
หลังจาก lockdown มาหลายเดือนในที่สุดพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดินที่ตั้งอยู่ ณ อำเภอบางปะอินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ได้ฤกษ์เปิดให้เข้าชมงานหัตถกรรมสุดประณีตฝีมือช่างจากสถาบันสิริกิติ์กันอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
ภายในนิทรรศการยังคงเต็มไปด้วยงานหัตถศิลป์ที่สุดแสนวิจิตร ไม่ว่าจะเป็น บุษบกมาลาพระที่นั่งพุดตานถมทอง เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์จำลอง ฉากไม้แกะสลักเรื่องสังข์ทอง ฉากผ้าปักเรื่องอิเหนา ฯลฯ ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นนับเป็นงานศิลป์ชั้นสูงที่ต้องอาศัยฝีมือช่างที่ผ่านการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ และใช้เวลานานนับปีๆ ในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน ระดมฝีมือทำงานถมทอง งานคร่ำ งานเครื่องเงินเครื่องทอง งานลงยาสี งานปักผ้า งานแกะสลักไม้ งานแต่งปีกแมลงทับ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นงานช่างที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน

ฉากจำหลักไม้ตำนานเพชรรัตน์
ผลงานชิ้นแรกที่รอต้อนรับอยู่ ณ อาคารบริการนักท่องเที่ยว คือ ฉากจำหลักไม้ตำนานเพชรรัตน์ อันแสนสง่างามและอลังการ ตั้งตระหง่านเป็นจุดถ่ายภาพเช็คอินเป็นจุดแรก ฉากจำหลักไม้นี้ตั้งประกบด้วยเสาเม็ดทรงมัณฑ์บนม้าไม้ขาคู้ จำหลักลายใบเทศพื้นฉากจำหลักไม้ ว่าด้วยเรื่อง ตำนานเพชรรัตน์ ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเทวดา ฤๅษี และคนธรรพ์ พากันไปเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อทูลถามถึงบ่อเกิดของแก้วเพชรรัตน์ทั้ง 9 ประการ

บริเวณโถงทางเข้าพิพิธภัณฑ์ต้อนรับด้วยห้องปีกแมลงทับสีเขียวเหลือบรุ้งอันแสนวิจิตรตระการตา มีทั้งโคมระย้าขนาดยักษ์รูปหงส์ และพญานาค ตกแต่งด้วยปีกแมลงทับสีล้อกันไปกับผนังขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยงานสานย่านลิเภาสอดปีกแมลงทับสุดละเอียดอ่อน เป็นชิ้นงานที่หากพิศดูใกล้ๆ จะต้องทึ่งไปกับฝีมือช่าง ซึ่งต้องไว้ ณ ที่นี้ว่า แมลงทับที่นำมาใช้ประดับประดาในงานนั้นเป็นแมลงทับที่ทิ้งตัวตายตามธรรมชาติ

ตามด้วยห้องนิทรรศการใหญ่ ที่จัดแสดงงานฝีมือเครื่องเงินเครื่องทอง ลงยาสี หมู่เรือพระที่นั่งจำลองจากขบวนเรือพระราชพิธี ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงศ์ เรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ และเรือพระที่นั่งศรีประภัศรไชย ที่กลางลำเรือประดิษฐานบุษบกทองคำ ประกอบฉัตร เรียงรายอย่างสง่างาม

ไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ คือ ฉากไม้แกะสลักเรื่องสังข์ทองและหิมพานต์ ที่ผูกแบบจำหลักไม้ตามเค้าภาพของฉากด้านหน้าเรื่องสังข์ทองในฉากเมืองและวิมานเดียวกัน แต่แบ่งเป็นสองเรื่อง ซึ่งจะได้ชมวิมานหรือปราสาทองค์เดิมในเรื่องหิมพานต์ มีหมู่สัตว์หิมพานต์ ทั้งจัตุบท ทวิบาท ครุฑ นาค และกินรากร มิ่งไม้ หลากพันธุ์ บรรดาเทพยดานิกรบำเรอสุรินทร หมู่อสุรยักษ์ ขุมสมบัติ ไกรลาสผา กรอบฉากนี้ผูกลายเดียวกันกับอีกด้านเรื่องสังข์ทอง แต่ที่ฐานสิงห์นาคเกี้ยวด้านนี้จำหลักรูป กินเรศรูปมนุษย์ชายข้างหนึ่ง รูปกินรีรูปมนุษย์หญิงข้างหนึ่งติดปีกหางอย่างกินนร


บนชั้นสองยิ่งทวีความอลังการด้วยฉากถมทองขนาดใหญ่สีทองอร่าม เรื่องรามเกียรติ์ ถ่ายทอดผ่านงานถมทองในรูปแบบสามมิติ อันเป็นศิลปะโบราณที่สืบสานกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และบุษบกมาลาจำลองแบบจากพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ ที่ผสมผสานงานฝีมือจากช่างถึง 7 แผนกด้วยกัน อันได้แก่ แกะสลักไม้ เครื่องเงินเครื่องทอง ช่างถมทอง ช่างคร่ำ งานตกแต่งปีกแมลงทับ และงานย่านลิเภา

นอกจากนี้ยังจัดแสดงพระที่นั่งจำลองหลายองค์ เช่น พระที่นั่งพุดตานถมทอง สร้างจำลองแบบพระที่นั่งพุดตานจำหลักไม้วังหน้า และพระที่นั่งพุดตานคร่ำทอง สร้างจำลองแบบพระที่นั่งพุดตานจำหลักไม้ที่พระบรมมหาราชวัง เป็นต้น

และต้องบอกว่า ถึงแม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลป์เก่าแก่ แต่ก็ถูกจัดระบบวางผังไว้เป็นหมวดหมู่ พร้อมเทคโนโลยีเครื่องบรรยายส่วนตัว (Audio Guide) ที่มีให้เลือกถึง 10 ภาษา พร้อมจอบรรยาย และจอทัชสกรีนแสดงส่วนต่าง ๆ ของชิ้นงานขนาดใหญ่อย่างเจาะลึก ถ้าหากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานใดก็สามารถรับทราบได้ในทันที
สำหรับการเข้าชมนั้นทางพิพิธภัณฑ์เตรียมมาตรการการป้องกันเชื่อไวรัสโควิด-19 ไว้อย่างครบครัน แต่ทั้งนี้ต้องขอบอกผู้เข้าชมไว้ก่อนว่า ขณะเข้าชมรบกวนไม่สัมผัสกระจก หรือชิ้นงาน และขอความกรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน
ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เปิดทำการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.30 น.
(หยุดทุกวันจันทร์ เทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์)
ค่าบัตรเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท
นักเรียน/นักศึกษา/ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปท่านละ 75 บาท
┃Photography : Arts of the Kingdom Museum