Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview / People

Unstoppable Chemistry – ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ – ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน

ปอนด์-ภูวินทร์ คู่จิ้นคู่ใหม่เคมีแรงจากซีรีส์ “ปลาบนฟ้า”
Interview / People

คู่จิ้นคู่ใหม่จากซีรีส์ “ปลาบนฟ้า” อย่าง ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ และ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน นั้นต้องเรียกว่า แจ้งเกิดได้อย่างงดงามจากบทบาท “หมอก” เดือนคณะแพทย์สุดเพอร์เฟ็กต์ และ “ปี” นิสิตแพทย์ปี 2หนุ่มแว่นสุดเนิร์ด ที่จุดกระแสในทวิตเตอร์ให้ขึ้นเทรนด์ระดับท็อปในทุกครั้งที่ออนแอร์ ไม่เพียงแต่เคมีในจอของทั้งสองจะเข้ากันอย่างไร้ที่ติ ชีวิตหลังกล้องของทั้งคู่ก็จูนกันติดง่าย ด้วยความที่เป็นหนุ่มว่าที่วิศวกรที่ใส่ใจในการเรียนพอๆ กัน วันนี้เราขอพาลิปสเตอร์ไปทำความรู้จักกับพวกเขาอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น รับรองว่า ต้องตกหลุมรักหนุ่มหน้าใสทั้งคู่แน่นอน

ลิปส์ : ปอนด์ถือเป็นมือใหม่เรื่องการแสดง ส่วนภูวินทร์มีประสบการณ์มาหลายเรื่องแล้ว มีคำแนะนำอะไรให้กับมือใหม่อย่างปอนด์บ้างไหม
ณราวิชญ์ :
เอาจริง ๆ แล้ว เขาจะเป็นแนวให้กำลังใจมากกว่าว่า “สู้ ๆ ทำได้อยู่แล้ว” แล้วน้องเขาก็จะมีชมบ้างว่า “เรื่องแรกก็ทำได้ดีเลยนะ” ประมาณนี้มากกว่าครับ
ภูวินทร์ : ผมไม่ค่อยให้ได้คำแนะนำ เพราะเกรงใจพี่เขาด้วย แต่ว่าจะคอยให้กำลังใจเขามากกว่า แต่ว่าก็พูดได้ว่าตั้งแต่คิวแรกจนถึงคิวสุดท้ายเขามีการพัฒนาการที่สูงขึ้นมากๆ พี่เขาทำได้ดีมากๆ

ลิปส์ : ทั้งสองคนรู้จักกันจากแคสต์นี้เป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนสนิทกันเร็วพอสมควรเลย ตอนที่รู้ว่า เราต้องเล่นคู่กับคนนี้นะ First Impression ของเราเป็นอย่างไร
ณราวิชญ์ :
ตอนแรกก็แอบกลัวครับ เพราะน้องเขาดูเป็นคนนิ่งๆ ตอนแรกคิดว่า อายุเท่ากันด้วย เพราะเห็นเขาใส่ชุดนักศึกษา แต่จริงๆ แล้วเราอายุห่างกันเกือบ 3 ปีครับ เขาอายุ 17 ปี ผมอายุ 20 ปี แต่น้องเขาดูโตใช่ไหมล่ะครับ ตอนเขาเล่นซีรีส์ The Gifted เขาก็ดูโตด้วยครับ ภาพจำจากใน The Gifted เราจะเห็นว่า เขาเป็นคนโหดๆ แต่พอมาเล่นเรื่องนี้แล้วเขาเปลี่ยนเลย แล้วพอเล่นไปด้วยสักพัก ผมรู้สึกว่า เขาจะเป็นคนที่มีอีโก้ประมาณหนึ่ง แต่ยังสัมผัสได้ถึงความเป็นเด็กในตัวน้องเขาอยู่

ลิปส์ : ตัวตนของปอนด์เท่าที่ภูวินทร์รู้จักเป็นคนอย่างไร
ภูวินทร์ :
เขาเหมือนตัวละครหมอกเลยครับ เสียงขรึมๆ นิ่งๆ พี่เขาเป็นคนนิ่งๆ อยู่แล้ว แล้วเจอบทหมอกเข้าไปอีกก็ยิ่งนิ่งเข้าไปอีก แล้วก็จะเหมือนคอยยืนคุมเกมดูทุกอย่าง
ณราวิชญ์ : ตัวละครตัวหมอก เราต้องเล่นให้ดูนิ่งๆ แต่ให้การแสดงออกมาดูไม่แข็ง ต้อง keep คาแร็กเตอร์ไว้ว่า เขาเป็นคนนิ่งๆ แต่ในใจเขาเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาในเรื่องน่ะเราชอบเขา แต่เราก็ต้องเล่นให้เหมือนกับว่า เราดูกวนๆ เก็บอาการ เก๊กๆ น่ะครับ แต่จริงๆ เป็นคนคลั่งรัก

ลิปส์ : ตรงกับตัวเองไหม ชอบใครแล้วต้องเก็บอาการอย่างนี้หรือเปล่า
ณราวิชญ์
: เวลาผมชอบใครผมต้องเก็บอาการครับ แต่ว่าไม่ได้รุกเหมือนหมอกที่ชอบเข้าไปกวนเขา เข้าไปจุ๊กจิ๊กเขา จะเก๊กๆไปเลยมากกว่า

ลิปส์ : แล้วภูวินทร์เป็นแนวนี้เหมือนกันไหม ชอบเก็บอาการเวลาแอบชอบใครเหมือนกันหรือเปล่า
ภูวินทร์ :
ไม่เก็บครับ ถ้าชอบก็คือชอบ แล้วก็จีบเขาเลย ไม่เก็บอาการเลย แต่ถ้าเขาไม่เอาเราก็โอเค
ณราวิชญ์ : อยากรู้ว่า สไตล์ติ๋มๆ อย่างภูวินทร์จะมีวิธีจีบอย่างไรกันนะ (ปอนด์ขอเป็นฝ่ายถาม)
ภูวินทร์ : ขอเก็บเป็นความลับแล้วกัน (หัวเราะ)

ลิปส์ : พอเริ่มสนิทกันแล้ว อะไรที่ทำให้จูนกันได้ แล้วก็เป็นเรื่องที่คุยกันบ่อย
ณราวิชญ์
: เราคุยเรื่องเรียน มีถามบ้างว่า เรียนถึงไหนแล้ว เพราะว่าเราเรียนวิศวะฯ เหมือนกัน แต่คนละสาขา ผมเรียนผมเรียนวิศวะฯ การแพทย์ เกี่ยวกับพวกเครื่องมือแพทย์ครับ
ภูวินทร์ : ผมเรียนวิศวะฯ คอมพิวเตอร์และการสื่อสารครับ จริงๆ แล้วผมอยากเข้าวิศวะฯ ไฟฟ้า เพราะผมชอบอะไรที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ผมเป็นเด็กติดเกมน่ะ พูดง่ายๆ แต่เข้ายากไปครับ คะแนนสูงมากๆ บวกกับว่า ไม่มีภาคอินเตอร์ด้วย แต่พอลองเข้าไปเรียนวิศวะฯ การสื่อสาร ก็สนุกดีครับ
ณราวิชญ์ : น้องเขาเรียนเก่งมากครับ คะแนนพวกภาษาอังกฤษ IELT ได้ 8 เต็ม 9 เลย MATH 2 น้องก็ได้คะแนนเต็ม ทั้งๆ ที่เป็นวิชาที่ยากมากเลย

ลิปส์ : ทำไมปอนด์ถึงเลือกเรียนวิศวะฯ การแพทย์ ไม่ค่อยได้ยินคนเรียนสาขานี้เลย
ณราวิชญ์
: ผมเห็นว่า ชื่อมันเท่ดีผมเลยเลือก ตอนแรกผมเล็งพวก Aerospace ที่เกี่ยวกับพวกการบินเอาไว้ แต่มันเข้ายาก ใช้คะแนนสูงครับ ผมก็เลยเปลี่ยนสาขาดีกว่า จนกระทั่งมาเจอสาขา Biomedical Engineering เลยรู้สึกว่า ชื่อมันแปลกดี เพิ่งเคยเจอ อยากลองเรียนจังเลยว่า มันจะเป็นอย่างไร
ภูวินทร์ : แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง (ขอเป็นคนถามบ้าง)
ณราวิชญ์ : ยากมาก ผมอยากย้อนเวลากลับไปได้แล้วเลือกสาขาอื่น

ลิปส์ : ภูวินทร์ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยตั้งแต่เด็กเลย มีให้คำแนะนำเรื่องการแบ่งเวลากับปอนด์บ้างไหม
ภูวินทร์ :
ผมว่าพี่เขาก็พอจัดการตัวเองได้อยู่ มันแล้วแต่คนน่ะครับ สำหรับผมผมคิดว่า หน้าที่หลักของผม คือ การเรียน ผมต้องเรียนให้จบเป็นอย่างแรก เพราะ หนึ่ง พ่อแม่ก็ส่งเราเรียนด้วย แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือ ไว้เรียนจบเราค่อยทำงานก็ได้ แต่การที่เราได้ทำงานระหว่างเรียน คือ สิ่งที่ดี แต่มันไม่ใช่ priority หลักของเรา เราต้องเรียนให้จบก่อน
ณราวิชญ์ : น้องเขาดีอย่าง คือ น้องเขาสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนเลยว่า เรียนก็คือเรียน ทำงานก็คือทำงาน เขารับบทเป็น “ปี” ที่เป็นตัวเอกของเรื่องที่ต้องเข้าทุกซีน แต่ก็ยังเรียนได้เหมือนปกติ
ภูวินทร์ : ก็ต้องพยายามจนหนักหัวตัวเองเหมือนกันครับ บอกเลยว่า ตอนถ่ายก็หนักเหมือนกัน เพราะตอนนั้นตรงกับช่วงสอบมิดเทอมด้วย

ลิปส์ : ช่วงนี้น่าจะเรียนออนไลน์อยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เวลาอยู่บ้านชอบทำอะไรบ้าง
ณราวิชญ์ :
นอนดูการ์ตูนนารูโตะ ดูซีรีส์ กำลังว่าจะดู Vincenzo ครับ ดูไปครึ่งตอนแล้ว ถ้าเป็นดาราของเกาหลีชอบ ชาอึนอูครับ พระเอกเรื่อง True Beauty
ภูวินทร์ : ส่วนผมสายดนตรี สายเล่นเกมครับ ผมเล่นเปียโนกับกีต้าร์เป็นอยู่สองอย่าง เล่นคนเดียวในห้อง ด้วยความที่ผมชอบเล่นเกมอยู่แล้ว ผมเลยชอบเล่นเพลงซาวนด์แทร็คของเกม และซาวนด์แทร็คของหนังเป็นหลัก ส่วนกีตาร์ก็จะเล่นเป็นเพลงป๊อปๆ ปกติ ผมชอบเล่นเพลง เพลงของ Whal & Dolph ชื่อเพลง “ฉันยังเก็บไว้” แล้วก็ “How Deep is your Love” ของ Bee Gees ที่น่าจะมั่นใจ แล้วก็เพลงประกอบซีรีส์ปลาบนฟ้านี่แหละ แล้วตอนนี้ดูซีรีส์อยู่เรื่องหนึ่ง คือ “เด็กใหม่” เครียดนะแต่อย่างมัน แล้วมันสะท้อนสังคมดี

ลิปส์ : เม้าธ์เรื่องสไตล์การแต่งตัวกันบ้าง สไตล์การแต่งตัวใกล้เคียงกันไหม
ณราวิชญ์
: น้องเขาจะแต่งตัวสบายๆ ส่วนผมมาสายเกาฯ เลยครับ ผมจะแต่งตัวตามพวกดาราเกาหลี
ภูวินทร์ : ผมเป็นคนแต่งตัวไม่เป็นเลย มีอะไรมาก็ใส่ ผมไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเองเลย เพราะว่าแม่จัดให้หมด ถ้าใส่ไม่ตามเขาก็จะงอน ด้วยความที่แม่ผมเป็นแอร์โฮสเตสด้วย เขาจะได้บินไปต่างประเทศบ่อย แล้วเขาก็จะชอบซื้อเสื้อผ้ากลับมาให้ หลายประเทศก็หลายแนว

ลิปส์ : หลังจากซีรีส์ปลาบนฟ้าจบจะมี Fan Meeting ต่อเลยไหม
ณราวิชญ์: จริงๆ อยากเจอทุกคนมากๆ เลย แต่ตอนนี้ติดโควิดฯ น่ะครับ สถานการณ์ยังไม่พร้อม ก็เลยต้องรอก่อน ส่วนเรื่องผลงานชิ้นต่อไปก็ต้องรอดูครับว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าต่อไปจริงๆ ได้เล่นคู่กันอีก ผมก็ไม่ติดครับเพราะผมรู้สึกว่า ช่วงนี้กระแสซีรีส์ปลาบนฟ้ากำลังดีเลย เรื่องเราเป็นซีรีส์วายสายคอมเมดี้ ดูเด็กๆ หน่อย แต่ถ้าเกิดเราปรับให้ดูโตขึ้นอาจจะดีก็ได้ครับ ผมอยากลองแนวนั้น หรือไม่ก็อยากเล่นเป็นหัวหน้าแก๊งนักเลง
ภูวินทร์ : ผมเองก็ไม่ติดอะไรถ้าจะต้องเล่นคู่กับพี่ปอนด์อีก แต่ส่วนตัวผมช่วงนี้ดูซีรีส์เด็กใหม่อยู่ ก็เลยอยากจะกลับไปรับบทเครียดๆ เหมือนตอน The Gifted เพราะในความเครียด ความทรมานตัวเอง มันก็มีเสน่ห์อยู่ตรงนั้น

Photography : Somkiat K.
Styling : Anansit K.
Makeup : Tashapol S.
Hair : Thannicha P.
Wearing : Versace, Balenciaga, Greyhound Original, Marc Jacobs
ขอขอบคุณ โรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม