Search
Close this search box.
Search
Close this search box.

‘จิมมี่ & ทอมมี่’ คู่จิ้นคู่ใหม่จาก Why R U The Series ที่กลายเป็นคู่ซี้กันไปแล้ว

Interview / LIPS GARÇON

ร่วมงานกันมาตั้งแต่งานพิธีกรทาง DoMunDi TV แต่ใครจะรู้ว่า วันนี้จะได้มาเป็นคู่จิ้นที่ต้องใกล้ชิดกันถึงขนาดนี้ใน WHY R U the Series ทั้งสองจึงกลายเป็นคู่ซี้ที่ไปไหนไปกัน และผูกพันกันด้วยเสียงดนตรี

การ์ซง : ก่อนที่จะมาจอยแก๊ง DoMunDi ด้วยกัน แต่ละคนทำอะไรกันมาก่อนบ้าง
ทอมมี่ : ก่อนหน้านั้นทอมรับราชการทหารครับ เพิ่งไปเป็นทหารเกณฑ์ที่ปราจีนบุรีมา 2 ปี ครับ
จิมมี่ : ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่เลย ทางพี่ผู้จัดการส่งโปรไฟล์ไปให้พี่อ๊อฟ  DoMunDi แล้วพี่อ๊อฟสนใจก็มาเลยได้มาทำตรงนี้ครับผม
ทอมมี่ : จริงๆ เราได้ร่วมงานกันมาหลายงานแล้วเหมือนกันนะ แล้วก๊วน DoMunDi จะสนิทกันอยู่แล้ว เราไปทำกิจกรรมร่วมกันจนเหมือนรู้จักกันมานาน

การ์ซง :     ได้ยินมาว่า ตอนแคสต์ซีรีส์เรื่องนี้เขาถามก่อนว่า อยากคู่กับใคร แล้วเราก็เหมือนใจตรงกันใช่ไหม แสดงว่า เราต้องมองเห็นอะไรที่ทำให้รู้สึกคลิกกันแน่ๆ
ทอมมี่ : จริงๆ ผมว่าตอนคุยมันเป็นการรับส่งมุก  เราเป็นคนที่มุกเรี่ยราดเหมือนกันน่ะ
จิมมี่ : เป็นคนไม่ได้มีความแพรวพราวเหมือนกันดีกว่า เวลาเล่นมุกเราจะเล่นไปแล้วคนก็จะงง มุกแป้กตลอด ก็เลยทำให้ผมสนิทกับพี่ทอมมี่

การ์ซง : แล้วพอต้องมาเล่นซีรีส์คู่กัน มีเขิน มีหลุดบ่อยไหม
ทอมมี่ : เขินครับ แต่ว่าพวกเราทำเวิร์กช็อปกันเยอะมาก ซึ่งช่วยได้เยอะมากๆ ครับ แต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่นะ บางทีฉากเอาหน้าเข้าใกล้กันก็ยังรู้สึกจั๊กจี้อยู่ หรือจังหวะที่อยู่บนเตียง แล้วต้องเอาตัวทับกัน สมมติต้องมานั่งตรงขาอ่อน มันรู้สึกจั๊กจี้น่ะ
จิมมี่ : นั่นแหละ ผู้ชายสองคนอยู่ๆ ต้องมาทำอะไรแบบนี้ กลายเป็นว่า เราต้องปรับตัวกันมากทีเดียวล่ะ แต่พอทำไปบ่อยๆ ก็เริ่มชินเอง

การ์ซง : ก่อนหน้านี้เคยดูซีรีส์วายมาก่อนไหม
ทอมมี่ : ผมเคยเล่นซีรีส์วายมาแล้วเรื่องหนึ่ง แต่เป็นแค่บทเล็กๆ ผมก็เลยศึกษามาบ้าง
จิมมี่ : สำหรับผมนี่ไม่เคยดูเลยครับ เป็นคนที่ไม่ได้ตามดูซีรีส์วายเลย ปกติผมไม่ค่อยดูหนัง ดูละคร ไม่ค่อยดูซีรีส์อะไรครับ เล่นเกมอย่างเดียว
ทอมมี่ : ของทอม ก็คล้ายๆ กันครับ เราทั้งคู่ไม่ค่อยดูหนังเลย เราเข้ากันได้เพราะฟังเพลง ชอบฟังเพลงอินดี้ เพลงแบบที่คนไม่ค่อยฟังกันน่ะครับอย่างเพลงพี่ฮิวโก้ พี่น้อย วงพรู
จิมมี่ : ใช่ครับ จริงๆ เราคุยกันเรื่องเพลงเยอะมากครับ แล้วเรายังเล่นกีต้าร์เหมือนกันอีกด้วย ก็นั่งเล่นกีตาร์ด้วยกัน แล้วก็เล่นเพลงพวกนี้ครับด้วยกัน
ทอมมี่ : จิมมี่เขาเล่นกีต้าร์เก่งกว่าผม เขาจะเก่งตรงแกะเมโลดี้ได้ดีกว่า แพตเทิร์น การตีคอร์ดเขาจะคมกว่าผม ผมจะไปทางร้องเพลงมากกว่า
จิมมี่ : พี่ทอมมี่เขาร้องเพลงดีกว่าผมเยอะครับ ผมจะไม่ถนัดร้องเพลงเลย ชอบร้องเพลงนะ แต่ไม่มีความมั่นใจในการจะไปร้องให้คนอื่นฟัง ผมก็เลยยกหน้าที่นี้ให้พี่ทอมมี่แล้วกัน

การ์ซง : นอกจากฟังเพลงเหมือนๆ กันคิดว่านิสัยอะไรที่เหมือนกันอีกบ้าง
จิมมี่ : เป็นคนขี้เกรงใจครับ ไม่กล้าที่จะบอกว่า เราอยากได้อะไรไปตรงๆ เพราะเราไม่อยากไปทำให้เขาเดือดร้อน  ก็เลยกลายเป็นคนขี้เกรงใจจนเกินไป
ทอมมี่ : ผมจะเป็นคนที่ถ้าสมมติคนอื่นอยากได้อะไรก็จะพูด แต่ผมถึงแม้อยากได้อะไรก็ตาม ผมจะยกให้คนอื่นก่อน นอกจากเรื่องนี้แล้วผมว่า ผมเป็นคนที่คุยเรื่องตลกเฮฮา แล้วรู้สึกว่ามันเหมือนกับว่า คนที่เล่นมุกฝืดเหมือนกัน แล้วมันคุยกันรู้เรื่อง

การ์ซง : ถ้าถามเรื่องข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละคน คิดว่ารู้จักกันมากน้อยแค่ไหน
จิมมี่ : ถ้าพวกรายละเอียดพวกนั้น ผมจำไม่ค่อยได้หรอก เพราะผมเป็นคนขี้ลืมมาก เรื่องวันเกิดนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย เราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย

“เราไม่ได้กุ๊งกิ๊งกันถึงขั้นจะต้องจำวันเกิดแต่ผมจะรู้ว่า จริงๆ เขาต้องการอะไร กำลังคิดอะไรอยู่ ถึงขั้นนั้นเลยครับ ผมจะรู้ว่า เขาขี้เกรงใจ อย่างผมนั่งกินอะไรอยู่ ผมรู้ว่าเขาอยากกิน แต่เขาแค่ไม่กล้าที่จะเข้ามาขอกิน”

ทอมมี่ : ผมรู้ว่า จิมมี่เป็นคนที่ไม่ค่อยโกรธใคร เป็นคนเรื่อยๆ แต่ถ้าจังหวะโมโหขึ้นมาเมื่อไร เขาเป็นคนที่น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่เขาก็พยายามที่จะควบคุมตัวเอง อย่างเวลาถ่ายซีรีส์ บางทีถ่ายฉากนี้แล้วรู้สึกไม่ได้ดั่งใจตัวเอง  เขาจะเป็นคนที่โทษตัวเองตลอด
จิมมี่ : ใช่ ผมกับพี่ทอมมี่จะเป็นคนที่โทษตัวเองตลอด เหมือนเราจะพยายามที่จะไม่ไปโทษคนอื่น แต่เราจะโทษตัวเองว่า เราไม่ดี เราไม่อยากจะไปทำให้เขาเดือดร้อน ผมว่าเราสองคนเหมือนกันตรงนี้

การ์ซง : ทั้งสองคนนอกจากเล่นซีรีส์คู่กัน ถ่ายรายการด้วยกันแล้ว อยากทำโปรเจ็กต์อะไรร่วมกันอีกบ้างไหม
ทอมมี่ : ผมอยากชวนไปทำกิจกรรมที่ผมชอบ อยากพาไปยิงปืน ตอนเป็นทหารผมเป็นครูสอนยิงปืนสั้นครับ ถือเป็นงานอดิเรกที่ชอบมาก แทบจะรักเลยก็ว่าได้ ตอนเป็นทหารจบออกมาผมแทบจะอยากไปเรียนเป็นครูต่อด้วยซ้ำ 
จิมมี่ : ปกติผมชอบเล่นเกมยิงปืนมากเลยครับ ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมคิดว่า ตัวเองจะถนัดในพวกเกม First Person Shooter พวกนี้ครับ แต่ถ้าเกิดว่าจะให้ชวนพี่ทอมมี่ไปทำอะไรดี ผมว่าผมจะชวนพี่ทอมมี่ไปเล่นเครื่องเล่นเครื่องเล่นแนวแอดเวนเจอร์ อย่างพวกบันจี้จั๊มพ์ เพราะผมรู้ว่า พี่ทอมมี่เป็นคนกลัวความสูง ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัวนะ แต่ผมอยากไปเล่นแล้วก็ถ่ายคลิปเป็น Vlog ไปด้วยกัน แล้วก็อาจจะหาช่องทางใด ช่องทางหนึ่งลง แล้วก็ให้คนมาติดตาม ว่าเราจะไปไหน ไปทำอะไรกัน
ทอมมี่ : จริงๆ ผมกลัวนะ แต่ว่าในหัวลึกๆ ผมก็อยากเอาชนะความกลัว คือไปเล่นสวนสนุกมาหลายครั้งมาก แต่ไม่กล้าเล่นอยู่เครื่องเดียว คือ ไจแอนท์ดร็อป ที่ขึ้นไปแล้วดิ่งลงมาน่ะ หรืออย่างการขึ้นลิฟต์แก้วที่ขึ้นไปชั้นสูงๆ ผมก็ขาสั่นแล้วแหละ 

การ์ซง : ทอมมี่กลัวความสูง แล้วจิมมี่กลัวอะไร
จิมมี่ : ผมกลัวสัตว์มีพิษแทบจะทุกชนิด อย่างพวกงู แมงป่อง ตะขาบ รู้สึกว่า ถ้าเกิดเราโดนกัด มันน่ากลัว อีกอย่างหนึ่งที่กลัว คือ กลัวน้ำทะเลลึก เพราะตอนเด็กๆ ผมเคยจมน้ำ จมในสระว่ายน้ำทั่วไปนั่นแหละ แต่ผมกลัวพวกทะเลลึก เพราะเราไม่รู้ว่า มันมีอะไรอยู่ข้างล่าง เรามองไม่เห็นว่าอะไรอยู่ใต้น้ำ  ไม่รู้ว่าอยู่ๆ จะมีตัวอะไรว่ายขึ้นมาหรือเปล่า

อ่านบทสัมภาษณ์เวอร์ชั่นเต็มได้ใน LIPS GARÇON No.51 : SUMMER BOY

┃ขอขอบคุณโรงแรม Centara Grand at CentralWorld โทร. 0 2100 1234
┃เสื้อผ้าจาก : Bottega Veneta, Prada

┃Photos : Nucha J.
Styling : Anansit K.

Related Articles

29 April 2565

แวะไปเช็คอินที่ CDGRE ไลฟ์สไตล์คาเฟ่และร้านอาหารสุดเท่ ที่รวบตึงสามตัวท็อปของวงการอาหารและสตรีทแวร์ไว้ด้วยกัน

1 April 2565

แอบส่องแนวคิดและชีวิตในวันว่างของเจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ แห่ง BNK48

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม