ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ขอแค่มีเวลาว่าง ทุกคนก็จะหยิบสมาร์ทโฟนกดเข้าไปเลือกหนังหรือซีรีส์ดูจนกลายเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลยในปัจจุบัน แต่นอกจากบรรดาผู้ให้บริการอย่าง Netfilx, VIU หรือ Line TV ที่เราต่างรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ยังมีแอพฯ สตรีมมิ่งหนัง และซีรีส์ไหนอีกบ้าง ที่การ์ซงควรรู้จักอีก ไม่ต้องไปเซิร์ชหาเองให้เสียเวลาหรอกนะ เพราะเราได้รวม 5 แอพฯ สตรีมมิ่งที่น่าสนใจพร้อมรีวิวข้อดีข้อด้อยของแต่ละแอพฯ มาไว้ให้แล้ว
Prime Video
ไม่มีใครไม่รู้จักหนึ่งในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Amazon แต่น้อยคนจะรู้ว่าเว็บไซต์นี้เขาก็เปิดให้บริการสตรีมมิ่งสื่อออนไลน์ด้วย แถมเปิดให้บริการมาเป็นเวลานาน และครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก เรียกได้ว่าใหญ่โตพอๆ กับ Netfilx เลย ในส่วนของบรรดาหนังและซีรีส์ในแอพฯ นี้ ก็มีทั้งภาพยนตร์เก่าและใหม่ปะปนกันไป แต่จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือบรรดาไลน์หนังเอ็กซ์คลูซีฟจากงานประกาศรางวัลต่างๆ อย่างเช่น Academy Awards ที่ขนมาหมดไม่ว่าจะคว้ารางวัลหรือแค่เข้าชิงก็ตาม การันตีได้ทันทีว่า คอนเท็นต์เหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การชมจริงๆ
Amazon Prime Video ยังมี Amazon Originals Series หรือผลงานซีรีส์ที่ลงทุนทำเองฉายเองแบบเดียวกับ Netflix Original อย่างเรื่อง The Boys, The Marvelous Ms. Maisel และ Utopia ซึ่งกวาดเสียงชมจากนักวิจารย์และผู้ชมไปได้เยอะมากๆ แต่ที่แปลกใหม่กว่า ก็คือฟังก์ชั่นค้นหาหนังหรือซีรีส์ด้วยเสียง นอกจะช่วยย่นเวลาในการใช้งานแล้ว ยังเอาไว้ใช้ฝึกสกิลล์การออกเสียงภาษาอังกฤษได้อีกด้วย อีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบไม่แพ้กันก็คือการค้นหาผ่านชื่อนักแสดงได้เลย ถ้าเป็นแฟนของนักแสดงคนไหนก็ไม่ต้องเสียเวลาเปิดหาทีละเรื่อง เพราะแค่พิมพ์ชื่อไปก็ขึ้นมาให้ครบหมดทุกเรื่องที่มี Prime Video เลย ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการในไทยมาประมาณสองปี บอกเลยว่าซับไทยแน่น มีเกือบทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ ถ้ามองหาแอพฯ สตรีมที่ราคาไม่แพงมาก แถมหารกับเพื่อนได้เยอะๆ Amazon Prime Video ก็ดูเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมนะ
Membership Package : 199 บาทต่อเดือน สามารถแชร์ได้ถึง 6 คนในบัญชีเดียวกัน แต่เปิดรับชมพร้อมกันได้เพียงแค่ 3 อุปกรณ์เท่านั้น
_____________________________________________
Apple TV
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดีเพราะเขาเปิดให้บริการในเมืองไทยมาแล้วเกือบจะครบหนึ่งปี ปกติ Apple TV เป็นแอพฯ สตรีมมิ่งที่มีบริการเช่าซื้อหนังตามปกตินั่นแหละ ซึ่งจะต้องเสียเงินเป็นเรื่องๆ ไป แต่ก็มีแพ็คเกจอย่าง Apple TV+ ให้สมัคร ที่สามารถดูได้ทุกเรื่องแบบ Unlimited ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือซีรีส์ก็ตาม (เฉพาะเรื่องที่อยู่ในแพ็คเกจเท่านั้นนะ) รวมไปถึง Apple Originals อย่าง The Morning Show และ See ที่บอกเลยว่าเป็นซีรีส์คุณภาพมาก เรื่องของบทและอาร์ตไดเร็กชั่นถือว่า ทำออกมาได้สูสีกับเจ้าอื่นทีเดียว ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเปิดสตรีมมิ่งเซอร์วิสและมีออริจินัลซีรีส์ของตัวเองเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่ก็น่าเสียดายที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คอซีรีส์ชาวไทยสักเท่าไร
แน่นอนว่า ข้อเสียข้อเดียวทุกคนพอจะเดาได้ของ Apple TV ก็คือมันที่มีเฉพาะบน IOS เท่านั้น หนุ่มๆ สาย Android ที่อยากจะดูก็ต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์รับ Apple TV มาติดตั้งเข้ากับ Smart Tv (ซึ่งป็นทางเลือกที่เสียทรัพย์เยอะมาก) สำหรับคนที่สนใจคงจะสงสัยว่าคุ้มค่าหรือเปล่า กับราคาแพ็คเกจที่แสนจะถูกจนเหมือนหลอกขายของ ต้องบอกว่าถึงแม้จะชูความพิเศษของ Apple Originals แต่ว่าถ้ามองในภาพรวมแล้ว Apple TV+ ก็ยังถือว่าเป็นมือใหม่สำหรับวงการสตรีมมิ่ง ที่สู้เรื่องจำนวนและความหลากหลายของคอนเท็นต์ที่มีกับแอพฯ อื่นไม่ได้เลย คงจะต้องรอดูกันต่อไปว่า หลังจากนี้เราจะได้เห็นซีรีส์ของ Apple มากขึ้นหรือเปล่า
Membership Package : 99 บาทต่อเดือน สามารถแชร์ และดูพร้อมกันได้สูงสุดถึง 6 อุปกรณ์ในบัญชีเดียวกัน (สำหรับการแชร์กันในครอบครัวเท่านั้น) และพิเศษสำหรับหนุ่มๆ ที่ซื้อ iPhone, iPad, iPod touch, Apple TV หรือ Macbook ใหม่ จะได้สิทธิ์ทดลองใช้บริการฟรีถึง 1 ปีด้วยนะ
_____________________________________________
HBO GO
น้องใหม่มาแรงแห่งวงการสตรีมมิ่งที่เพิ่งเปิดตัวให้บริการในไทยภายในปีนี้เอง แต่กลับกลายเป็นม้ามืดที่ออกตัวเร็วและแรง จนเราต้องหยิบยกมาแนะนำให้การ์ซงได้รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่า คอนเท็นต์หลักๆ ที่มีให้รับชมก็คือบรรดาหนัง ซีรีส์ และรายการทีวีต่างๆ ที่เป็นลิขสิทธิ์หรือออนแอร์อยู่ทางช่อง HBO ยกตัวอย่างเช่นมหากาพย์ซีรีส์อย่าง Game of Thrones ที่มีให้ชมครบแปดซีซั่น หรือจะเป็นซีรีส์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่กลับมีกระแสดังมากในไทยอย่าง Westworld, Chernobyl, Folklore เองก็มีให้ชมกันอย่างถูกลิขสิทธิ์ แค่นี้ก็ว่าพิเศษแล้ว แต่ว่า HBO Go ยังเพิ่มคลิปเบื้องหลังการทำงานของซีรีส์บางเรื่องเข้ามาไว้ให้ได้เปิดชมเพิ่มอรรถรสความอินถ้าเป็นหนุ่มสายครีเอทีฟก็ได้ศึกษาการทำงานฟอร์มยักษ์ไปในตัวด้วยเลย รวมถึงมี Live TV อีก 6 ช่องให้ได้ดูกัน เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งของ HBO Go ที่แข็งแกร่งมากจนทำให้สตรีมมิ่งเจ้าอื่นเกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ได้เลยล่ะ
ถ้าไม่ได้มีแพ็คเกจรับสัญญาณของช่อง HBO บนโทรทัศน์อยู่แล้ว แอพฯ นี้ก็เป็นอีกหนึ่งแพลทฟอร์มที่ทำให้เข้าถึงคอนเท็นต์ของ HBO ได้โดยไม่ต้องไปแอบดูซับเถื่อนอย่างไม่ถูกลิขสิทธิ์นะ แถมราคาก็ถูกกว่าแพ็คเกจรับสัญญาณบนโทรทัศน์เกือบครึ่งหนึ่งด้วย เราขอสรุปสั้นๆ ให้กับ HBO Go เลยแล้วกันว่า “คอนเท็นต์ดี ราคาไม่แรง (อาจจะ)ถูกใจจนแซงนำหน้าเจ้าอื่นไปเลย”
Membership Package : 149 บาทต่อเดือน สามารถแชร์กับเพื่อนได้ถึง 5 คนในบัญชีเดียวกัน แต่ดูพร้อมกันได้แค่ 2 อุปกรณ์เท่านั้น
_____________________________________________
We TV
ถ้า HBO Go เป็นม้ามืดของคอนเท็นต์ฝั่งตะวันตก We TV ก็คงเป็นม้ามืดของคอนเท็นต์ฝั่งตะวันออก เพราะถึงแม้จะเปิดตัวมาได้เพียงปีกว่าๆ แต่ก็ขยับขยายตัวอยู่ตลอดเวลา จนเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแอพฯ สตรีมมิ่งใหญ่ของเอเชียเลยก็ว่าได้ เมื่อก่อน We TV จะรู้จักกันแค่ในแวดวงของคนที่ชอบดูหนังและซีรีส์จีนเท่านั้น จนกระทั่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพราะบรรดาสาวไทยติดอกติดใจซีรีส์เรื่อง The Untamed หรือซีรีส์ปรมาจารย์ลัทธิมาร ที่แอพฯ ถือลิขสิทธิ์สตรีมมิ่งอยู่เจ้าเดียวในขณะนั้น (แถมมีซับไทยที่แปลเร็วอีก) ทำให้ชื่อของ We TV เริ่มคุ้นหูสตรีมมิ่งชาวไทย จนแอพฯ หันมาขยายฐานผู้ใช้งานด้วยการเพิ่มคอนเท็นต์ของไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อย่าง My Engineer The Series, ฉลาดเกมส์โกง, บังเอิญรัก 2 และรายการทีวีอีกมายมาย รวมไปถึงซีรีส์เกาหลีอีกหลายเรื่องที่มีเฉพาะแค่ใน We TV เท่านั้นอย่าง Mr. Heart, Twenty – Twenty, Where Your Eyes Linger, Pop Out Boy
แต่ลักษณะการให้บริการของ We TV จะต่างออกไปจากแอพฯ อื่นๆ ในลิสต์ ตรงที่คอนเท็นต์ทั้งหมดสามารถเข้าชมได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย สายเก็บเรื่องเก่าๆ บอกเลยว่ามีแต่ได้กับได้เพราะแทบไม่ต้องเสียอะไรเลยนอกจากค่าแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตส่วนตัว แต่ถ้าเป็นสายดูซีรีส์ หรือรายการใหม่ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนั้น เราขอแนะนำให้สมัครแพ็คเกจแบบ VIP น่าจะคุ้มกว่า เพราะทำให้เราสามารถดูตอนใหม่ล่วงหน้าได้ถึงสองตอน ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือรู้ตอนจบเร็วกว่าคนอื่นๆ ถึงสองสัปดาห์ ไม่ต้องกังวลว่า จะเผลอเปิดเจอสปอยล์จนหมดสนุกไปเสียก่อน และข้อสำคัญที่เราเชียร์ให้สมัคร VIP ก็คือคุณภาพเสียงที่ได้จะดังชัดเจนดีกว่าแบบดูฟรีมากๆ ภาพละเอียดแบบ 480P ก็ไม่เป็นไร แต่เสียงไม่ชัดไม่ได้นะ ไม่งั้นจะหมดอรรถรสในการรับชมไปเลยละ
Membership Package : 149 บาทต่อเดือน สามารถแชร์และดูพร้อมกันได้ถึง 2 อุปกรณ์ในบัญชีเดียว
_____________________________________________
MUBI
ขอขยับมาเอาใจคอหนังนอกกระแสกันบ้างกับเว็บสตรีมมิ่งขวัญใจคอหนังทั่วโลก ก่อนจะขยับเข้ามาทำเป็นแอพฯ บนสมาร์ทโฟนให้เข้าถึงได้อย่างสะดวกมากขึ้น และอย่างที่ได้บอก MUBI เหมาะสำหรับคนที่หนังนอกกระแสมากที่สุด เพราะรวบรวมเอาหนังในแนวนี้จากหลากหลายประเทศมาไว้ให้ได้ชมกัน ทั้งเรื่องที่มีรางวัลการันตีบ้างหรือไม่มีเลยก็ตาม แม้กระท่ังหนังนอกกระแสของไทยหลายๆ เรื่องที่ถูกแบนเพราะคาบเกี่ยวเรื่องการเมือง ก็เคยแวะเวียนเข้าไปฉายในแอพฯ นี้อยู่บ่อยๆ รวมไปถึงหนังคลาสสิกที่เก่ามากๆ ก็มีให้ได้ชมกันเฉพาะที่ MUBI เท่านั้น แต่ความพิเศษที่ทำให้แตกต่างจากสตรีมมิ่งอื่นๆ ก็คือ MUBI มักจะเชิญผู้กำกับหรือศิลปินดังหลากหลายคนมาจัดเพลย์ลิสต์หนังแล้วเปิดให้ได้ดูกันอย่างฟรีๆ ที่ผ่านมาก็เคยมีลิสต์ของ Hedi Slimane จาก Celine มาจัดลิสต์นี้ไว้ตอนเดือนเมษายน และอีกหนึ่งข้อก็คือ MUBI จะเก็บคอนเท็นต์แต่ละเรื่องเอาไว้ในระบบเพียงแค่เรื่องละ 30 วันเท่านั้น ซึ่งสามารถมองได้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถ้าเป็นสายดองเรื่องที่ชอบไว้ดูทีเดียวเยอะๆ ก็อาจจะไม่ชอบเงื่อนไขนี้ไปเลย แต่อีกหลายคนก็มองได้ว่า MUBI จะมีคอนเทนต์ที่หลากหลายมากกว่าเจ้าอื่น เพราะหมุนเวียนเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอด
ปกติ MUBI จะคิดค่าบริการแยกเฉพาะเรื่อง แต่ก็ยังมีแพ็คเกจรายเดือนแบบ Unlimited ให้สมัคร ถ้าชอบหนังคลาสสิกหรือหนังนอกกระแสอยู่แล้ว เราคิดว่าแพ็คเกจนี้คุ้มค่ากว่าแน่นอน แต่ก่อนที่จะไปสมัครกันขอบอกไว้ก่อนว่า ถ้าไม่ใช่หนังจากไทย แอพฯ จะไม่มีซับภาษาไทยให้นะ ถ้ามองหาตัวช่วยสกิลล์ภาษาอังกฤษ MUBI ก็คืออีกหนึ่งสนามทดสอบที่ดีเลยล่ะ
Membership Package : 229 บาทต่อเดือน สามารถแชร์ได้ถึง 5 คนในบัญชีเดียวกัน แต่สามารถรับชมพร้อมกันได้แค่ 2 อุปกรณ์เท่านั้น
