บางคนรู้จักสาวหน้าคล้าย ลิซ่า Blackpink คนนีในฐานะนักแสดงดาวรุ่ง หลายคนรู้จักเธอผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?’ และภาพสวยๆ ในอินสตาแกรม pigkaploy พลอยเคยเขียนหนังสือที่ชื่อ ‘วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน’ ซึ่งเป็นบันทึกการเดินทางตัวคนเดียว 37 วัน 8 ประเทศ ซึ่งเป็นการเดินทางตามหาตัวตนที่อยากจะเป็นในอนาคต ผ่านเส้นทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียที่เลยเถิดไปถึงฝรั่งเศส
และในปีนี้พลอยได้ก้าวมาเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่อง Low Season เป็นครั้งแรกในชีวิต ประกบคู่กับพระเอกซูเปอร์สตาร์ มาริโอ้ เมาเร่อ และเธอยังคงไม่หยุดเดินทางไปตามหมุดหมายต่างๆ ที่ปักไว้ในแผนที่ชีวิตในปีต่อๆ ไป ตามไปทำความรู้จักกับนางเอกสายลุยคนนี้ให้มากขึ้นกันเลยค่ะ
“ผู้กำกับพี่เป้ (นฤบดี เวชกรรม) ก็เห็นว่าพลอยรักการเดินทางเลยติดต่อเข้ามา ซึ่งพลอยเองก็เรียนจบด้านภาพยนตร์ แล้วเราก็อยากเล่นหนัง ดีใจมาก เรื่อง Low Season เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมมาดี้ พลอยเล่นคู่กับพี่มาริโอ้ เมาเร่อ เขิน และตื่นเต้นมากค่ะ พลอยจำได้ว่าวันแรกที่กำลังเตรียมตัวฟิตติ้งอยู่ เห็นพี่โอ้มาเราก็ยืนกรี๊ดเสียงดังเหมือนแฟนคลับอยู่กลางแบ็คดร็อปตรงที่ถ่ายรูป ตื่นเต้นมาก พี่โอ้ก็ตกใจว่าใครกรี๊ด (หัวเราะ)
…พลอยติดตามผลงานพี่เขามานานตั้งแต่สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก พี่มากพระโขนง และเราไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้เป็นคนๆ นั้นที่เล่นหนังคู่กับพี่เขาในวันนี้ แล้วพลอยก็ไม่รู้ว่าทางผู้กำกับบรีฟพี่โอ้มาว่า ห้ามคุยกับเรา เพราะในภาพยนตร์เรื่องนี้ตัวละครไม่ได้สนิทกัน ไม่รู้จักกัน ต่างคนต่างอกหักแล้วมาเจอกัน พี่เป้เขาอยากได้ความเรียล เราก็เลยไม่ได้คุยกันจนออกกอง แต่พลอยสงสัยก็เลยไปถามพี่เป้ค่ะว่า ทำไมพี่โอ้ไม่คุยกับหนู พี่เป้บอกพี่ไม่ให้คุยเองแหละไม่ต้องคิดมาก เราก็โล่งใจ ซึ่งพอได้ทำงานร่วมกันจริงๆ พี่โอ้เป็นกันเอง เป็นคนสนุกสนาน เฮฮา ขี้เล่น ชอบแกล้งค่ะ”
“นอกจากการทำงานในวงการบันเทิง พลอยได้เขียนหนังสือชื่อวิชาการเดินทางหลังเลิกเรียนด้วยค่ะ เป็นเรื่องราวการเดินทางคนเดียวเพื่อค้นหาว่าชีวิตเราต้องการอะไร เป็นการเดินทางด้วยรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียที่ยาวที่สุดในโลก คือจากจีนไปรัสเซียแต่เราก็ไปต่อถึงฝรั่งเศส ซึ่งบุคคลบันดาลใจในเรื่องการเดินทางของพลอยคือพี่สิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล พลอยยกให้พี่เขาเป็น Person of The Year เพราะพี่เขาเป็นนักเดินทางไกลที่ได้นำมุมมองจากการเดินทางมาเล่าต่อให้คนฟังได้ประโยชน์ คือมันไม่ได้จบที่ตัวเขาแต่เป็นการส่งต่อความรู้และสิ่งดีๆ มากมายให้กับผู้คนนับร้อยนับพัน อย่างตอนนี้ที่พี่เขากำลังพูดถึงเรื่องภาวะโลกร้อน พี่เขาเป็นกระบอกเสียงที่เอาปัญหาที่เขาพบเจอมาถ่ายทอดให้คนเห็นมุมมองที่แตกต่าง และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เราก็อยากจะเป็นให้ได้เหมือนกับพี่สิงห์ค่ะ”
“การที่เราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ได้ช่วยคน ช่วยสร้างองค์ความรู้ ส่งเสริมกำลังใจ ผลลัพธ์ของมันยิ่งใหญ่”
พลอยยังบอกกับเราว่าที่ผ่านมาเธอได้ทำงานเป็นครูอาสา ไปทำค่ายร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา ชื่อค่ายมองโลกผ่านเลนส์ เป็นการรวมตัวกันของผู้ที่รักการถ่ายภาพ แล้วเดินทางไกลไปสอนน้องๆ ถ่ายรูปที่ศูนย์การเรียนไร่ส้มวิทยา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
“เราไปสอนน้องๆ ในเรื่องของการถ่ายภาพ เราเอาสิ่งที่เรารัก เราชอบไปบอก ไปสอนเขา เรารู้สึกว่าน้องๆ เขามีไฟมากๆ อยากเรียนอยากรู้ เด็กๆ มาพูดกับเราว่าขอบคุณที่มาสอนหนู แล้วก็มีแบบมากระตุกเสื้อแล้วถามว่าคุณครูจะกลับมาอีกไหม คือมันเป็นคำพูดที่แสนเรียบง่าย แต่มันให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจได้มากเหลือเกิน
…ส่วนครูจิตอาสาที่ได้ร่วมเดินทางไกลไปกับเรา ได้มาสอนนักเรียนน้องๆ ที่นี่ เขาบอกว่าขอบคุณมากที่ทำให้เขาได้ลองทำในสิ่งใหม่ มันทำให้เขารู้สึกว่าเขามีคุณค่าบนโลกใบนี้ เขาพูดคำนี้ออกมา มันทำให้เรารู้ว่าการที่เราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ได้ช่วยทั้งคน ช่วยทั้งเด็ก ช่วยสร้างองค์ความรู้ ส่งเสริมกำลังใจ ผลลัพธ์ของมันยิ่งใหญ่ เป็นโมเม้นต์ที่แบบจะร้องไห้ ตื้นตันมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของพลอยเลยค่ะ และถ้าพูดถึงค่ายนี้ในปีหน้า 2020 เราจะนำรูปภาพที่เด็กถ่ายมาจัดทำเป็น Exhibition แล้วก็ทำเป็น Photo book ต่อไปค่ะ ก็เป็นเป้าหมายที่พลอยอยากจะทำให้สำเร็จ”
“ในปีหน้าพลอยตั้งเป้าเอาไว้ว่าอยากวิ่งมินิมาราธอนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วก็อยากดำน้ำขั้นแอดวานซ์ให้ได้
…เมื่อก่อนพลอยเป็นคนกลัวทะเลมาก กลัวความลึก กลัวความมืด กลัวสิ่งที่เรามองไม่เห็นข้างใต้น้ำนั้น พลอยกลัวฝังใจสึนามิตั้งแต่ได้ดูข่าวเมื่อตอนเด็กๆ จนเรารู้สึกว่า เราจะกลัวแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วนะ เลยบอกเพื่อนว่าไปเรียนดำน้ำกัน พอเราได้ดำลงไปใต้ทะเล เรารู้สึกว่ามันเป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่สวยมาก เราอยากจะรักษามันเอาไว้
…ประมาณเดือนกุมภาพันธ์พลอยตั้งใจว่าจะลงไปที่เกาะเต่า ไปคุยกับเจ้าของรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่ทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ท้องทะเลควบคู่กัน จริงๆ มันก็เป็น Goal ของพลอยที่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะทำในเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ใต้ท้องทะเล แล้วก็อยากทำองค์กรช่วยเหลือสังคมให้เกิดขึ้นจริงค่ะ”
│Photography : Somkiat K.
