Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Beauty

‘The Best Sustainable Beauty Product of 2022’ ผลิตภัณฑ์บิวตี้รักษ์โลกที่น่าจับตามองในปีนี้

รวมผลิตภัณฑ์ความงามที่โอบรับความยั่งยืนในทุกมิติ
Beauty

อุตสาหกรรมความงามในตอนนี้เรามักจะพบกับคำว่า ‘ดีต่อสิ่งแวดล้อม’ ‘ยั่งยืน’ ‘รีฟิล’ และคำอีกมากมายวนเวียนอยู่ในวงการความสวยความงามอยู่ในตอนนี้ เป็นเพราะว่าปัจจุบันเทรนด์ ‘ความงามที่ยั่งยืน’ หรือ ‘Sustainable Beauty ’ ได้กลายมาเป็นเทรนด์ที่สายบิวตี้อินอยู่ในตอนนี้ จึงทำให้ปัจจุบันมีแบรนด์บิวตี้รักษ์โลกผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด และยังไม่รวมไปถึงแบรนด์บิวตี้ชื่อดังหลายๆ แบรนด์ก็ได้ปรับตัวโอบรับกับเทรนด์ความยั่งยืนนี้ด้วย สาเหตุเป็นเพราะผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นตระหนักและให้ความสำคัญต่อโลกของเรากันมากขึ้น โดยมีผลสำรวจว่าผู้บริโภคกว่า 76% นั้นมองหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่โอบรับกับความยั่งยืน 

เทรนด์ความงามรักษ์โลกนี้เกิดจากที่อุตสาหกรรมความงามนั้นเติบโตขึ้นสูงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ความงามทั่วโลกมีผลิตภัณฑ์ออกใหม่มากกว่า 40,000 ชิ้นต่อหนึ่งปี แถมแต่ละแบรนด์ก็ได้แข่งขันกันในเรื่องของโปรโมชั่นทำให้ราคาของบิวตี้โปรดักส์นั้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น จนทำให้สาวกบิวตี้นั้นบริโภคสินค้าความงามมากเกินความจำเป็น และเมื่อมีบิวตี้โปรดักส์มากเกินไปผลเสียที่ตามมาก็คือ ‘ขยะ’ จากผลิตภัณฑ์บิวตี้ต่างๆ ที่เหลือใช้ของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นแพ็กเกจจิ้ง กล่อง รวมถึงที่กันกระแทกซึ่งล้วนก่อผลเสียต่อโลกของเราทั้งนั้น 

แต่ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งเท่านั้นที่จะสามารถทำร้ายโลกของเราได้เพราะว่า การขนส่งสินค้า กระบวนการผลิต พลังงานที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรม การเก็บเกี่ยวส่วนผสม และที่มาของส่วนผสมต่างๆ นั้นก็สามารถทำร้ายโลกของเราได้เช่นกัน วันนี้ LIPS เลยรวบรวมผลิตภัณฑ์บิวตี้รักษ์โลกในรูปแบบต่างๆ จากแบรนด์ความงามรักษ์ให้ทุกคนได้รู้จักและเป็นอีกทางเลือกในการบริโภคสินค้าความงามให้เคียงคู่ไปกับคำว่ายั่งยืนอย่างสมบูรณ์ 

Refillable Product

เช่ือว่าสายบิวตี้รักษ์โลกหลายๆ คนจะต้องมองหาผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่สามารถ ‘Refill’ หรือ ‘รีฟิล’ ได้เพราะนอกจากมันจะช่วยลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังช่วยเราลดค่าใช้จ่ายด้านความสวยความงามลงไปได้อีกเพราะว่าโดยส่วนมากราคาของผลิตภัณฑ์รีฟิลที่นำมาเดิมในแพ็กเกจจิ้งดั้งเดิมนั้นมักจะมีราคาที่ถูกลงกว่าการซื้อครั้งแรกเกือบครึ่งหนึ่งเลย 

ปัจจุบันที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นทำให้ตัวเลือกของผลิตภัณฑ์ที่รีฟิลได้นั้นมีหลากหลายตั้งแต่เคาน์เตอร์แบรนด์ไปจนถึงแบรนด์ดรักสโตร์ เป็นเพราะว่าผลิตภัณฑ์ชนิดนี้สามารถลดจำนวนของขยะพลาสติกได้อย่างมหาศาล แถมการรีฟิลนั้นยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าทางเลือกรักษ์โลกอื่นๆ เช่น การรีไซเคิล หรือการย่อยสลายบรรจุภัณฑ์เพราะทางเลือกเหล่านี้นั้นต้องใช้พลังงานในการกระบวนการย่อยสลายหรือรีไซเคิล 

Recommend Products:

‘Fenty Skin Hydra Vizor Invisible Moisturizer Broad Spectrum SPF 30 Sunscreen’ ครีมกันแดดจาก Fenty Skin ที่นอกจากจุดเด่นของกันแดดที่ไม่ทิ้งคราบขาวไว้หลังทาและส่วนผสมอย่าง Vitamin B3 ที่ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส่แล้ว ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ยังสามารถรีฟิลได้ด้วยและแพ็กเกจจิ้งของกันแดดตัวนี้ก็ไม่ต้องง้อกล่องและพลาสติกต่างๆ ที่จะสร้างขยะเพิ่มให้กับโลกของเรา 

