Search
Close this search box.
Search
Close this search box.
HOME / Culture / Tech / Gadget

แกะกล่อง! HTC Vive XR Elite แว่นวีอาร์ฟังก์ชั่นล้ำแบบไร้การเชื่อมต่อ

โลกเสมือนจริงอยู่ใกล้ แค่ใส่แว่นวีอาร์
Culture / Gadget / Tech

ตามไปชมมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีระดับโลก CES 2023 ที่นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ได้เกิดศึกชิงความเป็นหนึ่งในกลุ่ม ‘แว่น VR ระดับไฮเอนด์’ เมื่อ HTC เปิดตัว HTC Vive XR Elite ออกมาข่มขวัญคู่แข่ง จนกลายเป็นดาวเด่นแซงหน้า Meta Quest Pro แว่นวีอาร์ของคุณพี่ Mark Zuckerberg ที่ชิงเปิดตัวไปเมื่อไตรมาสก่อน 

VIVE XR Elite – Thrills and Wonders Where Realities Meet

LIPS แกะกล่องแว่นวีอาร์โฉมใหม่ ชำแหละกันให้ดูทุกฟังก์ชั่นว่าทำไม HTC Vive XR Elite จึงน่าซื้อและได้ชื่อว่าเป็นแว่นวีอาร์ที่น่าลอง น่าเล่นที่สุดตอนนี้ (ก่อนที่ Apple จะปล่อยของ!)  

VIVE XR Elite HTC

จุดเด่นแรกของ Vive XR Elite ที่ทำได้ดีกว่าเรือธงในตลาดบนอย่าง Quest Pro ก็เห็นจะเป็นน้ำหนักตัว 625 กรัม ที่ลดภาระแก่ศีรษะและลำคอของผู้สวมใส่ได้มากกว่า Quest Pro ซึ่งมีน้ำหนัก 722 กรัม

ขณะเดียวกัน Vive XR Elite ยังเป็นแว่น VR & AR แบบสแตนด์อะโลนที่ประมวลผลในตัวเบ็ดเสร็จ โดยไม่ต้องพึ่งพามือถือ เครื่องคอมพ์ หรือคอนโซลเกมแต่อย่างใด พร้อมให้ผู้ใช้งานสวมศีรษะแล้วดำดิ่งสู่โลกเสมือนจริงได้ทันที 

ที่เจ๋งอีกอย่างคือ เทคโนโลยีการติดตามมือและนิ้วแบบเรียลไทม์ในระดับลงลึกถึงกระดูก! ช่วยให้ผู้ใช้สามารถคลิก ลาก เลื่อน และพิมพ์ข้อความ ด้วยการเคลื่อนไหวมือไปในอากาศอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเล่นเกม ดูหนัง ออกกำลังกาย หรือแม้แต่ทำงานกับงานออกแบบ 3 มิติ ได้ถนัดมือสุดๆ

อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ไม่มีใน Quest Pro แต่จัดไว้ให้ใน Vive XR Elite ก็คือเซ็นเซอร์เชิงลึกเพื่อความสมจริงในการรับรู้สิ่งรอบตัว ร่วมด้วยการใช้ภาพสีแบบฟูลคัลเลอร์จากกล้องติดตาม (Tracking Camera) มุมกว้างจำนวน 4 ตัว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล เพื่อนำมาแสดงผลบนจอภาพด้านในแว่นด้วยความละเอียดระดับ 4K ที่ 3840 x 1920 พิกเซล

Vive XR Elite เขย่าสเปกแรงด้วยชิปเซต Snapdragon XR2 แรม 12 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB อัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 90 Hz และให้มุมมองภาพ 110 องศา ไม่ถึงกับว้าวเว่อร์ แต่ก็ไม่นับว่าขี้เหร่แต่อย่างใด (มุมมองตามนุษย์ 200 – 220 องศา)

ตัวแบตเตอรีออกแบบได้อย่างชาญฉลาด โดยเป็นส่วนหนึ่งของก้านแว่นด้านหลังที่สามารถถอดออกไปชาร์จไฟได้และให้พลังงานอย่างต่อเนื่องถึง 2 ชั่วโมง และที่ต้องปรบมือให้เลยก็คือ การแก้ปัญหาให้มนุษย์แว่นได้สำเร็จ เพราะ Vive XR Elite สามารถปรับเลนส์ใกล้-ไกลในตัว เพื่อให้คนที่มีปัญหาค่าสายตาได้เห็นภาพชัดแจ๋ว โดยไม่ต้องใส่ ‘แว่นซ้อนแว่น’ อีกต่อไป

ยัง..ยังไม่หมดนะ (พอเถอะ พี่มาร์กจะร้องไห้แล้ว) Vive XR Elite ยังเปิดตลาดมาด้วยราคาเพียง 1,099 เหรียญสหรัฐ ซึ่งนับว่าอ่อนโยนต่อเงินในบัญชียิ่งกว่า Quest Pro ที่มีค่าตัวสูงถึง 1,499 เหรียญ!!

ปิดท้ายด้วยฟากฝั่ง Apple ที่มีข่าวลือ (และข่าวเลื่อน) มาหลายต่อหลายเดือนว่า ได้เตรียมแผนการที่จะเปิดตัว Reality One แว่น VR & AR แบบสแตนด์อะโลนเช่นกัน ทว่าหมัดฮุกบันลือโลกของบ้านนี้ก็คือ ความสามารถในการสแกนม่านตา ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นจริงก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ VR เจนใหม่ที่ประโยชน์ในหลายๆ วงการ เช่น การทำธุรกรรมทางธนาคารที่ย่อมมีความปลอดภัยมากขึ้น

แต่ในเมื่อนวัตกรรมที่ว่านั้นยังไม่มาเสียที พวกเราก็จงอยู่กับสิ่งที่มี..ไม่ใช่สิ่งที่ฝันไปก่อน เพราะเทคโนโลยี VR เทพๆ ตอนนี้ก็สร้างสีสันในการใช้ชีวิตให้กับพวกเราได้มากมาย

Words: Sasi Akkomee

ข้อมูลจาก:

Related Articles

เว็บไซต์ของเราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ เราได้อธิบายความหมายและวิธีการใช้คุกกี้ของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผย รวมถึงทางเลือกในการใช้คุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม