ถ้าต้องกล่าวถึงในดีไซเนอร์แถวหน้าผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมแฟชั่นจะต้องมีชื่อของ Demna Gvasalia ติดอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ผู้พลิกวิกฤตแบรนด์ Balenciaga สู่สถานะแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จและถูกพูดถึงมากที่สุดของโลก หลายคนอาจรู้จักชื่อของชายคนนี้มาพักใหญ่ตั้งแต่ปี 2015 เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์แอนตี้แฟชั่นสุดคัลต์ Vetements นั่นเอง แบรนด์ที่จุดประกายกระแสสตรีทแฟชั่นใต้ดินให้กลายเป็นเมนสตรีมและด้วยวิสัยทัศน์ที่ฉีกและเฉียบของ Demna ทำให้เขาได้งานที่ Balenciaga พร้อมความหวังในการยกเครื่องแบรนด์ให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
ด้วยพื้นเพและมุมมองที่ต่างจากดีไซเนอร์ทั่วๆ ไป กลายเป็นจุดแข็งของเขาสามารถเสริมโครงสร้างให้แก่ Balenciaga ได้อย่างน่าประหลาดใจ หลังจาก Nicolas Ghesquière เคยสร้างเมจิกให้กับแบรนด์ในช่วงปี 00s และได้จากไปก็ยังไม่มีใครเข้าตาพอจนกระทั่ง Demna หลายคนตั้งคำถามว่าจุดแข็งของเขาคือสตรีทสไตล์จะสามารถพาแบรนด์โอต์กูตูร์ที่เน้นงานดีไซน์หวือหวาไปได้อย่างไร บ้างก็คิดว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ผิดเอามากๆ แต่สุดท้ายแล้วเขาคือตัวเลือกที่เฟอร์เฟกต์เลยต่างหาก
เขาเชื่อว่าเสื้อผ้าไม่ควรจำกัดผู้เสพและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการยกเครื่องใหม่ทั้งหมดของ Balenciaga จากเสื้อผ้าสุดล้ำที่ใส่ยาก กลายเป็นเสื้อผ้าดีไซน์เก๋ แฝงลูกเล่นที่ใครใส่ก็ได้แทน เขาได้นำวัฒนธรรมสตรีทเข้ามาผสมผสานกับงานชั้นสูงแบบฝรั่งเศสลดทอนความเวอร์วังที่ไม่จำเป็นและคงไว้ด้วยดีไซน์ในบริบทที่ใช้ง่ายขึ้น เช่น เสื้อฮู้ด เดนิม หรือเสื้อโค้ท ซึ่งในแต่ละชิ้นจะแฝงด้วยเทคนิกการตัดเย็บที่เฉียบและล้ำตามโค้ดของ Balenciaga อยู่
ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเขาเปลี่ยนให้ Balenciaga กลายเป็นแบรนด์ฮ๊อตที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่นด้วยแนวคิดที่ล้ำสมัย กล้าเสี่ยง กล้าลอง และท้าทายขอบเขตงานดีไซน์อยู่เสมอ เขายังเป็น Trend Setter คนสำคัญในอุตสาหกรรมแฟชั่นในการสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้ตื่นเต้น อาทิ Gucci x Balenciaga โปรเจกต์สุดไฮป์ของการคอลแลบระหว่างแบรนด์ระดับไฮเอนด์ด้วยกันเองในชื่อ ‘The Hacker Project’ หรือ Balenciaga x Rupaul ที่ดึงแดรกควีนผู้ทรงอิทธิพลมาร่วมคอลแลบ รวมไปถึงการที่เขาเข้าใจ Pop Culture อย่างการสปอนเซอร์เสื้อทั้ง Kenye West และ Kim Kardashain ที่แม้หลายคนจะส่ายหัวให้กับทั้งสองคนว่าคูลไม่พอ แต่ทั้ง Kanye และ Kim ต่างช่วยให้ Balenciaga กลายเป็นแบรนด์ที่คนค้นหามากที่สุดในโลก และสุดท้ายเขายังนำคอลเลคชั่นโอต์กูตูร์ของแบรนด์กลับมาได้สำเร็จพร้อมสร้างมิติใหม่ในเรื่องของ Gender Neutral อีกด้วย
และในฝั่งเทคโนโลยีเขาเองก็เป็นผู้นำเช่นกัน เขาเข้าใจดีว่าดิจิทัลคือปัจจุบันและอนาคตแทนที่จะปฏิเสธทำไมเราไม่โอบรับเสียละ เขาใช้ดิจิทัลสร้างการสื่อสารผ่านการนำเสนอผลงานในรูปแบบใหม่ๆ เช่นคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2022 ได้หยิบเอาบทเพลงคลาสสิกตลอดกาลที่มีมาตั้งแต่ปี 1945 อย่าง “La Vie en Rose ของ Édith Piaf มาให้ AI อ่านเนื้อเพลงพร้อมกับซาวนด์ที่เกิดขึ้นจากโปรแกรมดิจิทัล ถ่ายทอดผ่านรูปแบบวิดีโอเกม Afterworld: The Age of Tomorrow หรือจะเป็นการทำภาพยนตร์ The Simpson x Balenciaga และ Balenciaga x Fortnite โปรเจกต์เกมดิจิทัลที่ให้ผู้เล่นสามารถซื้อเสื้อผ้าของ Balenciaga ให้กับตัวละครได้ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการโอบรับต่อเทคโนโลยีและกระแสดิจิทัลที่ Demna เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ทีนี้เขาใจแล้วสินะว่าทำไม Balenciaga จึงเป็นแบรนด์ที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในโลกตอนนี้