มาต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ในไลน์รักษ์โลกน้องใหม่จาก Chanel อย่าง ‘N°1 De Chanel Revitalizing Cream’ ครีมบำรุงผิวที่สามารถรีฟิลได้แถมมีส่วนผสม 95% มาจากธรรมชาติ แถมทางแบรนด์ยังใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเช่น กระปุกแก้วรีไซเคิล ฝาปิดที่ทำจากวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ เรียกว่าไลน์ N°1 De Chanel เป็นต้นแบบของแบรนด์ลักชูรีที่ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์รักษ์โลกเลย

Bar Soap Product

‘สบู่ก้อน’ หรือ ‘Bar Soap’ อาจจะเป็นทางเลือกอันล้าหลังในการชำระล้างร่างกายสำหรับใครหลายๆ คนแต่ในปี 2022 นี้สบู่รูปแบบคลาสสิกนี้อาจจะมาทวงบัลลังก์ของพวกเขาคืน เพราะไม่ว่าแชมพู เจลอาบน้ำ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวชนิดต่างๆ นั้นใช้แพ็กเกจจิ้งพลาสติกจำนวนมากสำหรับการบรรจุเนื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขา 

แบรนด์บิวตี้รักษ์โลกหลายๆ แบรนด์จึงหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวโดยเปลี่ยนรูปแบบของมันจากแบบ ‘ขวด’ มาเป็นแบบ ‘ก้อน’ ซึ่งสามารถลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกไปได้อย่างมหาศาล แต่สำหรับใครที่กังวลว่าสบู่ก้อนนั้นจะทำร้ายผิวของเราเหมือนสบู่ก้อนคลาสสิกที่มีสารทำความสะอาดที่รุนแรง ขอบอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะปัจจุบันทั้งส่วนผสมและสูตรนั้นได้ถูกปรับปรุงให้เป็นมิตรกับร่างกายของเราเรียบร้อยแล้ว 

Recommend Products:

‘Aveda Shampure™ Nurturing Shampoo Bar’ เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ที่เราอยากแนะนำเพราะว่า Aveda เป็นบริษัทแรกที่ใช้วัสดุรีไซเคิลหลังการใช้งานของผู้บริโภคมาเป็นบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ แถมยังพัฒนาแชมพูรุ่นมาตรฐานของแบรนด์ให้มาอยู่ในรูปแบบของสบู่ก้อนอีกด้วย ซึ่งประสิทธิภาพของสบู่สระผมก็คงไม่ต้องห่วงเพราะเรื่องผม Aveda คือปังจริง! ขยับมาที่แบรนด์ดรักสโตร์กันบ้างอย่าง ‘Cerave Hydrating Cleanser Bar’ แบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการดูแลปราการผิว นอกจากโฟมล้างหน้าและมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวปังของแบรนด์แล้วสบู่อาบน้ำก้อนนี้เป็นอีกไอเท็มเด็ดของแบรนด์ที่ได้รับคำแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังด้วย ในส่วนผสมประกอบด้วยสารกักเก็บความชุ่มชื้นและดูแลผิวมากมาย เช่น  Hyaluronic Acid และ Ceramides 

Eco-Friendly Packaging

อย่างที่เรารู้กันว่าขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์บิวตี้นั้นมีจำนวนที่สูงมากต่อปีโดยเฉพาะขยะประเภทพลาสติกที่ถูกนำไปรีไซเคิลเพียง 9% ของขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์บิวตี้ทั้งหมด จึงทำให้หลายๆ แบรนด์ได้ออกผลิตภัณฑ์ที่ ‘Eco-Friendly Packaging’ ขึ้นมานอกจากบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีฟิลได้หรือใช้ซ้ำได้

ซึ่งแพ็กเกจจิ้งเหล่านี้นั้นผลิตจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ แก้ว กระดาษ และที่สำคัญวัสดุเหล่านี้นั้นสามารถนำไปรีไซเคิลได้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากๆ ทำให้หลายๆ แบรนด์ก็เริ่มหันมาใช้ Eco-Friendly Packaging เพื่อโอบรับกับเทรนด์รักษ์โลกกันมากขึ้นและพยายามอุดรอยรั่วของผลิตภัณฑ์ประเภท Refillable ที่จะกลายเป็นขยะพลาสติกหากผู้บริโภคไม่ได้ใช้ซ้ำ 

Recommend Products: 

มาเริ่มกันที่ชิ้นแรกอย่าง ‘Garnier Green Labs Hyalu-Melon Replumping 3 in 1 Serum Cream with Hyaluronic Acid + Watermelon’ เซรั่มไฮบริดที่รวมขั้นตอนเซรั่ม มอยเจอร์ไรเซอร์ และกันแดดเอาไว้ในขวดเดียว นอกจากใช้ง่ายของมันแพ็กเกจจิ้งของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้แล้วยังมีจุดเด่นคือเซรั่มขวดนี้ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลถึง 100% และใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตถึง 59% อีกด้วยเรียกว่าครบสูตรรักษ์โลกมากๆ 

ชิ้นต่อมาใครเป็นสายเมคอัพอินดี้จะต้องร้องว้าวเพราะ ‘Saie Slip Tint Dewy Tinted Moisturizer’ นั้นเป็น Tinted Moisturizer ที่ใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพที่ทำมาจากอ้อยและยังสามารถรีไซเคิลได้ นอกจากนั้น Saie ยังมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนและเลิกใช้พลาสติกในทุกๆ กระบวนการของแบรนด์อีกด้วย

Reusable Pads

ในขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอางและเตรียมผิวเราเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องใช้สำลีเป็นจำนวนมากต่อปีในการชำระล้างเมคอัพและสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไป ‘Single Use’ หรือ ‘ใช้ครั้งเดียว’ เป็นอะไรที่หลายแบรนด์ความงามนั้นให้ความใส่ใจและต้องการลบคำนี้ออกไปจากทั้งสารบบและขั้นตอนการบำรุงผิวของผู้บริโภค วงการความงามจึงเกิดผลิตภัณฑ์ความงามที่เรียกว่า ‘Reusable Pads’ หรือสำลีที่สามารถใช้ซ้ำได้ ถึงแม้ว่ามันจะให้ความรู้สึกแปลกไปจากสำลีปกติพอสมควรแต่มันสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าและช่วยรักษาโลกของเราไปพร้อมกันได้เลย

Recommend Products: 

‘Paula’s Choice Reusable Cotton Rounds’ สำลีผ้าฝ้ายจากแบรนด์สกินแคร์ที่ให้ความสำคัญกับส่วนผสมและความอ่อนโยนชื่อดัง นอกจาก 2% BHA Liquid Exfoliant ยอดฮิตของแบรนด์ Paula’s Choice ก็ได้ออกสำลีผ้าฝ้ายตัวนี้ออกมาสำหรับสายบิวตี้รักษ์โลกแถมมากับถุงสำหรับซักเรียกว่าครบและจบมากๆ อีกผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อง่ายและมีขายในไทยแถมมีฟังชั่นคล้ายๆ กันเราขอโยนมงให้ ’Sephora Collection Reusable Cotton Pads’ เลย

Sustainable Ingredients

อย่างที่เรากล่าวไปในข้างต้นว่านอกจากผลิตภัณฑ์และแพ็กเกจจิ้งองค์ประกอบอื่นๆ ของผลิตภัณฑ์บิวตี้นั้นก็สามารถทำร้ายโลกของเราได้ โดยเฉพาะ ‘ส่วนผสม’ ที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของผลิตภัณฑ์บิวตี้ เมื่อเทรนด์บิวตี้รักษ์โลกได้พัฒนาไปก้าวหน้าซึ่งต้องยกความดีให้ผู้บริโภค ส่งผลให้แบรนด์บิวตี้ต่างๆ นั้นใส่ใจในเรื่อง ‘Sustainable Ingredients’ หรือ ‘ส่วนผสมยั่งยืน’ มากขึ้น เพราะการได้มาของส่วนผสมเหล่านี้รวมถึงการสกัดและพัฒนาส่วนผสมนั้นอาจจะสร้างก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก เรามาดูกันดีกว่าว่ามีแบรนด์ไหนบ้างที่ให้ความสำคัญในส่วนนี้

Recommend Products: 

‘Augustinus Bader The Eye Cream’ อายครีมจากแบรนด์สุดลักชูรี Augustinus เรียกว่าผลิตภัณฑ์บิวตี้นี้รักษ์โลกในทุกมิติมาก เพราะนอกจากบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีฟิลและรีไซเคิลได้ 100% แล้ว ส่วนผสมในอายครีมตัวนี้ยังมาจากธรรมชาติที่มาจากแหล่งที่ยืนยันได้และเป็นส่วนผสมที่ได้รับการยืนยันตามหลักวิศวกรรมชีวภาพ เท่านั้นยังไม่พอเพราะว่ากล่องของอายครีมตัวนี้ยังทำมาจากเส้นใยพืชหมุนเวียนที่สามารถรีไซเคิลได้ พูดเลยว่ารักษ์โลกแบบครบสูตรจริงๆ 

อายครีมอีกตัวที่มีส่วนผสมสุดยั่งยืนอย่าง ‘Tata Harper Restorative Eye Creme’ แบรนด์ลักชูรีสกินแคร์จากอเมริกา อายครีมตัวนี้ให้ช่วยแก้ไขเรื่องริ้วรอยและความสว่างรอบดวงตาแต่นอกจากผลลัพธ์ของมันแล้วส่วนผสมของอายครีมตัวนี้ยังมาจากฟาร์มของแบรนด์ในรัฐ Vermont แถมคิดค้นสูตรและบรรจุโดยคำนึงถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพราะแบรนด์ Tata Harper นั้นต้องการจะเป็นแบรนด์บิวตี้ที่รักษาสมดุลทางธรรมชาติ

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม