Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Fashion / Trends

Sustainable Fashion รักษ์โลกอย่างมีสไตล์

เทรนด์รักษ์โลกที่มาแรงในวงการแฟชั่น
Fashion / Trends

อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างมลภาวะอย่างมหาศาลเป็นอันดับต้นๆ ของโลก การผลิต เสื้อผ้านั้นใช้ทรัพยากรอย่างมากมายและมักจบลงด้วยการสร้างขยะเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์เริ่มขานรับและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่ใช่เพราะมันเป็นแค่เทรนด์แต่เพราะมันคืออนาคตของอุตสาหกรรมแฟชั่นต่างหาก

การเปลี่ยนแปลงที่ว่าเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตที่หลายแบรนด์เริ่มมีทางเลือกมาขึ้นในการผลิตสินค้าโดยใช้ทรัพยากรน้อยลงหรือสร้างมลภาวะน้อยลง เช่น Carbon Neutral การใช้คาร์บอนเทียมในกระบวนการผลิต Zero Waste แนวคิดการผลิตและใช้วัสดุอย่างยั่งยืน หรือ Upcycled การใช้วัสดุเหลือใช้มาแปรรูปใก้เกิดประโยชน์และดีไซน์ขึ้นมาใหม่

และอีกหนึ่งมูฟเมนต์สำคัญมากๆ คือการหยุดใช้ขนเฟอร์หรือหนังสัตว์และหันไปใช้ขนและหนังเทียมแทน เพื่อหยุดการทรมานสัตว์ ซึ่งแบรนด์ที่ประกาศอย่างชัดเจนล้วนเป็นแบรนด์ระดับแถวหน้าของโลกทั้งนั้นและอุตสาหกรรมเครื่องหนังปละขนเฟอร์ต่างก็เป็นแผนกทำกำไร แต่การหยุดใช้ขนสัตว์ถือเป็นการเซตสแตรดาร์ดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างแท้จริง และแบรนด์ที่ประกาศเลิกใช้อย่างถาวรอาทิ Chanel, Prada, Miu Miu, Gucci, Bottega Veneta, Versace, Alexander McQueen, Balenciaga, Burberry, Stella McCartney และอีกมากมาย

ที่กล่าวมาคือภาพรวมของอุตสาหกรรมทั้งหมด แต่วันนี้ LIPS จะพาผู้อ่านไปอัพเดทว่าปัจจุบันเทรนด์แฟชั่นรักษ์โลกไปถึงไหนแล้ว และมีแบรนด์แฟชั่นอะไรบ้างที่ผลิตเสื้อผ้าแนว Sustainable สำหรับใครที่อยากเริ่มหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าให้รักษ์โลกมากขึ้น วันนี้เรามาอัพเดทให้แล้ว

Stella McCartney : Stella Shared 3

ขึ้นชื่อเรื่อง Sustainable อยู่แล้วสำหรับ Stella McCartney ที่กลับมาอีกครั้งกับไนลอน (Regenerated Nylon) ไนลอนที่ผ่านกระบวนการสร้างแบบใหม่และผ้าฝ้ายออร์แกนิกที่ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุหลักในการทำคอลเลคชั่น ด้านแอคเซสซอรี่ล้วนเป็นหนังวีแกนทั้งหมด รวมถึงรองเท้าที่ผลิตด้วยโพลีเอสเตอร์ รีไซเคิลส่วนพื้นรองเท้าใช้วัตถุดิบชีวภาพที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เป็นวัสดุในการผลิต แถมทุกขั้นตอนการผลิตยังสามารถตอบสอบย้อนหลังได้ เรียกได้ว่ายื่นหนึ่งที่สุดในวงการตอนนี้

Chloe : Spring-Summer 2022 collection

การเปลี่ยนแปลงดีไซเนอร์ Gabriela Hearst ทำให้ Chloe วันนี้กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลกอบ่างเต็มตัว เสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียนตัวเก๋ที่วันนี้รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไอเท็มส่วนใหญ่จาก Chloe ตอนนี้ทำจากผ้าลินินเพื่อลดจำนวนการใช้ผ้าคอตตอนลงแต่ปรับดีเทลให้ใกล้เคียงเหมือนผ้าเดนิม สร้างกลไกแฟชั่นรักษ์โลกแบบครบวงจร แถมยังหยิบกระบวนการผลิตแบบ Zero Waste มาปรับใช้ด้วยการใช้ผ้าเหลือจากคอลเลคชั่นที่แล้วมาใช้ในคอลเลคชั่นใหม่นี้ด้วย

Marine serre : Fichu Pour Fichu

หลายคนคงเริ่มจะคุ้นเคยกับแบรนด์ลายพระจันทร์เสี้ยว Marine Serre แฟชั่นแบรนด์ขวัญใจสาวๆ วงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง Blackpink ที่ล่าสุดนี้ได้เผยคอลเลคชัน Spring/Summer 2022 ตอกย้ำฐานะแบรนด์แฟชั่นสายยั่งยืนด้วยคอลเลคชั่นที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม โดย 45% ของคอลเลคชั่นทำมาจากผ้ารีไซเคิล และ 45% ทำมาจากวัสดุที่สร้างขึ้นมาใหม่และเป็นมิตรต่อธรรมชาติ 

Mulberry : Spring-Summer 2022 collection

Mulberry เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่หันมาใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับคอลเลคชั่นใหม่นี้ Mulberry เลือกใช้วิธีผลิตแบบ Carbon Neutral รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุที่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  กระบวนการฟอกสีที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ แถมมาจากโรงฟอกหนังในยุโรปซึ่งได้รับการการันตีด้วยมาตรฐานระดับ Gold Standard จาก Leather Working Group (LWG) สานต่อถึงปรัชญา Made to Last ที่ทางแบรนด์ตั้งใจ ถ่ายทอดเทรนด์สู่ความยั่งยืนได้อย่างลงตัวในสไตล์โดดเด่นและไม่เหมือนใครได้ในชีวิตประจำวัน

A|X Armani Exchange : Autumn Winter 2021/22 Collection

ถ่ายทอดไอเท็มในดีไซน์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ผ่านการเลือกใช้ผ้าฝ้ายออร์แกนิกและไนลอนรีไซเคิลส่งต่อสปิริตของความเป็นคนเมืองยุคปัจจุบันให้หันมารักษ์โลกขึ้น รวมทั้งมีไอเท็มคลาสสิคสกรีนลาย  Never Too Loud  และการเลือกใช้เดนิม DENIM LOVE ถือเป็นหัวใจสำคัญของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลทำให้สามารถ แมตช์ได้แบบไม่มีเบื่อไม่ว่าจะอยู่ในซีซั่นไหน

Valentino : New Brand Identity Packaging –  Embracing Sustainability 

แพคเกจรุ่นใหม่เส้นทางสู่ความยั่งยืนของแบรนด์ที่ช่วยลดขยะ ด้วยถุงช้อปปิ้งสีขาวที่มีโลโก้นูนสีแดงตัดกัน และซับในสีแดงจะผลิตด้วยกระดาษรีไซเคิล 55%  40% มาจากของเสียหลังการบริโภค และ 15% มาจากการรีไซเคิล

ทิศทางในอนาคตอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเปลี่ยน Fast Fashion สู่เทรนด์ยั่งยืนมากขึ้น เน้นการใช้งาน อย่างกระแสการใช้เสื้อผ้ามือสองหรือนำเสื้อผ้าเก่ามาใช้มากขึ้น  และกระบวนการใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นกระบวนการตั้งแต่ผลิตทำเส้นใย ถักทอ ฟอกย้อม แรงงานตัดเย็บ และการขนส่งที่ตอบสายแฟชั่นยุคใหม่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้หันมารักษ์โลกมากขึ้น

Photos : Courtesy of Brands

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม