Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

หมอเตือนแล้วนะ! สายเล็บเจลระวังภัยเครื่องอบยูวี เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

Beauty / Hair & Nail

“ทำเล็บเจลเสี่ยงเป็นมะเร็งจริงหรือจ้อจี้?” เป็นคำถามโลกแตกที่วอแวกันมานานหลายปี ล่าสุด มีงานวิจัยที่ออกมาให้หลักฐานที่ชัดเจนขึ้นว่า การใช้เครื่องอบแสงยูวีสำหรับการทำสีเจลบนเล็บนั้น สามารถที่จะก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยแสงยูวีจะก่อให้เกิดการตายของเซลล์ และทำให้เกิดการกลายพันธุ์ที่นำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้

หากย้อนไปเมื่อปี 2017 FDA องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่า เครื่องอบยูวีเจลนั้นมีระดับความเสี่ยงต่ำที่นำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง แต่พูดก็พูดเถอะว่า ต่อให้มีความเสี่ยงต่ำขนาดไหนก็ใช่ว่าจะไม่เสี่ยง 

จากนั้น 3 ปีให้หลัง ในปี 2020 มีเคสของหญิงสาวสองรายที่ทำเล็บเจลเป็นประจำ พบว่า เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมาบริเวณหลังมือ (มะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรงที่พัฒนาในเซลล์เมลาโนไซต์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างเม็ดสีบนผิวหนัง) ซึ่งแสดงว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างการทำสีเล็บกับมะเร็งชนิดนี้ เพียงแต่ยังไม่เคยมีใครทำวิจัยศึกษาลึกซึ้งลงไประดับเซลล์ระดับดีเอ็นเอมาก่อน

ว่าแต่การทำเล็บเจลนั้นเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ร้ายแรงเบอร์นั้นหรือไม่ ไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

รู้จักเครื่องอบยูวีให้มากขึ้น

“เพราะเครื่องอบยูวีเป็นหัวใจหลักของการทำเล็บเจล การจะหลีกเลี่ยงเจ้าอุปกรณ์ทำเล็บชนิดนี้จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” ดร. แอนนา กอนเช่ (Dr. Anna Guanche) แพทย์ผิวหนังชื่อดังกล่าว พร้อมทั้งเปรียบเทียบให้เห็นภาพ “เครื่องอบยูวีนั้นไม่ต่างอะไรจากการได้รับรังสียูวีโดยตรงจากแสงแดด และจากเตียงอาบแดด (Tanning Bed) เลยสักนิด เพราะทั้งหมดนี้ล้วนใช้รังสียูวีเพื่อทะลุเข้าไปในดีเอ็นเอและกลายพันธุ์ การกลายพันธุ์เหล่านี้นำไปสู่มะเร็งผิวหนังในอนาคต” 

เตียงอาบแดดใช้แสงยูวีฉายอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 280-400 นาโนเมตร ส่วนเครื่องอบสีเล็บเจลใช้แสงยูวีฉายอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 340-395 นาโนเมตร นั้นสามารถทำลายเซลล์ของมนุษย์ได้

งานวิจัยที่สั่นสะเทือนวงการเล็บเจล

จากงานวิจัยโดย ดร. อามีร์ คารัม (Dr. Amir Karam) ศัลยแพทย์ตกแต่งในซานดิเอโก ที่น่าจะเป็นการศึกษาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกถึงผลของเครื่องอบสีเล็บด้วยแสงยูวีต่อเซลล์ของมนุษย์ โดยวิธีที่จะศึกษาการเปลี่ยนแปลงเซลล์ระดับดีเอ็นเอโดยไม่ต้องตัดชิ้นเนื้อก็คือ การดำเนินการในหลอดทดลองหรือจานเพาะเชื้อ 

ในงานวิจัยนี้ ได้ใช้เซลล์ที่เพาะเลี้ยงไว้ ได้แก่ เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblast เป็นเซลล์ในผิวหนัง ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนคอลลาเจนและอิลาสติน) ของมนุษย์ และเซลล์ไฟโบรบลาสต์จากตัวอ่อนของหนู

โดยนำเซลล์เหล่านั้นมาไว้ในจานเพาะเชื้อ และใช้เครื่องอบสีเล็บ ฉายแสงยูวีใส่ลงไป ผลลัพธ์ที่ได้พบว่า การฉายแสงยูวีด้วยเครื่องอบเล็บเป็นเวลา 20 นาทีไปหนึ่งครั้ง ทำให้เซลล์ตายไป 20-30% และถ้าฉายแสง 3 ครั้งต่อกัน เซลล์จะตายไปถึง 65-70% 

ผลการศึกษานี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการฉายยูวีด้วยเครื่องอบเล็บนั้นอาจจะทำให้เกิดมะเร็งขึ้นที่มือได้ คล้ายกับในกรณีที่เคยเกิดปัญหาขึ้นกับการใช้เตียงอาบแดดที่พบว่าเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง

ทำเล็บเจลอย่างไรให้ความเสี่ยงน้อยที่สุด

แม้ว่าความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังจากการทำเล็บเจลจะดูน่ากังวลอยู่ไม่น้อย แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเลิกทำเล็บเจลไปตลอดกาล ว่าแต่จะทำเล็บเจลอย่างไรให้ความเสี่ยงน้อยที่สุดก็ยังพอมีทางออกให้สาวๆ สายเล็บเจลได้พอยิ้มออกอยู่บ้าง 

โดยทั่วไปแล้ว เครื่องฉายแสงยูวีสำหรับอบสีเล็บจะฉายแสงออกมาในกำลังที่ต่ำกว่า และใช้เวลาสั้นกว่าการทดลองมาก ถ้าไม่ได้ทำเล็บด้วยเครื่องนี้บ่อยๆ ก็ไม่น่าจะต้องกังวลมากจนเกินไป 

ขณะเดียวกัน ดอกเตอร์ อามีร์ ยังเพิ่มเติมว่ายังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะยืนยันได้ว่า ผู้คนสามารถทำเล็บเจลได้ถี่มากน้อยแค่ไหนถึงจะไม่เสี่ยงอันตราย แต่สำหรับผู้ที่มีประวัติเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง หรือผู้ที่ไวต่อแสงอาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้น

แต่หากว่าใครยังแอบนอยด์ๆ อยู่บ้าง ดร.แอนนา แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ทาที่ผิวมือประมาณ 20 นาทีก่อนทำเล็บเจล หรือ สวมถุงมือแบบไร้นิ้วระหว่างใช้เครื่องอบเล็บ ก็ช่วยปกป้องจากรังสียูวีได้ในระดับที่อุ่นใจ

Words: Ayu Kulahathai
ข้อมูลจาก: www.refinery29.com

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม