้วยนะ เขารู้ว่าแต่ก่อนเป็นความสัมพันธ์ที่ยิปกับเจ๊ไม่ได้ใกล้กัน
LIPS: เพราะเราไม่เคยพูดถึงพี่น้องเลย
GYPSO: ใช่ เราแทบไม่เคยแฮงก์เอาท์กับพี่สาวเลย วันนี้เขาเข้าใจแล้วว่าบรรยากาศแต่ก่อนเป็นแบบหนึ่ง และตอนนี้เป็นอีกแบบหนึ่งไปเลย ยิปว่าเราได้ครอบครัวเพิ่มขึ้น มันไม่ใช่เราได้ครอบครัวกลับมา มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่

มีคนมาขอบคุณทั้งยิปและเจ๊ เขาบอกว่ามีกำลังใจอยากกลับไปใกล้ชิดกับพี่น้องตัวเองบ้าง กระบวนการของคนที่รักกันและจับมือแก้ปัญหาไปด้วยกันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายและไม่ ได้ใช้เวลาน้อยๆเลย หลายคนรู้สึกว่าอยากมีหวัง อยากจะลองอีกสักตั้ง เพราะหลายคนก็ปล่อยเลยตามเลยไปแล้ว

LIPS: ตอนที่ไม่สนิทกัน มีอารมณ์ที่รู้สึกว่าไม่มีอีกคน เราก็อยู่ได้บ้างหรือเปล่า
GYPSY: เราเป็น loner ไปเลย แยกตัวออกมาและดำเนินชีวิตด้วยตัวคนเดียว เราย้ายออกมาอยู่คนเดียวตอนอายุ 24 เรารู้สึกว่าอยู่บ้านแล้วมันไม่ใช่ที่ของเรา เราอยากให้พื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัยและมีคุณค่าในโลกของเรา
LIPS: แต่ก่อนอยู่บ้าน 4 คน บรรยากาศหรือท่าทีเราเป็นอย่างไร
GYPSY: เราค่อนข้างแยกตัวออกมาจากคนอื่น อยู่ของเรา เรารู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา ไม่รู้สึกปลอดภัยและไม่วางใจ
เราเลยไม่อยากเข้าใกล้ แต่เราก็ไปสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ไปให้ใจกับเพื่อนมากแล้วก็ยิ่งเป็นสูตรที่ทำร้ายกันและกัน

‘เพราะตอนแรกพ่อแม่นึกว่าเราเป็นคนสันโดษ แต่พอเราเห็นกับเพื่อน เราร่าเริงสดใสเหมือนเป็นอีกคน ก็สร้างความน้อยใจให้เขาด้วยนะ เพราะเขาก็เห็นว่าตอนเราอยู่บ้านแล้วดูไม่มีความสุข แต่อยู่กับเพื่อนแล้วเป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่ง ‘


GYPSO: เราเห็นหลายคนที่ใช้เวลาทั้งชีวิตแต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นเหมือนเรา คือไม่ได้ออกมาดี ซึ่ง 20 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้ใกล้ชิดกันแต่ก็ไม่เกิดความรุนแรงอะไรเลย และจบแบบดีด้วย โชคดีมาก เรื่องของเราสองคนไม่ดราม่าเท่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลายคน คนใกล้ตัวเรามีชีวิตพี่น้องที่น่ากลัวมาก เขาเกลียดกัน ทำร้ายร่างกาย แย่งเงิน เขาทำร้ายกันทุกอย่าง
GYPSY: เคสของเราซอฟต์มาก แค่พี่น้องสองคนมีปมแล้วไม่ได้ใกล้ชิดกัน ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิต แต่เราไม่ได้ทำร้ายหรือ ไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกัน


LIPS: ลึกๆแล้วไม่ได้เกลียดกัน จริงๆแล้วก็อยากกลับมาคุยกัน ซึ่งต้องเกิดจากความพยายามและความต้องการของทั้งสองฝ่าย
GYPSO: ต้องออกแรงทั้งคู่ แต่แรงที่พูดถึง ไม่ใช่แรงของการตื๊อหรือทู่ซี้ทำไป แต่มันคือความกล้าหาญที่จะปล่อยภาพในอดีตไป รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา รู้ว่าจุดไหนเรารุก จุดไหนเราต้องถอย มันคือการใส่ความรักเข้าไปซ้ำๆ ไม่ใช่พยายามว่ายังไงเธอต้องดีกับฉันให้ได้ สุดท้ายคุณอาจได้ภาพนั้นแต่มันจะไม่ใช่ของจริง มันคือการใส่ความรักเข้าไปเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าเราเปลี่ยนไปแล้ว เราจะเป็นที่ปลอดภัยให้เธอ

‘จากที่เราเคยมองว่าพี่น้องไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย ดังนั้นเราจึงต้องใช้ความพยายามและเวลามากกว่าคนที่พื้นฐานไม่มีอะไร มันเหมือนการบ่มไวน์ และมันไม่ใช่เรื่องของความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่ยิปว่ามันคือความรักอยู่ที่ไหน ความรักอยู่ที่นั่น ‘

คนเราสัมผัสได้ถึงความรักเสมอและความรักที่เฟคก็สัมผัสได้เช่นกัน คนนี้เขาดูรักฉันนะ แต่มันมีอะไรแหม่งๆ แปลกๆ นั่นหมายถึงเราต้องทำใจให้เป็นกลางพร้อมจะเปิดรับตามจริงด้วย อย่างเจ๊ไม่ค่อยยุงกับยิปมาตลอด แล้วยิปสร้างกำแพงขึ้นมา ใจเราลำเอียงไปว่ายังไงเขาก็ไม่รักฉัน เจ๊ก็ใช้วิธีการที่ไม่ใช่ถล่มกำแพงของยิป แต่ต้องค่อยๆเอาส้อมมาเซาะกร่อนกำแพงของเราทีละนิด

พอเราเริ่มถอย เจ๊ก็จะถอย ให้เวลายิปหน่อย แล้วเจ๊ก็จะมาใหม่ เอาส้อมมาจิ้มอีก ไม่งั้นเราจะงงว่าเจ๊มาไม้ไหน มันไม่เป็นธรรมชาติเลย ปกติไม่ใช่คนแบบนี้นี่ แต่ก็ต้องให้เครดิตเขาที่ใช้ส้อมมาเจาะปูน มันใช้ความอดทนมหาศาล

LIPS: เราไม่ได้ทำเพราะเราเป็นพี่ แต่เราทำเพราะเรารักคนๆนี้
GYPSY: เราไม่ค่อยมองมนุษย์เป็นตำแหน่งนะ เรามองเป็นคนต่อคนไป ไม่ได้มองว่าคนนี้เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง
GYPSO: ถ้าเรามองเจ๊ว่าเป็นพี่ พี่ต้องทำแบบนั้นแบบนี้ให้น้อง มันหนักเกินไปสำหรับคนๆหนึ่งนะ เรื่องการเป็นพี่น้อง พ่อแม่ เพื่อน หัวหน้า ลูกน้อง เป็นเรื่องสมมติเพื่อทำให้บางอย่างมันง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความคนๆนั้นจะมีความสามารถที่จะทำตำแหน่งนั้นได้ มันไม่ใช่ว่าคนเป็นพี่ต้องเข้าหาน้องสิ งั้นคนเป็นน้องก็ไม่ต้องพยายามเท่าคนเป็นพี่หรือ เราว่าไม่ใช่ ทุกคนค่อยๆเรียนรู้ในขณะที่กำลังกลายร่างไปเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง และตำแหน่งต่างๆ


LIPS: 20 ปีที่ผ่านมารู้สึกว่าพลาดอะไรไปบ้างไหม หรือตอนนี้มอง 20 ปีข้างหน้าดีกว่า
GYPSY: ตัวยิปเป็นแบบหลังมากกว่านะ ไม่ได้คิดย้อนหลัง แต่คิดว่าต่อจากนี้มีอะไรที่อยากทำอีกเยอะเลย
GYPSO: อยากบอกว่าใครที่กำลังผ่านหรือผ่านเรื่องจากร้ายกลายเป็นดีมาได้ ส่วนตัวยิปรู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิด ทุกเจ็บ ทุกหน่วง ทุกทรมาน ความคุยกันไม่ได้ ไม่เข้าใจ ไม่โอเค ทั้งหมดที่ผ่านมานั้นมันเป็นจุดจำเป็นหมดเลยที่จะทำให้ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้เป๊ะๆ จะขาดอันไหนไปไม่ได้ทั้งนั้น ทุกการร้องไห้ ทุกการเหม็นกันในบางช่วง มันคือสูตรที่จำเป็น ถ้าขาดเกลือไปแค่เม็ดเดียวก็จะไม่ออกมาเป็นแบบนี้ ยิปเลยไม่เห็นด้วยกับการอยากย้อนกลับไปแก้อะไร

‘ แต่แน่นอนว่าอดีตเป็นตัวบอกเราเหมือนกันว่าถ้า ณ วันนี้เรายังไม่โอเคกับตัวเราที่เป็นอยู่ เราเองต้องเป็นคนใส่เครื่องปรุงให้ตัวเราเองในวันนี้เพื่อที่ในวันหน้า เราจะกลายเป็นสูตรอีกแบบหนึ่ง ซึ่งคราวนี้จะเกิดจากความตั้งใจ ไม่ใช่การปล่อยเลยตามเลยแล้วค่อยดูว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ‘


LIPS: พอกลับมาสนิทกันแล้วกลัวไหมว่าจะห่างกันไปอีก
GYPSY: มีแว้บๆ 20 ปีกลับมาดีกันไม่ถึง 2 ปี จะมีเรื่อยๆ มาเป็นวูบๆที่กลัวว่าเขาจะไม่โอเคกับฉันหรือเปล่า แต่ยิปว่ามีน่ะดี ควรมี
GYPSO: ใช่ ถ้าไม่มีเลย ดีทุกอย่าง อันนั้นน่ะน่ากลัว
GYPSY: การมีความรู้สึกระแวดระวังว่าเขาจะโอเคไหม จะแตกกันอีกไหม แปลว่าเราแคร์กับความสัมพันธ์นี้มากจนไม่อยากให้มันแตกอีกรอบ
GYPSO: นี่คือจุดที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ อย่าเห็นความสัมพันธ์เป็นของตาย และไม่มีคำนั้นนะว่าเพื่อนที่รักเราจริงคือคือคนที่ต้องรับเราได้ทุกอย่าง ไม่จริงเลย แต่คือคนที่บอกเราได้ว่า แกทำแบบนี้เราไม่โอเค ปรับได้ไหม ปรับไปพร้อมกัน คนที่รับเราได้ทุกอย่างอันนั้นไม่ใช่เพื่อน เขาเรียกว่าทาส ความสัมพันธ์ที่ healthy มีมากกว่าความรัก ความใส่ใจ แต่ต้องมีความเคารพกันด้วย ความรู้สึกว่าสนิทกัน ไม่ต้องเกรงใจกันน่ะดีนะ แต่ต้องเคารพในความเป็นมนุษย์ของอีกคนหนึ่งด้วย แต่ละคนมีจุดจี๊ดที่ต่างกัน ก็ต้องไม่ข้ามเส้นกัน

LIPS: สองคนพี่น้องเกื้อกูลกันอย่างไรบ้าง
GYPSO: การมีเจ๊ในชีวิตมันไม่เหมือนเดิม ยิปรู้สึกปลอดภัยขึ้นกับการอยู่บนโลกนี้ มีคนหนึ่งคนที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของเราจริงๆ เขารักเราและยอมรับเรา อยากเห็นเราเจอสิ่งดีๆ และกล้าพูดกับเราตรงๆ มีความกล้าหาญที่จะโชว์ด้านเปราะบางของเขาออกมาเพื่อแสดงให้เราเห็นว่าเขาไว้ใจเรา ความรักที่ดีไม่ใช่แค่ได้รักเท่านั้น ยิปได้รับความรักเจ๊ เจ๊ได้ช่วยเราในวันที่เราอ่อนแอ เราได้ช่วยเจ๊ในวันที่เจ๊อ่อนแอ เรารู้สึกว่าเราจะขออะไรจากอีกคนได้มากกว่านี้อีก

เราร่วงตกลงไปได้เลยเพราะเรารู้ว่าจะมีอีกคนรองรับเราเสมอ นี่คือของขวัญที่เราจะได้จากอีกคน เพื่อนของยิปมาในรูปแบบของพี่สาว เราเกื้อกูลกันทุกอย่าง


GYPSY: ยิปรู้สึกว่าเป็นความสัมพันธ์ที่สลับไปมาระหว่างเมฆนุ่มๆกับดินสอแหลม ยิปเห็นภาพสองอย่างนี้ชัดมากและชอบมาก ยิปเป็นเมฆนุ่มเพราะเขาเป็นมนุษย์จิตใจดีและสวยงาม เวลายิปซึมซับอะไรจากเขามากขึ้น ทำให้เราเป็นคนที่นุ่มขึ้นด้วย และในวันที่เราต้องการซัพพอร์ท เขาก็เป็นเมฆนุ่มให้เรา ยิปโซเป็นดินสอแหลม เพราะเวลาได้คุยกับเขา
เรารู้สึกว่าเราได้ลับคมความคิด มันไม่ได้หาได้จากทุกคน เพื่อนบางคนเป็นแบบนั้นให้เรา แต่ยิปโซเป็นแบบนั้นให้ยิปได้ทั้งสองอย่าง เขาเป็นเมฆที่นุ่ม น่ารัก ใจดี และอีกด้านเขาก็เป็นดินสอที่ช่วยลับคมไปกับเราได้ ยิปชอบความสัมพันธ์แบบนี้มากๆ เราเซอร์ไพรส์ที่เพื่อนเราคนนี้ ซึ่งเป็นน้องเราด้วยเป็นให้เราได้ทั้งสองอย่าง
GYPSO: วันนี้เขียนไดอารีจ๋า ‘เจ๊ชมๆ’ ขีดเส้นใต้ (หัวเราะ)


LIPS: พอแก้ปมที่เคยคิดว่าพ่อปฏิบัติกับน้องไม่เหมือนกับที่ทำกับเรา พ่อรักน้องมากกว่าจนเราทำให้น้อยใจและห่างจากทุกคนไปได้แล้ว ตอนนี้ความสัมพันธ์ของยิปซีกับพ่อเป็นอย่างไรบ้าง
GYPSY: เป็นความสัมพันธ์ที่มีระยะห่างแต่เป็นระยะห่างที่ healthy เรารู้สึกเรารักกัน เราเป็นครอบครัว เป็นหน่วยเดียวกันจริงๆ แต่ไม่จำเป็นที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือต้องพยายามเข้าหา เราทำอย่างเป็นธรรมชาติในแบบที่เรารู้สึกจากใจจริงๆดีกว่าทั้งเขาและเรา ไม่จำเป็นต้องสร้างละครขึ้นมาเพื่อให้ดูว่าเราสนิทกัน นี่ไม่ค่อยเล่าให้เขาฟัง เวลาเจอกันสามคนพ่อลูก แต่ก่อนจะมีโมเมนต์ที่ยิปรู้สึกบ่อยมากเวลาพ่อพูดกับเรา ปฏิบัติกับเราในแบบที่ไม่เหมือนกับที่พ่อทำกับน้องแล้วเรารู้สึกเฮิร์ท แต่เดี๋ยวนี้เวลาแฮงก์เอาท์กันสามคน ยิปมองเขาสองคนแล้วยิปรู้สึกยินดีด้วยจริงๆที่เขาเป็นกันแบบนี้ ภาพเดิมแต่รู้สึกไม่เหมือนเดิม รู้สึกยินดีไปกับความสัมพันธ์ที่เขามีกันมา และที่ดีใจมากๆคือยิปไม่รู้สึกอยากไปเป็นคนนี้อีกแล้ว


ไม่อยากเป็นคนนี้ ที่เขาเอามือแตะอยู่ ที่เขาคุยด้วย เราอยู่ตรงนี้ของเราและรู้สึกอิ่มใจ ไม่รู้สึกขาด เราเริ่มแกะตัวเองเก่งขึ้น ภาพเดิมๆที่เคยทำให้เราเจ็บ เราจะถามตัวเองว่าเราอยากเป็นคนนั้นไหม เราตอบว่าไม่ ไม่อยากทำเพื่อให้ได้เป็นแบบยิปโซแล้ว เรารู้สึกโอเคกับตัวเองและรู้สึกดีกับเขามากๆ มันพอดีแล้ว

GYPSO: กระดิ่งปกป้องพ่อมาแล้ว มันมีมุมมองของคนที่มองว่าพ่อทำไมปฏิบัติต่อลูกไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าอีกฝ่ายไม่ได้พูด พ่อจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นเหยื่อ ยิปจะบอกว่าทุกวันนี้เจ๊กับพ่อเป็นธรรมชาติมาก รู้สึกว่าไม่ต้องเจอกันบ่อย
แต่ธรรมชาติของยิปกับพ่อต้องเจอกันทุกวัน คุยกันทุกวัน ไม่ใช่แค่เรื่องของพ่อลูกแล้ว มันคือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์อีกคนหนึ่ง นี่คือบัดดี้ของยิป พ่อลูกทุกคู่อาจจะไม่ใช่แบบนี้

‘ ถ้ามองในระบบครอบครัว มันง่ายมากที่จะชี้ไปว่าพ่อเป็นคนทำให้ลูกไม่สนิทกัน แต่ไม่แฟร์เลย ความสัมพันธ์ที่เราลงความรักไปเยอะๆ เราก็ได้ความรักเยอะๆกลับมา ความรักสะท้อนหาความรัก พ่อรู้สึกอย่างสุดหัวใจว่ายิปรักเขามากๆและจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขา ‘

ยิปสัญญากับเขาตั้งแต่เด็ก พ่อเดินจูงมือไปส่งที่โรงเรียน พ่อบอกว่าโตขึ้น ยิปซื้อข้าวให้พ่อกินสักจานได้ไหม ทุกวันนี้ ยิปซื้อข้าวให้ป๊ากินทุกวันและจะซื้อข้าวให้จนต่างคนต่างตายกันไปข้าง ยิปบอกป๊าว่าห้ามไม่บอกยิปนะว่าวันไหนต้องไปโรงพยาบาล ยิปจะไปโรงพยาบาลกับป๊าทุกครั้ง ยกเว้นวันที่ติดงานจริงๆ เราให้คำมั่นคำสัญญากันว่าเราสองคนพาร์ทเนอร์นะ เราสองคนบัดดี้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยิปจะดูแลเขา ยิปคงมีความรู้สึกปกป้องพ่ออยู่เยอะ ทุกอย่างมีที่มาที่ไปเสมอ

‘ ไม่อยากให้คนมองว่าตอนแรกยิปกับเจ๊อยู่คนละฝั่งกัน แล้วตอนนี้ยิปกับเจ๊อยู่ฝั่งเดียวกันก็ต้องให้เราสองคนอยู่คนละฝั่งกับพ่อ แล้วเมื่อไรการให้ใครสักคนต้องเป็นคนร้ายถึงจะจบ เราทุกคนมีจุดที่มีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องตรงกับภาพที่คนอื่นคาดหวัง ‘

ไม่จำเป็นต้องตรงกับภาพครอบครัวตามบิลบอร์ดที่มีพ่อ แม่ ลูก หมาและบ้านสีขาว ครอบครัวไม่เห็นต้องหน้าตาเหมือนกันเลย ไม้บรรทัดเราเก็บไว้วัดสมุดตัวเองก็พอ ไม่จำเป็นต้องเอาไปวัดในสมุดของคนอื่น

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม