![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/garconweb-report-hamilton2-Main-1024x538.jpg)
ถ้าให้นึกถึงนาฬิกาข้อมือเรือนแรกในชีวิต เชื่อว่า ส่วนใหญ่หนุ่มๆ คงคุ้นเคยกับนาฬิกาดิจิตัลที่มีหน้าปัดบอกเวลาเป็นตัวเลข ดีไซน์ดูล้ำๆ เหมือนนาฬิกาจากโลกอนาคต แต่เต็มไปด้วยปุ่มกดที่หลายคนต้องเคยเผลอกดเล่นๆ จนสุดท้ายกลับมาหน้าจอบอกเวลาไม่ได้ (เราเคยมาแล้ว) ซึ่งนาฬิกาลักษณะที่ว่านั้น เรามักจะนึกถึงนาฬิกาจากแบรนด์เครื่องคิดเลขชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วจุดกำเนิดของนาฬิกาดิจิตัลสุดล้ำกลับมาจากแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่อย่าง Hamilton นั่นเอง
Hamilton นำนาฬิกาข้อมือดิจิตัลแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานสร้างสรรค์แห่งอนาคตที่เปลี่ยนโลกอย่าง Pulsar กลับมาทำใหม่อีกครั้งในรุ่น Hamilton PSR โดย Pulsar เคยเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักคิดหัวสมัยใหม่และผู้นำด้านสไตล์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Jack Nicholson, Joe Frazier, Elton John และ Keith Richards ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสะเทือนวงการและการออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย
![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/PSR-1-642x1024.jpg)
ซึ่งนาฬิกาดิจิตัลเรือนแรกของโลกนี้มีนามว่า “Pulsar” แจ้งเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1970 หน้าตาของ Pulsar นั้นล้ำราวกับหลุดออกมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์ไม่มีผิด ลองคิดดูว่าเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว มีนาฬิกาที่ไม่มีกลไกบอกเวลาด้วยเข็มนาฬิกา กลไกการทำงานภายในตัวเรือนเงียบกริบ แต่ทนทานและเที่ยงตรงสูงสุด สมกับชื่อ Pulsar ที่ได้รับการตั้งชื่อตามดาวนิวตรอนที่ปล่อยรังสีด้วยความถี่ที่มีความแม่นยำมากเป็นพิเศษ
ภาพของนาฬิกาต้นแบบ Pulsar ถูกออนแอร์ทางรายการเรตติ้งสูงอย่าง The Tonight Show ทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา โดยมี Johnny Carson ผู้ดำเนินรายการสาธิตการทำงานสุดเฉพาะตัวของนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งก็คือการกดปุ่มด้านข้างของนาฬิกาเพื่อแสดงตัวเลขเวลาเป็น LED สีแดงบนหน้าจอสีดำ และหากกดปุ่มนี้ค้างไว้นานขึ้นจะเห็นตัวเลขบอกวินาที และสามารถตั้งเวลาของนาฬิกาได้จากแถบแม่เหล็กเฉพาะที่ซ่อนอยู่ภายในสายนาฬิกา คิดดูว่า ในสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาวนวัตกรรมของ Pulsar จะ “ว้าว” ขนาดไหน
![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/Pulsar-P1-1024x1024.jpg)
Hamilton Pulsar รุ่นแรกหรือ P1 วางจำหน่ายในปีพ.ศ. 2515 ด้วยงานออกแบบสไตล์ยุคอวกาศผสานกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้วยตัวเรือนแบบคุชชั่นในดีไซน์ล้ำยุคพร้อมสายนาฬิกาสีทอง 18 กะรัต มีราคา 2,100 ดอลลาร์ซึ่งสูงเทียบเท่ากับราคารถยนต์สำหรับครอบครัวเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งใน 400 คนที่ได้ครอบครองนาฬิกาสุดล้ำก็คือ Elvis Presley ราชาร็อคแอนด์โรลนั่นเอง
![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/Pulsar-P2-1024x1024.jpg)
ในปีต่อมา นาฬิกาดิจิตัลจึงมีวางจำหน่ายแพร่หลายสำหรับคนทั่วไปในรุ่น Pulsar P2 ซึ่งทำจากสเตนเลสสตีล พร้อมปรับดีไซน์ให้ตัวเรือนมีความโค้งมนเป็นทรงกลมมากขึ้น และได้รับการพัฒนาชิปโมดูลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ถือเป็นการบุกเบิกตลาดนาฬิกาดิจิตัลครั้งแรกในปีค.ศ. 1973 ถือเป็นตำนานความยอดเยี่ยมของนาฬิกาข้อมือดิจิตัลอย่างแท้จริง โดยผู้ที่เป็นเจ้าของนาฬิการุ่นนี้ก็มีแต่เซเลบริตี้ระดับท็อปทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Keith Richards, Joe Frazier, Elton John, Giovanni Agnelli และประธานาธิบดี Gerald Ford แห่งสหรัฐอเมริกา
![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/PSR-2-1-642x1024.jpg)
สำหรับ Hamilton PSR โฉมใหม่ที่ถือกำเนิดในปีค.ศ. 2020 นั้นนับเป็นการต่อยอดซิกเนอเจอร์ของ Pulsar ทั้งในเรื่องสไตล์ที่โดดเด่นจากยุค 70s และเทคโนโลยีสุดล้ำ โดย PSR มีให้เลือกจับจองเป็นเจ้าของด้วยกันในสองรูปแบบ ทั้งมนแบบสเตนเลส และสเตนเลสเคลือบด้วย PVD สีทองที่ถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1,970 เรือนเท่านั้น โดยนาฬิกาทั้งสองรูปแบบนี้ มีตัวเรือนสไตล์ไวด์คุชชั่นที่ถอดแบบมาจากรุ่น P2 ในขนาดเท่าเดิมคือ 40.8 มม. x 34.7 มม. พร้อมคุณสมบัติกันน้ำได้ลึก 100 เมตร
![](https://www.lips-mag.com/wp-content/uploads/2020/06/OLED-1-743x1024.jpg)
ข้อแตกต่างสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อเทียบกับนาฬิการุ่นก่อน คือ การแสดงผลเวลาของ Hamilton PSR ที่มีที่ผสานการทำงานของเทคโนโลยี LCD (Liquid Crystal Display) แบบสะท้อนแสงและ OLED (Organic Light Emitting Diodes) แบบปล่อยแสงเข้าด้วยกัน เมื่อกดปุ่มจะทำให้ตัวเลขเวลาสีแดงสว่างขึ้นในแบบ ‘จุดดิจิตัล’ ด้วยระบบ OLED แต่จะมีหน้าจอ LCD ที่ทำให้สามารถมองเห็นเวลาได้ตลอดในสภาพแสงสว่างตอนกลางวัน และเมื่อไม่มีการทำงานของ Black Light จึงทำให้หน้าจอใช้พลังงานในปริมาณที่น้อยมาก
ใครเป็นแฟนนาฬิกาดิจิตัลน่าเก็บไว้ในคอลเล็กชั่นสักเรือน
Price : 27,900 – 36,900 บาท
Where to Buy : hamiltonwatch.com
┃Photos : Courtesy of Hamilton Watch