Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Interview

Born Beautiful – อลิน บูลกุล

ทายาทสาวสวยลุคนางแบบแห่งอาณาจักรฟาร์มโชคชัย
Interview

เจ้าของใบหน้าสวยหวานและรูปร่างเพรียวสูงราวกับนางแบบผู้นี้ คือ เฟิร์น-อลินบูลกุล บุตรสาวคนโตของ ชัย บูลกุล แห่งฟาร์มโชคชัย และปรียานุช บูลกุล อดีตนางแบบชื่อดัง ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักความอบอุ่น และการเลี้ยงดูที่เปิดกว้างทางความคิด ซึ่งนับเป็นเบ้าหลอมสำคัญที่ทำให้เด็กสาวเติบใหญ่ขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีทัศนคติความคิดความอ่านฉลาดเฉลียว มีความมั่นใจในตัวเอง เป็นนักวางแผนที่มีความมุ่งมั่น และความพากเพียรพยายาม

     อลินในวัย 18 ปีเพิ่งจบการศึกษาในระดับไฮสคูลมาหมาดๆ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์กรุงเทพฯ เธอเป็นเด็กสาวที่รักการเรียนรู้และชื่นชอบการทำกิจกรรม ทั้งยังเป็นนักกีฬาตัวยง ที่เล่นกีฬาได้หลายประเภท เป็นเด็กสาวที่มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และมีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูง

     “ก่อนที่หนูจะมาเรียนต่อที่ฮาร์โรว์ หนูเรียนที่โรงเรียนสาธิตรังสิตมาก่อนค่ะ หนูเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม ชอบเล่นกีฬา หนูเล่นกีฬาเยอะมาก ตั้งแต่ฟุตบอล รักบี้ เทนนิส วอลเล่ย์บอล ว่ายน้ำ ที่ชอบที่สุดคือขี่ม้า หนูขี่ม้ามาตั้งแต่เด็ก ขี่ตามคุณแม่ค่ะ หนูเป็นนักกีฬาของโรงเรียนไปแข่งกีฬาบ่อยครั้ง ก็เป็นการฝึกฝนตัวเองในเรื่องของความมีวินัย ความรับผิดชอบ การรู้แพ้รู้ชนะ รวมถึงเรื่องความสามัคคีค่ะ คือต้องบอกว่าสมัยยังเด็กชีวิตค่อนข้างเอ็กซ์ตรีมมาก เพราะคุณพ่อก็ชอบเล่นกีฬาหลายอย่าง คุณพ่อฝึกทุกคนในครอบครัวเล่นสกี ซึ่งเป็นกีฬาโปรด เป็น Family Activity ที่เราจะไปสกีกันปีละครั้ง เป็นเรื่องที่สนุกมากสำหรับหนู

     …ตั้งแต่เด็กหนูชอบเรียนหลายอย่าง ชอบวิทยาศาสตร์ ชอบชีววิทยา แต่พอโตขึ้นหนูชอบ History มากกว่า คือการเรียนประวัติศาสตร์เป็นวิชาโปรดของหนู แต่มีหลายคนชอบถามว่าจะเรียนไปทำไม หนูคิดว่าประวัติศาสตร์เป็นรากฐานของทุกอย่าง ที่ทำให้เรารู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน มีความเป็นอยู่ทางสังคม วิถีชีวิต เศรษฐกิจ มีวัฒนธรรม ประเพณี ที่สืบทอดกันมาอย่างไร นอกจากนี้หนูยังมีความสนใจในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วยค่ะ เคยมีความคิดเหมือนกันว่าอยากเป็นนักการทูต แล้วก็อยากเป็นครูด้วยค่ะ เพราะหนูชอบพูดชอบเล่าเรื่องมากๆ”

     ในราวเดือนมกราคม หรือต้นปีหน้า เด็กสาวจะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ ด้วยการออกเดินทางไกลไปเปิดโลกกว้างในการใช้ชีวิต พร้อมศึกษาหาความรู้ในระดับอุดมศึกษา ที่มหานครลอนดอนประเทศอังกฤษ

     “ในเดือนมกราคมนี้หนูจะไปศึกษาต่อที่ King’s College London ประเทศอังกฤษ หนูดีใจมากที่ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งนี้ เพราะหนูอยากเข้าเรียนที่นี่มาตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่เริ่มเลือกมหาลัย หนูดูโลเคชั่น ดูคอร์ส ดูคลาส ดูสังคม รู้สึกว่าที่นี่เข้ากับเราที่สุด หนูเลือกเรียนสาขา Business Management บริหารธุรกิจค่ะ เพราะจากความสนใจทั้งหมดที่มี หนูคิดว่าการบริหารสามารถนำมาใช้ในการทำงานได้จริงๆ ทั้งการสานต่อธุรกิจของครอบครัวและการทำงานในบริษัท Luxury Brand ชั้นนำต่างๆ หนูเป็นคนชอบแฟชั่นแล้วก็ชอบบริหารจัดการค่ะ ซึ่งตอนเด็กๆ หนูเคยมี ประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับสายงานนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นความชอบแล้วก็เป็นอะไรที่เราสนใจจริงๆ ตั้งใจว่าอยากจะฝึกงานและทำงานในสายนี้ค่ะ 

“ส่วนงานในวงการด้านแฟชั่น ถ้าถามว่า จะเดินตามรอยคุณแม่หรือไม่ ที่ผ่านมาหนูได้รับโอกาสที่ดี หนูได้ทำอะไรหลายอย่าง ตัวหนูเองก็ชอบอะไรที่สวยๆ งามๆ การได้ทำอะไรแบบนี้ก็มีความสุขสนุกทุกครั้ง แต่เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น ก็พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”

     …นอกจากนี้หนูตั้งใจว่าจะเรียนภาษาฝรั่งเศส เพราะตอนนี้เรียนมาสักพักหนึ่งแล้วชอบ หนูรู้สึกว่าสำเนียงการออกเสียงมันไพเราะสละสลวย แล้วเป็นภาษาสากลที่ใช้กันในทางฝั่งยุโรปค่อนข้างมาก คือหนูตั้งใจเรียนเตรียมตัวไว้สำหรับใช้ในอนาคต ถ้าได้ไปทำงานในบริษัท Luxury Brand ในประเทศฝรั่งเศสหรือการได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเดสทิเนชั่นในฝันของหนู ก็เลยอยากเรียนภาษาฝรั่งเศสให้เก่งรวมถึงภาษาจีนควบคู่กัน เพราะถ้าหากหนูต้องทำงานในแถบทวีปเอเชีย ถ้าเราต้องเลือกภาษาใดภาษาหนึ่งเอาไว้ใช้ในการทำงานก็ควรจะต้องเป็นภาษาจีนค่ะ

     …ส่วนความตั้งใจของหนูหลังเรียนจบปริญญาตรี หนูคิดว่าอยากจะไปเรียนต่อทางด้าน Luxury Brand Management ที่ประเทศฝรั่งเศส หรือที่สวิตเซอร์แลนด์ค่ะ เพราะทั้งสองประเทศนี้เขามีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องแบรนด์ระดับไฮเอ็นด์ และจะเรียน MBA ที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับจะต้องคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งกลับมาให้ได้ค่ะ ซึ่งหลังจากเรียนจบหนูก็จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่และเมื่อเราประสบความสำเร็จตามความตั้งใจ ในวันที่หนูเติบโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆ 

     …แล้วหนูก็อยากจะใช้ชีวิตในแบบที่เรียกว่า Work Life Balance มีความสุข ชีวิตมีความสมดุลในทุกด้านได้เดินทางไปในสถานที่ที่อยากไป เพียงเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้วค่ะ” 

┃Photography : Somkait K. 
┃ขอบคุณสถานที่ Chokchai Steakhouse Rangsit

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม